หนึ่งในวรรณกรรมคลาสสิกของจีนที่ทั่วโลกรู้จักกันดี ต้องมีชื่อ “Journey to the West” หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “ไซอิ๋ว” ต้องยืนเด่นอยู่ในรายชื่อลำดับต้น ๆ
ประพันธ์โดย “อู๋ เฉิงเอิน” นักเขียนนวนิยายและกวีในสมัยราชวงศ์หมิง (ค.ศ.1368–1644)
นวนิยายเรื่องนี้อิงมาจากการเดินทางแสวงบุญของ “พระภิกษุเสวียนจั้ง” นักบวชในนิกายมหายานของจีน เดินทางไปยังอินเดียเพื่อค้นหาคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์
“อู๋ เฉิงเอิน” ได้นำเรื่องราวนี้มาสร้างเป็นนวนิยายขนาดยาวที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน
“ไซอิ๋ว” เล่าเรื่องราวการเดินทางของ “พระถังซัมจั๋ง” พร้อมกับ 3 ลูกศิษย์ ได้แก่ ราชาวานร “เห้งเจีย” หรือ “ซุนหงอคง”, ปีศาจหมู “ตือโป๊ยก่าย” และ ปีศาจปลา “ซัวเจ๋ง” เพื่ออัญเชิญพระไตรปิฎกจากดินแดนชมพูทวีปกลับมายังจีน
ศิษย์ทั้ง 3 ทำหน้าที่ปกป้องคุ้มครอง “พระถังซัมจั๋ง” ระหว่างเส้นทางอันยาวไกลนั้น พวกเขาต้องเผชิญกับภยันตรายนานา ศิษย์ทั้ง 3 ต้องต่อสู้และปราบเหล่าปีศาจมากมายที่หวังจะได้กินเนื้อของ “พระถังซัมจั๋ง” เนื่องจากเชื่อกันว่าหากได้ลิ้มลองแล้วจะกลายเป็นอมตะ
ที่ผ่าน ๆ มาเราได้เห็นงาน “ไซอิ๋ว” มาแล้วในหลายเวอร์ชั่น ทั้งแบบภาพยนตร์และซีรีส์ ทุกชิ้นก็รักษาความเป็น “ไซอิ๋ว” ไว้อย่างมั่นคง นั่นคือการเป็นงานที่นำเสนอเชิงอุปมาอุปไมยเกี่ยวกับความพยายาม เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน มีดราม่าเจือบ้าง และให้ข้อคิดจากธรรมะมากมาย
ล่าสุด Shanghai Animation Film Studio ผู้นำและผู้ผลิตแอนิเมชั่นยักษ์ใหญ่ของจีน ได้ส่งผลงานที่ว่าด้วยเรื่องของ “ไซอิ๋ว” ออกมาให้ชมในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ในชื่อว่า “Nobody” งานกำกับของ “อวี่สุ่ย”
ผลตอบรับก็นับว่าไฉไลทีเดียว เพราะขึ้นแท่นเป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่น 2 มิติ ที่ทำรายได้สูงสุดในจีน มาถึงตอนนี้ก็ทำรายได้ทะลุ 1,000 ล้านหยวนไปเป็นที่เรียบร้อย
ส่วนคะแนนรีวิวความประทับใจก็เป็นไปในทางบวก บอกได้เลยว่าถึงจะไม่ใช่แฟนหนังแอนิเมชั่น ก็ไม่ควรพลาดภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยประการทั้งปวง!
ความสนุกของ “Nobody”คือ ตัวละครในเรื่องล้วนไม่ใช่ขบวนอัญเชิญพระไตรปิฎกของ “พระถังซัมจั๋ง”
https://www.youtube.com/watch?v=3ygWsbYEIh8
แต่เป็นเรื่องราวของ 4 ปีศาจตัวน้อยบนภูเขาหลางหลาง ที่สวมรอยเป็น “พระถังซัมจั๋ง”, “ซุนหงอคง”, “ตือโป๊ยก่าย” และ “ซัวเจ๋ง”
เหตุที่พวกเขากล้าปลอมตัวเป็นทีมแห่งตำนานไซอิ๋ว ก็เพราะมุ่งหวังจะได้กินเนื้อของ “พระถังซัมจั๋ง” เพื่อเป็นอมตะตามที่ได้ฟังคำเล่าลือกันมา
ความคิดอุตรินี้เกิดจาก “ปีศาจหมู” พากย์โดย “จื้อผิงเฉิน” ปีศาจผู้ต่ำต้อย ทำงานรับใช้ปีศาจที่มีอำนาจสูงกว่า ถูกกดขี่ข่มเหงตลอดเวลา ได้ชวนเพื่อนร่วมงานคือ “ปีศาจคางคก” พากย์โดย “หยางลวี่” ให้รีบเดินทางไปก่อนที่ “พระถังซัมจั๋ง” และเหล่าศิษย์ จะทำภารกิจที่ชมพูทวีปสำเร็จ
“ปีศาจหมู” และ “ปีศาจคางคก” เร่งหาเพื่อนร่วมทาง โดยได้ “ปีศาจพังพอน” พากย์โดย “เหวินเหลียงตง” และ “ปีศาจวานร” พากย์โดย “ชงหลิว” มาเพิ่ม จากนั้นก็แต่งองค์ทรงเครื่องให้เหมือนกับกลุ่ม “พระถังซัมจั๋ง”
แต่การจะเป็น “แก๊งไซอิ๋ว” ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเขาได้รับบททดสอบที่ยากเย็นเช่นกัน ทั้งยังต้องตบตาหลอกลวงผู้อื่น ต้องต่อกรกับปีศาจร้ายที่กำลังซุ่มทำแผนการใหญ่
การเดินทางของ “แก๊งไซอิ๋วกำมะลอ” ก็ไม่ต่างไปจากสิ่งที่กลุ่มของ “พระถังซัมจั๋ง” ต้องพบเจอ
แน่นอนว่าแม้เจตนาแรกเริ่มของ “ปีศาจหมู” จะไม่ใช่เรื่องดี ทว่าสถานการณ์หลายอย่างที่ถาโถมมาหาพวกเขา กลับเป็นสิ่งที่ช่วยชำระล้างและขัดเกลาความคิดให้พวกเขากลายเป็นผู้ที่มีคุณธรรมขึ้นมา
“Nobody” ถือเป็นงานที่ซ่อนนัยถึงยุคสมัยปัจจุบันไว้อย่างแนบเนียน ว่า 4 ปีศาจที่แทบจะไร้พลังวิเศษ ก็เปรียบเหมือนผู้คนที่รู้สึกเหมือนว่ามีชีวิตแบบไร้ตัวตน ไร้พลัง ต้องเวียนว่ายอยู่ในระบบการทำงานอันใหญ่โต
ถูกเพิกเฉย ถูกดับความฝันครั้งแล้วครั้งเล่าจนอยากหนีไปจากความอาภัพอับจนที่เป็นอยู่ พวกเขาพยายามที่จะรักษาคุณค่าของตนเอง รวมถึงความฝันอันยิ่งใหญ่
เหมือนว่าหนังจะสื่อให้เห็นว่าคนรุ่นใหม่จำนวนมาก กำลังเผชิญกับแรงกดดันจากโลกของการทำงาน พวกเขาปรารถนาที่จะหลุดพ้น เพื่อไปไขว่คว้าความฝัน
อีกอย่างที่ต้องชมก็คือลายเส้นของตัวละคร ที่สื่อออกมาได้อย่างน่ารักน่าตลกขบขัน ฉากหลังของเรื่องที่มีทั้งทิวทัศน์ ภูเขา ป่าไม้ วัดวาอาราม อาคารบ้านเรือนต่าง ๆ
เป็นงานผสมผสานเทคนิคการวาดภาพด้วยหมึกแบบดั้งเดิม สะท้อนถึงความลึกลับและยุคโบราณที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ฉายให้เห็นความงดงามตระการตายิ่งนัก.
Blue Bird 6/11/68
