บช.ไซเบอร์ เปิดยุทธการ”ผึ้งแตกรัง” บุกค้นบ้านซีอีโอสาว เม-พรีมายา หลังศาลออกหมายจับ กรณีอ้างลงทุน 6 พัน กำไร 15 ล้าน ในเวลา 3 เดือน ล่าสุดมอบตัวแล้ว อ้างมีเจตนาทำธุรกิจ ไม่ได้มีเจตนาหลอกลวงประชาชน
เช้าวันที่ 19 ม.ค.66 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. สั่งการ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.สอท.2,พ.ต.อ. กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ รองผบก.ปคม. พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี รรท.ผกก.2 บก.สอท.2 นำหมายค้นศาลอาญาที่ 62/2566 ลงวันที่ 18 ม.ค. เข้าตรวจค้น บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านลัดดารมย์ บางนา ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
เป็นบ้านพักของน.ส.พิชญ์นรี หรือ เม พรีมายา เจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้ชื่อแบรนด์ PRIMAYA (พรีมายา) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 41/2566 ลงวันที่ 17 ม.ค. ฐานความผิด โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน
ตรวจค้นไม่พบ เม พรีมายา มีเพียงแม่บ้านเป็นผู้ดูแลและพักอาศัย สอบถามให้ข้อมูลว่าได้ออกเดินทางออกจากบ้านไปกับนายสิทธานต์ หรือแซกแฟนหนุ่ม ตั้งแต่เมื่อวาน ไม่ได้บอกว่าจะเดินทางไปที่ใด เบื้องต้นได้ตรวจค้นหาพยานหลักฐาน พร้อมตรวจยึดผลิตภัณฑ์อาหารเสริมไปทำการตรวจสอบด้วย
นอกจากนี้ได้เข้าตรวจค้นที่ตั้งของบริษัท พรีม่า มายา จำกัด ด้วยเช่นกัน หมู่ที่ 2 ต.แพรกษาใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ
สำหรับการตรวจค้นครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจพบว่าน.ส.พิชญ์นรี หรือ เม พรีมายา เจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้ชื่อแบรนด์ PRIMAYA (พรีมายา)และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง ใช้ข้อความอันเป็นเท็จ ลักษณะเชิญชวนอ้างว่าลงทุน 6,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ได้เงิน 15 ล้านบาท พร้อมโพสต์ภาพภาพหญิงคนหนึ่งคู่กับรถหรูในโชว์รูม ในลักษณะเชิญชวนแต่เมื่อตรวจสอบพบว่าไม่เป็นไปตามข้อความที่ปรากฎ
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าทางพล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนแบ่งงานกระจายกำลังเพื่อปิดล้อมอีก 9 จุด ทั่วประเทศ เพื่อหาพยานหลักฐานและจับกุมผู้เกี่ยวข้อง เป็นไปตามยุทธการผึ้งแตกรังต่อไป
ล่าสุด เย็นวันเดียวกัน น.ส.พิชญ์นรี ตันติวิทย์ หรือ เม พรีมายา เจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชื่อดัง เดินทางมามอบตัวยัง กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) โดยเจ้าตัวให้การระบุว่า ตนมีเจตนาทำธุรกิจ แต่ไม่ได้มีเจตนาหลอกลวงประชาชนแต่อย่างใด.