ภาพยนตร์เกี่ยวกับ “สงครามโลก” ที่มีการปรากฏตัวของตัวละครสำคัญอย่าง วินสตัน เชอร์ชิล นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ซึ่งพาชาติฝ่าฟันวิกฤติสำคัญในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ซึ่งถ้าให้เอ่ยชื่อชิ้นงานที่มีตัวละครนายกเชอร์ชิล ก็มีที่ผ่านตาไปเมื่อไม่กี่ปี เช่น Dunkirk หนังฟอร์มยักษ์ของผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน ส่วนอีกเรื่องก็คือ Darkest Hourที่ แกรี่ โอลด์แมน นักแสดงชาวอังกฤษสวมบท เชอร์ชิล
ล่าสุด The Ministry of Ungentlemanly Warfare หรือ “แสบจารชนคนพลิกโลก” ภาพยนตร์เรื่องใหม่ของ กาย ริตชี ผู้กำกับชาวอังกฤษ ที่เพิ่งส่ง “ปฏิบัติการระห่ำโคตรคนฟอร์จูน” (Operation Fortune: Ruse de Guerre) ออกมาให้ชมเมื่อปีที่แล้ว ก็ยังนำ วินสตัน เชอร์ชิล กลับคืนจอ สวมบทโดย โรรี่ คินเนียร์
ซึ่งบทบาทของผู้นำอังกฤษใน “แสบจารชนคนพลิกโลก” ก็คือเป็นแบ็คหลังให้กับกลุ่มจารชนผู้ที่ทั้งภักดีต่ออังกฤษและคนที่เกลียดนาซี ที่มีผู้นำจอมเผด็จการชื่อก้องโลกคือ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์
และยิ่งเห็นชื่อ กาย ริตชี ร่วมงานกับ เจอร์รี บรักไฮเมอร์ โปรดิวเซอร์ระดับตำนานของฮอลลีวูด ก็เรียกน้ำย่อยได้โข เชื่อว่างานนี้ “ปิดประตูความผิดหวัง” ไปได้เลย เพราะยี่ห้อระดับ กาย ริตชี เสิร์ฟความมันไม่ธรรมแน่นอน
แถมเหลือบดูรายชื่อนักแสดงที่ขนทัพกันมาก็รู้เลยว่าไม่เบา
ทั้ง เฮนรี คาวิลล์ พี่ซุปเปอร์แมนขวัญใจของหลายคน, อลัน ริตช์สัน ดาราหนุ่มร่างลึ้กจากซีรีส์ Reacher, อเล็กซ์ เพตตีเฟอร์ เจ้าของบทบาทซุปเปอร์ฮีโร่จาก I Am Number Four, เฮนรี โกลดิง พระเอกหนุ่มเจ้าเสน่ห์จากหนังดัง Crazy Rich Asians,
ฮีโร่ ไฟนส์ ทิฟฟิน ดาราหนุ่มชาวอังกฤษเคยรับบท ทอม ริดเดิล ใน Harry Potter and the Half-Blood Prince และสาวเดียวของเรื่อง เอซา กอนซาเลซ ดาราสาวสุดเซ็กซีจาก Baby Driver
โครงเรื่องหลักของ The Ministry of Ungentlemanly Warfare คือ 5 กลุ่มชายชาตรีนำโดย กัส มาร์ช-ฟิลลิปส์ (เฮนรี คาวิลล์) รับงานจากกองทัพอังกฤษ ทำภารกิจลับที่ชื่อ “ยุทธการโพสต์มาสเตอร์” ที่ปราจากความช่วยเหลือใดๆ จากอังกฤษ
นั่นหมายความว่าถ้าเจอฝ่ายอังกฤษ ก็จะถูกจับกุมแต่ถ้าโชคร้ายเจอฝ่ายเยอรมัน ก็เตรียมเดินทางสู่ปรโลกไปได้เลย
นั่นทำให้ กัส มาร์ช-ฟิลลิปส์ และผองเพื่อนคือ แอนเดอร์ส ลาสเซน(อลัน ริตซ์สัน) ชายชาวเดนมาร์กร่างกำยำฉายา “ขุนค้อนเดนิช” เชี่ยวชาญการใช้มีด ธนู และขวาน, จอฟฟรีย์ แอปเปิลยาร์ด (อเล็กซ์ เพตตีเฟอร์) เจ้าหน้าที่กองทัพอังกฤษ, เฟรดดี้ อัลวาเรซ (เฮนรี โกลดิง) มือฉมังด้านการวางระเบิด, เฮนรี เฮย์ส (ฮีโร่ ไฟนส์ ทิฟฟิน) นายทหารหน่วยคอมมานโดของอังกฤษ ต้องวางแผนอย่างรัดกุม
ยังดีที่ได้รับแรงประสานช่วยเหลือจากทีมภาคพื้นดินคือ แฮรอน (บาบส์ โอลูซันโมกุน) และ มาร์จอรี สจ๊วต (เอซา กอนซาเลซ) ที่ทำงานคอยท่าอยู่บนเกาะเฟอร์นันโด โป ในแอฟริกาใต้
https://www.youtube.com/watch?v=XTZ0CzH3HA0
ส่วนยุทธการโพสต์มาสเตอร์ ก็คือการขัดขวางอิทธิพลของกองทัพนาซีในมหาสมุทรแอตแลนติก
แน่นอนว่าเมื่อ “กองทัพต้องเดินด้วยท้อง” ก็ต้องตัดตอน “เรือส่งเสบียง” นั่นก็คือ “เรือดูเชซซา คอสตา” ของอิตาลี ที่เป็นพันธมิตรของนาซี ซึ่งจอดอยู่ท่าเรือเกาะเฟอร์นันโด โป ในทว่าเรือรบของทัพแดนมักกะโรนี ดันสร้างได้สุดแข็งแกร่ง ต่อให้ใช้ระเบิดตูมตามเท่าไหร่ ก็จมเรือไม่ลง
ทำให้ 5 หนุ่มต้องคิดวิธีใหม่แล้วก็ปิ๊งไอเดียว่า “ขโมย”ไปจากท่าเข้าสู่น่านน้ำสากลน่าจะเข้าท่ากว่า แต่นั่นทำให้พวกเขาต้องลงแรงขโมยเรือลากจูงไปด้วย ซึ่งก็นำไปสู่การต่อสู้อย่างเดือดพล่านวินาศสันตะโรไปทั้งชายฝั่ง
เรื่องราวเดินไปอย่างฉับไว และตามสไตล์ของ กาย ริตชี เราจะได้เห็นบทเดือดดุเด็ดเต็มพิกัด ทั้งการใช้อาวุธ สาดกระสุนอย่างบ้าคลั่งทั้งทักษะการต่อสู้ ในขณะที่ท่วงท่าปฏิบัติการของทีมนักแสดงจัดมาอย่างยียวนและสุดระห่ำ ผนวกรวมดราม่า ความฮาตลกร้าย และลุ้นระทึก กลมกลืนเป็นเนื้อเดียวอย่างสนุก เป็นไปตามลายเซ็นของ กาย ริตชี อย่างที่คอหนังคุ้นเคยกันในงานเรื่องก่อน ๆ ของเขา
เอาเป็นว่า The Ministry of Ungentlemanly Warfare ที่สร้างโดนอิงจากเรื่องราวจริง ๆ ในประวัติศาสตร์ แค่เห็นชื่อผู้กำกับ กาย ริตชี ก็ไม่มีอะไรที่ต้องหักคะแนนแล้ว!
Blue Bird4/5/67