The Conjuring : Last Rites – เดอะ คอนเจอริ่ง คนเรียกผี พิธีกรรมครั้งสุดท้าย
นับจากปี 2556 การปรากฏของภาพยนตร์ลึกลับสยองขวัญ The Conjuring ภาคแรก กำกับโดย “เจมส์ วาน” ผู้กำกับชาวออสเตรเลีย นับว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงาม
นำแสดงโดย “แพทริค วิลสัน” และ “เวร่า ฟาร์ไมก้า” รับบท “เอ็ด วอร์เรน” และ “ลอเรน วอร์เรน”
คู่สามีภรรยาที่มีตัวตนในโลกจริง โดยมีชื่อเสียงเลื่องลือในอาชีพ “นักสืบสวนด้านวิญญาณและนักปีศาจวิทยา” ทำคดีลึกลับเหนือธรรมชาติมาเป็นพันคดี
ต่อมา The Conjuring 2 : The Enfield Poltergeist ถูกสร้างออกมาในปี 2559 ยังใช้บริการกำกับของ “เจมส์ วาน” เหมือนเดิม แถมกอบโกยความสำเร็จท่วมท้น
จากนั้น The Conjuring 3 : The Devil Made Me Do It ที่ออกฉายในปี 2564 ได้เปลี่ยนมือผู้กำกับมาเป็น “ไมเคิล ชาเวส” ผู้กำกับชาวอเมริกัน
และภาคล่าสุดในลำดับที่ 4 ใช้ชื่อตอนว่า The Conjuring : Last Rites หรือ “เดอะ คอนเจอริ่ง คนเรียกผี พิธีกรรมครั้งสุดท้าย” ก็ยังเป็นงานที่อยู่ในมือของ “ไมเคิล ชาเวส”
อย่างที่รู้กันว่า The Conjuring เป็นภาพยนตร์แฟรนไชส์ที่กลายเป็น “จักรวาล Conjuring” เนื่องจากในระหว่างทางของการปล่อย The Conjuring ภาคต่าง ๆ ออกมา ก็จะมี “ภาคแยก” ที่ใช้ชื่ออื่น ๆ แต่จะมีตัวละครหรือเหตุการณ์ที่เชื่อมโยงกับ The Conjuring ไม่มากก็น้อย
ได้แก่ Annabelle 3 ภาค, The Nun และ The Nun 2 และ The Curse of La Llorona เมื่อบวกรวมกับ The Conjuring 4 ภาค ก็ต้องบอกว่าในจักรวาล Conjuring มีภาพยนตร์ทั้งหมด 10 เรื่อง
หากเรียงตามลำดับเวลาในเรื่องราว ไม่เกี่ยวกับปีที่ออกฉาย จะเริ่มจาก The Nun (ฉายปี 2561) เป็นเรื่องเกี่ยวกับแม่ชีผู้ชั่วร้าย เกิดขึ้นในปี 2495 ที่โรมาเนีย, Annabelle : Creation (ฉายปี 2560)
เรื่องราวเกิดขึ้นหลังจาก The Nun โดยเหตุการณ์ตุ๊กตาผีสิงสุดหลอนเกิดขึ้นที่รัฐแคลิฟอร์เนียในปี 2498, The Nun 2 (ฉายปี 2566) เรื่องราวเกิดขึ้นในปี 2499, Annabelle (ฉายปี 2557) เรื่องราวเกิดขึ้นในปี 2510 ทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย,
The Conjuring (ฉายปี 2556) เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดใน The Conjuring เหตุการณ์เกิดขึ้นในปี 2514 ที่รัฐโรดไอแลนด์, Annabelle Comes Home (ฉายปี 2562) เรื่องราวของตุ๊กตาผีสิงกลับมาหลอกหลอนอีกครั้งในปี 2515, The Curse of La Llorona (ฉายปี 2562) สร้างจากนิทานพื้นบ้านแถบละตินอเมริกาเรื่อง La Llorona
เรื่องราวของแม่ที่พยายามปกป้องลูก ๆ จากวิญญาณร้ายที่จ้องจะขโมยลูกๆของเธอไป เหตุเกิดในปี 2516 ที่นครลอสแอนเจลิส, The Conjuring 2 (ฉายปี 2559) “เอ็ด” และ “ลอเรน” เดินทางไปอังกฤษเพื่อช่วยเหลือครอบครัวหนึ่งที่ถูกวิญญาณร้ายหลอกหลอนในปี 2520,
The Conjuring : The Devil Made Me Do It (ฉายปี 2564) เรื่องราวการไล่ผีในร่างเด็กคนหนึ่งที่นำพาไปพบสถานการณ์ที่สะพรึงยิ่ง เกิดขึ้นในปี 2524 ที่รัฐคอนเนตทิคัต และ The Conjuring : Last Rites (ฉายปี 2568) สร้างจากเรื่องจริงของเหตุการณ์เหนือธรรมชาติที่เกิดขึ้นในบ้านแห่งหนึ่งในรัฐเพนซิลเวเนียในช่วงทศวรรษ 1970 และ 1980
The Conjuring : Last Rites นำพาผู้ชมไปพบ “เอ็ด” และ “ลอเรน” ในวัยวันที่ยังหนุ่มสาว โดย “ลอเรน” กำลังมีครรภ์แก่ แต่ยังออกเดินทางทำคดีสืบสวนสอบสวนเรื่องราวแปลก ๆ ที่เกี่ยวข้องกับภูตผีปีศาจที่เข้ามาวุ่นวายสร้างความปั่นป่วนให้กับผู้คน
https://www.youtube.com/watch?v=jrmZ_MXicHw
แต่คดีหนึ่งที่ทำให้ทั้งคู่เกือบต้องเสียลูกไปหลังจากเผชิญกับปีศาจร้ายลึกลับที่สิงสู่อยู่ในกระจกสลักไม้บานใหญ่
เดชะบุญที่เด็กในท้องรอดมาได้ และเติบโตเป็นเด็กสาวนาม “จูดี้ วอร์เรน” รับบทโดย “มีอา ทอมลินสัน” ผู้ชมเดาไม่ยากว่าเธอมีสัมผัสเห็นวิญญาณไม่ต่างจากมารดา
แน่นอนว่า “ลอเรน” รับรู้ว่าลูกสาวมีสัมผัสเห็นภูตผี แต่เธอเลือกที่จะให้ลูกรักผลักไสสิ่งที่เห็นออกไป และย้ำเตือนว่ามันไม่มีจริง
อย่างไรก็ตาม เหมือนว่าเรื่องคดีหลอนครั้งเก่านั้นยังค้างคาและมีบางสิ่งที่เฝ้ารอให้ “เอ็ด” และ “ลอเรน” รวมถึง “จูดี้” กลับไปเผชิญหน้าอีกครั้ง
ชะตาของพวกเขาจึงได้โคจรกลับไปพบกระจกใหญ่บานนั้น ซึ่งตกมาเป็นสมบัติของครอบครัวสเมิร์ล ที่อาศัยอยู่ในรัฐเพนซิลเวเนีย
และกำลังอกสั่นขวัญแขวนกับบ้านที่มีผีหลายตนสิงสู่อยู่ในบ้าน และออกมาหลอกหลอนทำร้ายสมาชิกในครอบครัวเป็นว่าเล่น
ความลุ้นระทึกของ The Conjuring : Last Rites นอกจากจะโหมใส่ฉากผีหลอกวิญญาณหลอนในแบบที่แทบจะไม่เหลือพื้นที่ให้หายใจ
เพราะแม้กระทั่งฉากที่หวังว่าจะผ่อนลมหายใจได้ ก็ยังมีเหตุการณ์สุดหลอนทำขนหัวลุก หนังยังใส่เรื่องราวที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนเข้าไปอย่างสนุก และรักษาความลับนั้นไว้จนสุดทาง
พร้อมกันนั้นผู้ชมก็ต้องลุ้นกับสุขภาพของตัวละครหลัก โดยเฉพาะ “เอ็ด” ที่มีสุขภาพไม่ดี แต่ยังต้องทุ่มเทช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านผีสาง
แต่หนังก็ให้ตัวช่วยสำคัญเข้ามาก็คือ “โทนี่” รับบทโดย “เบ็น ฮาร์ดี” แฟนหนุ่มของ “จูดี”
ซึ่งดูทรงว่า “เอ็ด” และ “ลอเรน” จะวางใจได้ ว่าพบคนดีที่เข้าใจความเป็นครอบครัว “วอร์เรน” เป็นคนที่จะมาดูแลลูกสาวได้อย่างดี รวมถึงช่วยดูแลห้องพิเศษที่เก็บกักวิญญาณร้ายที่อยู่ในบ้านของพวกได้
นั่นหมายความว่าจักรวาล The Conjuring ยังคงขยายต่อชิ้นงานอื่น ๆ ได้ต่อไปเรื่อย ๆ
โดยตัวละครศูนย์กลางของ The Conjuring อาจจะขยับจากรุ่นสู่รุ่น หลังจาก “เอ็ด” และ “ลอเรน” เป็นศูนย์กลางของจักรวาล The Conjuring มาโดยตลอด.
Blue Bird 6/9/68
