เมื่อวันที่2พ.ค.65 พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. มีคำสั่งเรื่อง แต่งตั้งชุดปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายเพื่อปราบปรามการบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด
คำสั่งระบุว่า ด้วย กองบังคับการตำรวจทางหลวง มีอำนาจหน้าที่ในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและปฏิบัติงานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและกฎหมายอื่นอันเกี่ยวกับความผิดทางอาญาที่เกิดขึ้นบนทางหลวงและทางหลวงพิเศษ ตามพื้นที่ในความรับผิดชอบ
รวมถึงการควบคุม ปราบปราม กวดขันจับกุมและตรวจสอบน้ำหนักการบรรทุกของยานพาหนะให้เป็นไปตามประกาศผู้อำนวยการทางหลวงพิเศษ ผู้อำนวยการทางหลวงแผ่นดิน และผู้อำนวยการทางหลวงสัมปทาน
เรื่อง ห้ามใช้ยานพาหนะที่มีน้ำหนัก น้ำหนักบรรทุกหรือน้ำหนักลงเพลาเกินกว่าที่ได้กำหนดหรือโดยที่ยานพาหนะนั้นอาจทำให้ทางหลวงเสียหาย เดินบนทางหลวงพิเศษ ทางหลวงแผ่นดินและทางหลวงสัมปทาน
เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามนโยบายผู้บังคับบัญชา จึงแต่งตั้งชุดปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายเพื่อปราบปรามการบรรทุกน้ำหนักเกินกว่อัตราที่กฎหมายกำหนด มี พล.ต.ต.เอกราชเป็นหัวหน้า พ.ต.อ.พฤธิพงศ์ นุชนารถ รอง ผบก.ทล. เป็นรองหัวหน้า
มีอำนาจหน้าที่ กวดขัน ตรวจสอบ บังคับใช้กฎหมาย ปราบปรามจับกุมยานพาหนะที่บรรทุกน้ำหนักเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ในพื้นที่รับผิดชอบของกองบังคับการตำรวจทางหลวง
และให้ยกเลิกคำสั่ง บก.ทล.ที่7/2565 ลงวันที่ 7 เมษายน 2565 เรื่อง แต่งตั้งชุดปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายเพื่อปราบปรามการบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป
คำสั่งนี้ รวมไปถึงการตรวจสอบตำรวจทางหลวงทั่วประเทศที่ปล่อยปละละเลยหรือถูกจับกุมได้ ว่ามีรถบรรทุกหนักผิดกฎหมายอยู่ในพื้นที่เอาจริงเอาจังถึงขั้นตั้งกรรมการคาดโทษทัณฑ์ กันอย่างรุนแรงด้วย
ที่มาของคำสั่ง เริ่มจากการที่สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยฯ เข้าพบพล.ต.ต.เอกราช เมื่อวัน 2 พ.ค.65
ร้องขอให้ ตำรวจทางหลวง ช่วยแก้ปัญหาการเอาเปรียบในการบรรทุก หรือขนส่งสินค้า ในยามราคาน้ำมันแพงพุ่งสูงไม่หยุด
สถานการณ์ในตอนนี้ ผู้ประกอบการคนไหนใครแบกน้ำหนัก ยิ่งเกินกฏหมายกำหนดได้มากเท่าไหร่ จะทำให้ต้นทุนลดลง
เอาเรื่องจริงมาคุย เพราะมีผลประโยชน์ทับซ้อน ผูกพันกันไปในหลายหน่วยงานใครเสนอราคาดูแลตำรวจตัดหน้าคู่แข่ง ไม่ถูกจับในเรื่องบรรทุกหนักเกินกำหนด คนนั้นได้ไปต่อ
ปฏิเสธไม่ได้ ผู้ประกอบการบางราย มีเส้นสายระดับรัฐมนตรี ผู้กว้างขวาง ในแวดวง รัฐบาล และมีอิทธิพลในพื้นที่ ไปอ้างกับผู้ประกอบการด้วยกันว่าสามารถเคลียร์กับตำรวจหลายหน่วยได้
สร้างพาวเวอร์ อำนาจ ขยายอิทธิพล ให้บรรดาผู้ประกอบการรายเล็ก รายน้อยต้องวิ่งมาหา
เมื่อธุรกิจตัวเองที่จะอยู่ไปต่อไม่ได้ ไหนจะต้องส่งค่ารถ ค่าเลี้ยงดูคนในองค์กรบรรดาลูกจ้าง พลขับ จำต้องยอมจ่ายราคาสูงขึ้นกับผู้อิทธิพลที่อ้างว่า แบกได้ในชนิดที่ว่าไม่เคยมีมาในประเทศ เบ่งบารมี ไม่มีที่สุด
จนสถานการณ์น้ำมันมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ คนในวงการที่ไม่สามารถแบกน้ำหนักได้เกิน ที่กฎหมายกำหนด อยู่ไม่ได้ ต้องออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม
แต่นั่นไม่เท่ากับตำรวจอาร์มสวยที่ถูกดีดออกนอกหน่วย ยังคอยสยายปีกอุ้มผู้ประกอบการที่มีเส้นสายเหล่านี้
ตำรวจแบบนี้แหละ ที่ทำให้ปัญหากล้วยๆไม่รู้จักจบสิ้น….
ต้องถามข้ามช็อตไปถึง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.เจ้าพ่อสอบสวนกลาง จะเอายังไงกับตำรวจโบราณเหล่านี้
กากีกลาย7/6/65