บิ๊กปั๊ด แท็กทีม บิ๊กใหม่ เปิดปฏิบัติการบุกจับมือปืนและผู้ร่วมขบวนการก่อเหตุยิง ทนายมานพ อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 จ.ระยอง
จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 65 เวลา 19.07 น. เกิดเหตุ คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน “บุกเดี่ยว” มาที่ปั๊มน้ำมัน ช.อำนวยทรัพย์ปิโตเลี่ยม เลขที่ 111 ม.4 ต.บ้านค่าย อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ประชิดโต๊ะทำงานที่ นายมานพ เสถียรเขตต์ ทนายความชื่อดัง อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 จ.ระยอง พรรคไทยรักษาชาติ และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย นั่งทำงานอยู่
จากนั้นใช้ปืนลูกโม่ .38 จ่อยิงใส่ ทนายมานพฯ 3 นัด เสียชีวิตต่อหน้าภรรยาและญาติที่อยู่ภายในปั๊มน้ำมัน ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
คดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญประชาชนอย่างยิ่ง และเนื่องจาก ผู้เสียชีวิต เป็นทนายความที่ต่อสู้เพื่อความยุติธรรมในพื้นที่และเป็นผู้คอยให้คำปรึกษาในการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่ทุจริตและกระทำผิดกฎหมาย ทำให้มีมูลเหตุจูงใจสลับซับซ้อนเป็นไปได้หลายทิศทาง
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งการ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. นำทีมสืบสวนสอบสวน ตามคำสั่ง ตร.ที่ 390/2565 ลงพื้นที่สืบสวนสอบสวน ร่วมกับ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผช.ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 , พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. , พล.ต.ต.ชัยต์พจน์ สูวรรณรักษ์ รอง ผบช.ภ.2 , พล.ต.ต.มนตรี เทศขันธ์ ผบก.ป. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 , พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จว.ระยอง
พ.ต.อ.อเนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.(สอบสวน) บก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.กก.สส.ภ.จว.ระยอง พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว พ.ต.อ.วราวุธ เจริญชนม์ รอง ผบก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.บัญชา คล้ายน้อย ผกก.สืบสวน 2 พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ตามคำสั่ง ตร.ที่ 390/2565 , กก.ปพ.บก.ป. หรือหนุมาน , กก.ปพ.บก.สส.ภ.2 หรือบูรพา 491 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.2
สืบสวนพบพยานหลักฐานว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุมีไม่ต่ำกว่า 2 คน วางแผนมาก่อเหตุอย่าง “มืออาชีพ” มีสำรวจพื้นที่ สะกดรอยติดตามทนายมานพฯ ไม่ต่ำกว่า 1 เดือน และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุนั้น คนร้ายจงใจไปจอดทิ้งไว้ในที่ดินรกร้างแห่งหนึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 4 กิโลเมตร ก่อนโดดไปขึ้นรถยนต์ของผู้ร่วมก่อเหตุอีกคน ที่จอดรอรับในพื้นที่เปลี่ยวใกล้จุดทิ้งรถขับหลบหนีไปด้วยกัน
จากการตรวจสอบพบว่า รถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุเป็นรถที่ถูกขโมยมา แจ้งความหายไว้ตั้งแต่ ปี พ.ศ.2557 ต่อมาตำรวจสืบสวนจนยืนยันตัวบุคคลที่เป็นมือยิงและคนพาหลบหนีได้ทั้ง 2 คน จากรอยนิ้วมือที่อยู่บนรถจักรยานยนต์ ได้รวบรวมพยานหลักฐานให้ พนักงานสอบสวน บก.ป. ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา
เพื่อออกหมายจับ นาย ปิติ อายุ 54 ปี (มือปืน) ชาว อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 29 ส.ค.65 กับพวกในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือโดยไม่มีเหตุอันสมควร และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชน” และอยู่ระหว่างตรวจสอบความเชื่อมโยงถึงผู้ร่วมขบวนการคนอื่น ๆ
ต่อมาวันที่ 30 ส.ค. 65 เวลา 14.00 น. พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.ได้นำกำลัง ชุดสืบสวน กก.ปพ.บก.สส.ภ.2 หรือ บูรพา 491 เปิดปฏิบัติการ บุกจับกุม นายปิติ นิชรัตน์ อายุ 54 ปี (มือยิง) ได้บริเวณ ปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ ถ.รัชดาภิเษก แขวงลาดยาว เขตจัตุจักร กรุงเทพมหานคร
ชั้นจับกุม นายปิติรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และให้การว่าใช้อาวุธปืนลูกโม่ยิงนายมานพ เสถียรเขตต์ ผู้เสียชีวิตจริง โดยเมื่อช่วงเดือน ก.ค.65 ที่ผ่านมา ตนและนายนิติพนธ์ หรือแบน ฉ่ำชื่น ได้ไปสำรวจพื้นที่ก่อเหตุมาแล้ว 1 ครั้ง ก่อนลงมือก่อเหตุ แต่ไม่ทราบว่าใครคือ ผู้ว่าจ้าง
หลังเสร็จสิ้นการจับกุม พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ได้นำตัวผู้ต้องหามาสอบปากคำขยายผลที่ บก.ป. ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะมีการตรวจสอบขยายผลเพื่อออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการรายอื่นๆ รวมไปถึงผู้จ้างวานต่อไป