ภาพยนตร์แนวสยองขวัญเรื่อง Smile ที่ออกฉายเมื่อปี 2565 เขียนบทและกำกับโดย พาร์คเกอร์ ฟินน์ ประสบความสำเร็จ ได้รับคำวิจารณ์เชิงบวกว่าเป็นงานสยองขวัญอันแปลกประหลาด กวาดรายได้จากทั่วโลกไปถึง 200 ล้านดอลลาร์
เมื่อตัวเลขตอบแทนกลับคืนมาขนาดนี้ ก็ไม่แปลกที่จะมี “ภาค 2” ตามมาในชื่อ Smile 2 หรือ “ยิ้มสยอง 2” กำกับโดย พาร์คเกอร์ ฟินน์เหมือนเดิม
Smile ภาคแรก บอกเล่าเรื่องราวของ “ดร.โรส คอตเตอร์” รับบทโดย “โซซี เบคอน” นักจิตบัดบัดในแผนกจิตเวชของโรงพยาบาลรัฐ ที่แม้จะมีหน้าที่ช่วยเหลือคนไข้ แต่ตัวเธอเองก็มีบาดแผลทางใจ
ทว่าปมความเจ็บปวดในอดีตกลับกลายเป็นแรงผลักให้เธออยากช่วยเหลือผู้คนที่มีปัญหาในจิตใจ จนได้พบหญิงสาวคนหนึ่งที่มีอาการป่วยทางจิตขั้นรุนแรง หวาดกลัวและนอนไม่หลับ ได้บอกเล่าให้ “ดร.โรส” ฟังว่ามีปีศาจทำหน้า “ฉีกยิ้ม”คอยตามหลอกหลอนเธออยู่
เจ้าปีศาจตนนี้จะสิงสู่ในร่างของคนหลายคนเพื่อนฝูงบ้าง คนแปลกหน้าบ้าง พอคน ๆ นั้น “ยิ้ม” ปุ๊บก็จะทำร้ายทำลายตัวเองอย่างน่าสยดสยอง
จากนั้น “ดร.โรส” ก็รับรู้ว่าปีศาจตนนั้นกำลังจะตามล่าเธอเช่นกัน และเธอต้องเผชิญกับเหตุการณ์สุดเลวร้าย หากพยายามหนีมัน!
เรียกได้ว่า Smile เป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอให้เห็นถึงความเจ็บปวดทางจิตใจ ความวิตกกังวล ความเศร้าหมอง ไปจนถึงภาวะซึมเศร้าเหยื่อทั้งหมดในเรื่องต่างเคยประสบกับการตระหนกตกใจจากการสูญเสียคนในครอบครัว คนที่เป็นที่รักมาก่อน
https://www.youtube.com/watch?v=ojv8214Q498
ขณะที่ Smile 2 ยังคงลักษณะดังกล่าวอย่างครบถ้วน เล่าเรื่องผ่าน “สกาย ไรลีย์” แสดงโดย “นาโอมิ สก็อต” ที่นอกจอในชีวิตจริงเธอคือดารานักร้องชาวอังกฤษ และในจอเธอก็รับบทเป็นศิลปินป๊อปชื่อดังระดับโลก
“สกาย ไรลีย์” ถูกเงินทองชื่อเสียงนำพาชีวิตของเพริดและดำดิ่งไปกับสุรายาเมา ฤทธิ์ยาเสพติดเล่นงานให้เธอพานพบกับอุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งใหญ่
ทำให้ “พอล” รับบทโดย “เรย์ นิโคลสัน” ดาราหนุ่มคู่รักของเธอ ที่เป็นคนขับรถ ต้องจบชีวิตลง
แม้หญิงสาวจะรอดมรณาอย่างปาฏิหาริย์ แต่ร่างกายและจิตใจก็บอบช้ำ ต้องใช้เวลาเยียวยาแผลกาย แผลใจ และเลิกยาเสพติด ทว่ามารดาและผู้จัดการของเธอ พยายามผลักดันให้ศิลปินสาวคืนสู่วงการ และออกทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลกพร้อมงานอัลบั้มใหม่
แต่ความเจ็บปวดในร่างกายไม่ได้จางหาย “สกาย” จำเป็นต้องกำจัดความเจ็บด้วยยาบางชนิด เพราะเธอมีชนักปักหลังว่าเป็นผู้มีประวัติใช้ยาเสพติด
เธอจึงลอบไปพบ “ลูอิส” สวมบทโดย “ลูคัส เกจ” อดีตเพื่อนร่วมชั้นเรียน ที่ผันตัวมาเป็นพ่อค้ายา
การมาเจอเพื่อนเก่าหนนี้ “สกาย” กลับพบกับสถานการณ์สุดประหลาดและทำให้ตกใจอย่างสุดขีด เมื่อ “ลูอิส” ยิ้มแย้มอย่างน่ากลัว จากนั้นลงมือทำร้ายตนเองจนตายไปต่อหน้าต่อตาเธอ
เมื่อพ้นฉากอันชวนอึ้งในห้องของ “ลูอิส” แล้ว ภาพยนตร์ก็นำผู้ชมไปติดตามชีวิตของ “สกาย” ที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ประหลาดหลายอย่างเสมือนกึ่งอยู่ในโลกของความจริง อยู่ในความฝัน หรือความหลอน
ผู้คนรอบข้างที่เธอพบเจอ ทั้งคนในแวดวงใกล้ชิด คนแปลกหน้า บางครั้งก็ทำหน้า “ยิ้ม” เหมือนอย่างที่ “ลูอิส” ยิ้มให้เธอเห็นก่อนที่เขาจะตายไป
เรื่องราวก็ค่อย ๆ เฉลยไปทีละเปลาะ ๆ ว่าสิ่งที่หญิงสาวผจญอยู่ก็คืออะไร พร้อมกับลุ้นว่าเธอจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่เลวร้ายลงเรื่อย ๆ อย่างไร
Smile 2 ไม้ได้เล่นงานแค่ตัวละครจนสะบักสะบอม เพราะว่ากันตามตรง
“ผู้ชม” ก็ดูเหมือนจะตกเป็น “เหยื่อ” ของ “รอยยิ้มสยอง” เหมือนกัน โดยเฉพาะฉาก “ตุ้งแช่” ให้ตกใจสะดุ้งโหยงแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว หรือสะพรึงกันรอยยิ้มบนใบหน้าของผู้คนจนทำเอาขนลุกขนชันได้
เห็นความบ้าคลั่งของตัวละคร จนทำให้ไม่วางใจในบรรยากาศและไม่ใว้ใจตัวละครทุกตัว และที่ต้องชมก็คือฉากพีคในช่วงท้ายเรื่อง…บอกเลยว่าทำได้สุดจริง ๆ!
Blue Bird19/10/67