VAR อีกครั้ง

VAR อีกครั้ง

จู้กหู้กรู้กราบ..สวัสดี

รอบสัปดาห์ทีผ่านมามีเรื่องให้พูดถึงมากมาย ทั้งการตายของมาราโดน่าหรือทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกลับมาชนะหลังจากโดนนำถึง 2-0

แมนยูไม่ต้องพูดถึงทีมนี้เขามี DNA ของผู้ชนะ การกลับมาจึงเป็นเหมือนสัญลักษณ์ น้าโอเล่ได้กล่าวไว้..

แต่..จู้กหู้กกู้ขอย้อนกลับไปเกมที่ ลิเวอร์พูลโดน วีเออาร์ เช็คล้ำหน้าสองจังหวะ ที่ยิงเข้าไป

จากนั้นมาเจอจุดโทษ ทดเวลา

รอบโบ เตะ โดนเท้าเวลเบค วีเออาร์ ย้อนมาดูจุดโทษ

กรรมการให้จุดโทษ เหตุผลคือ รอบโบ เตะ โดนเท้า เวลเบค

ทั้งที่ เวลเบค ครองบอลไม่ได้…แต่คือเตะโดนเท้า !!!

ในอดีตที่เราต้องการให้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการตัดสิน เพราะในหลายๆจังหวะมันแจ่มแจ้ง แต่ผู้ตัดสินมองไม่ทันด้วยตาเปล่า

แต่ตอนนี้เรากำลังทำให้ฟุตบอลที่ใช้การปะทะกันของร่างกายถูกกำหนดผลแพ้ชนะด้วยปลายสตั๊ดสัมผัสโดยที่ผู้ได้ประโยชน์ไม่ได้อยู่ในสถานะที่กำลังจะได้โอกาสทำประตูด้วยซ้ำ

เกมที่ ไบรท์ตัน เสมอ ลิเวอร์พูล มันทำให้คนในแวดวงลูกหนัง บางคนยอมรับว่ามันไม่น่าใช่จุดโทษ บางคนก็เห็นต่าง

นี่เป็นสิ่งที่กำลังถูกถกเถียงกันหนักมากในโลกออนไลน์ ทั้งแฟนบอลและเหล่ากูรู

“เมื่อทีมทำประตูได้ ปฏิกิริยาโดยธรรมชาติคือการกระโดดดีใจ ฉลอง แต่ทำแบบนั้นไม่ได้อีกแล้ว มันทำให้นักบอลต้องสะกดใจเพื่อรอดูผล VAR “

จู้กหู้กกู้นำสถิติทีมใหญ่ที่เสียประโยชน์จาก VAR มากที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้

ลิเวอร์พูล – 8 ครั้ง
แมนฯ ยูไนเต็ด – 4 ครั้ง
สเปอร์ส – 4 ครั้ง
อาร์เซน่อล – 1 ครั้ง
เชลซี – 1 ครั้ง
แมนฯ ซิตี้ – 1 ครั้ง

ขอปิดจบด้วยคำกล่าวของ เจมส์ มิลเนอร์

“ผมมั่นใจว่าไม่ใช่ผมคนเดียวที่ไม่ได้ตกหลุมรักในเกมฟุตบอลจากสถานการณ์ปัจจุบัน