ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น ให้เร่งปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบ อันส่งผลกระทบและสร้างความเดือดร้อนและส่งผลกระทบแก่พี่น้องประชาชนเป็นวงกว้าง
ชุดลาดตระเวนออนไลน์ สืบสวนนครบาล IDMB โดย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนผู้เดือดร้อนเป็นจำนวนมากว่า ถูกแก๊ง CALL CENTER กลุ่มนี้ หลอกลวงให้ร่วมลงทุนง่ายๆ แต่ได้รับค่าตอบแทนสูง แค่ลูกค้าโอนเงิน แล้วรอรับเงินปันผลตามอัตราและระยะเวลาที่แจ้งไว้ พบว่ามีเหล่าผู้เสียหายหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก ลงพื้นที่สืบสวน ติดตามเส้นทางจากเหล่าบัญชีม้าที่ผู้เสียหายโอนเงินไปให้
กระทั่งสืบทราบว่าพบเส้นทางบัญชีต้องสงสัยโดยเพิ่งเปิดบัญชีได้เพียงแค่ 4 เดือน แต่ปรากฏว่ามีเงินเข้าออกหมุนเวียนเพียงบัญชีเดียวกว่า 5 ล้านบาท มีลักษณะหากมีเงินเข้าบัญชี เงินในบัญชีจะถูกถอนออกจากบัญชีทั้งหมดเพียงไม่เกิน 5 นาที เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้เกาะติด สืบสวนเส้นทางการเงินของบัญชีดังกล่าว จนแน่ชัดว่าบัญชีดังกล่าวเป็นบัญชีที่ ก๊ง CALL CENTER ใช้เป็นบัญชีม้า
ต่อมาวันที่ 4 พ.ย.65 เวลา 13.45 น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก สส.บช.น., พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.อำนวย เงินนา สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.สส.1 บก.สส.บช.น.
เข้าจับกุมนางสาวณัฐชา อายุ 29 ปี ภูมิลำเนา ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ พนักงานออฟฟิศแห่งหนึ่งย่านอ่อนนุช ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ลงวันที่ 1 พ.ย.65
กล่าวหาว่า “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย เป็นการกระทำต่อบุคคลใด บุคคลหนึ่ง” จับกุมตัวได้ ปากซอยอ่อนนุช 70 แยก 3 แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ
สอบสวนรับว่า รับเปิดบัญชีม้าให้แก่กลุ่มมิจฉาชีพโดยเต็มใจ อ้างว่า ตกงานและมีเพื่อนมาแนะนำให้เปิดบัญชี มีค่าตอบแทนเพียงแค่หลักพันบาท คุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สน. บางยี่เรือ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ในส่วนของบัญชีม้าดังกล่าวจะได้ขยายผล สืบสวน ติดตามเส้นทางการเงินว่ามีบุคคลใดเกี่ยวข้องจะได้เรียกมาดำเนินการตรวจสอบ หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องจะขยายผลผู้ร่วมขบวนการต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ฝากเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชน “พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อเหล่ามิจฉาชีพหลอกลวงในทำนองให้เปิดบัญชีธนาคารหรือมอบข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ให้แก่บุคคลเหล่านี้เพียงแค่หวังค่าตอบแทนเพียงเล็กน้อยโดยเด็ดขาด เพราะคุณถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของต้นทางขบวนการการหลอกลวงของแก๊ง CALL CENTER ที่จะนำบัญชีหรือข้อมูลของท่านไปใช้ปกปิด อำพราง เส้นทางการเคลื่อนย้ายเงินที่หลอกผู้เสียหายมาได้เพื่อผลประโยชน์ของเหล่ามิจฉาชีพนั้นๆ
ที่สำคัญการกระทำของท่านถือว่าเป็นความผิดตามกฎหมายอาญาฐาน เป็นตัวการหรือผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานฉ้อโกง หรือความผิดฐานฟอกเงินตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพ.ศ. 2542 ต้องระวางโทษจำคุก 1-10 ปีหรือปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
