ถ้าจะยกให้ Weapons หรือ “เวเพินส์”
หนังฝีมือกำกับของ “แซค เคร็กเกอร์” ผู้กำกับหนังและนักแสดงชาวอเมริกัน เป็นงานสยองขวัญเฉียบคมเรื่องหนึ่งของปี 2568 ก็คงไม่เกินเลยไปนัก
แม้เจ้าตัวจะมีผลงานมาไม่กี่เรื่องก็ตาม ส่วนหนึ่งที่ทำให้ “แซค เคร็กเกอร์” ถูกคอหนังจับตาในก้าวย่างของเขา ก็เนื่องจากหนังลึกลับสยองขวัญเรื่อง Barbarian ที่ฉายในปี 2565 ถือเป็นงานสร้างชื่อให้กับผู้กำกับคนนี้อย่างมาก
Weapons งานชิ้นล่าสุดของเขา พะยี่ห้อว่าเป็นงานสยองขวัญและระทึกขวัญ ก็ดูจะถูกคาดหวังไม่น้อย
หนังที่มีความยาว 2 ชั่วโมงนิด ๆ เรื่องนี้สามารถตรึงผู้ชมได้ตลอดไปจนถึงสุดทาง ไม่มีช่วงเวลาให้รู้สึกวอกแวกใจลอยไปคิดเรื่องอื่น หลายฉากที่ทำเอาขนหัวลุกวาบๆ แม้ในฉากนั้นจะไม่ได้มีอะไรที่ชวนหวาดเสียวก็ตาม
แต่ในฉากสยองชวนหลับตา คนเรียกได้ว่าทำหนัง จัดมาให้แบบไม่ออมมือ
ย้อนกลับไปดูโปสเตอร์และตัวอย่างหนัง ก็เผยอย่างจะแจ้งว่า Weapons เล่าถึงการหายตัวไปอย่างเป็นปริศนาของเด็กนักเรียนชั้นประถมต้นห้องหนึ่ง ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ทำผู้ปกครองขวัญเสียอย่างรุนแรงและหาแพะสักคนเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด
พุ่งเป้าโทษคุณครูสาวประจำชั้นของห้อง
แม้ว่าในกล้องวงจรปิดของหลาย ๆ บ้าน จะเห็นชัด ๆ ว่าเด็ก ๆ ต่างเปิดประตูพุ่งตัวออกไปด้วยท่วงท่าที่เหมือนนกกางปีก วิ่งหายไปในยามวิกาล ไม่มีใครรู้สาเหตุ
ส่วนเรื่องราวใน Weapons นั้น เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยกับกลวิธีเล่าเรื่องแบบนี้อยู่บ้าง
https://www.youtube.com/watch?v=RT4BZz8LaGI
หนังแบ่งเป็นเรื่องราวของตัวละครแต่ละคนออกเป็น “บทตอน” โดยไม่ได้เล่าเรื่องอย่างเป็นลำดับขั้นเหมือนเส้นตรง
แต่เอา “บทตอน” ของตัวละครแต่ละคนมาเชื่อมเหตุการณ์กัน จากนั้นก็ถักทอเข้าสู่เส้นเรื่องเดียวกัน เพื่อเฉลยว่าเรื่องจะไปจบตรงไหน
ขณะที่ระหว่างทางก็จะค่อย ๆ เฉลยปมปริศนาไปทีละจุด ๆ อย่างแยบยล
หนังเปิดเรื่องด้วยเสียงของเด็กหญิงคนหนึ่งบรรยายถึงเหตุการณ์การหายไปของเด็กชั้นประถมด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อย ก่อนจะพาผู้ชมเข้าสู่เรื่องราวสุดสยองที่เกิดขึ้นในเมืองเมย์บรู๊ค รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐฯ
เริ่มจากเด็กประถมฯ 17 คนตื่นขึ้นกลางดึกเหมือนโดนมนตร์สะกดบางอย่าง พวกเขาวิ่งกางแขนออกจากบ้านในเวลา 02.17 น. อย่างพร้อมเพรียงกัน มุ่งหน้าไปยังที่ไหนสักแห่ง และลับกายหายไปในความมืด
เรื่องราวการหายตัวไปของเด็ก ๆ เป็นเรื่องราวใหญ่โตของเมือง ท่ามกลางพายุแห่งความเศร้าโศกและงุนงงของผู้ปกครองที่หาสาเหตุไม่ได้ว่าทำไมลูก ๆ ของตนถึงวิ่งออกไปยามดึกสงัด
ความโกรธแค้นจึงไปลงที่ “จัสติน แกนดี้” (จูเลีย การ์เนอร์) ครูสาวประจำชั้นที่ก็งงงวยว่าลูกศิษย์ตัวน้อย ๆ ของเธอหายไปเกือบหมด
เหลือแต่ “อเล็กซ์ ลิลลี่” (แครี่ คริสโตเฟอร์) เด็กชายตัวเล็กที่นั่งอยู่โต๊ะหลังห้อง เขาเป็นลูกศิษย์เพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่หายไป
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้คุณครูสาวพยายามตามหาความจริงด้วยตนเอง
ขณะเดียวกัน “อาร์เชอร์ กราฟฟ์” (จอช โบรลิน) บิดาของเด็กนักเรียนคนหนึ่งที่หายตัวไป และมีความไม่พอใจครูประจำชั้นสาวอย่างยิ่งยวด ก็คอยสอดส่องจับตาดูเธอ พร้อมกับใช้ไหวพริบของตนเองแกะรอยตามหาลูก
กระทั่งในที่สุด “อาร์เชอร์” และ “จัสติน” ก็ได้พบกับเรื่องราวที่สุดจะพิสดาร จริง ๆ แล้วตัวละครหลักคือ “จัสติน” และ “อาร์เชอร์” ซึ่งต่างคนต่างมี “บทตอน” ของตนเองที่ทำให้ผู้ชมรู้จักตัวละครคู่นี้อย่างลึกซึ้ง
แต่ด้วยความเป็นหนังสยองขวัญที่เกาะเกี่ยวกับงานแนวสอบสวนสืบสวน จะมีตัวละครอื่น ๆ อาทิ “พอล” (อัลเด็น เอห์เร็นรีช) ตำรวจหนุ่ม, “แอนดรูว์” (เบเนดิกต์ หว่อง) ครูใหญ่ เข้ามาเชื่อมเรื่องราวของพวกเขากับเรื่องของ “จัสติน” และ “อาร์เชอร์”
เมื่อทุกอย่างลงล็อก ก็เหมือนได้ลูกกุญแจไขล็อก เปิดให้เห็นความจริงที่ทุกคนรอคอย ว่ากันตามตรง บทหนังยังเหมือนให้ความกระจ่างไม่หมด บางอย่างยังคลุมเครือชวนให้ตั้งคำถาม
แต่ที่สัมผัสได้ชัดก็คือเด็กและผู้บริสุทธิ์มักตกเป็นเหยื่อของใครสักคนที่ไม่มีความปรารถนาดีต่อผู้อื่น ใช้อำนาจที่มีอยู่อย่างผิดทาง
ตามชื่อของหนังว่า Weapons ก็ดูจะชี้ให้เห็นว่าสิ่งที่ใช้ประหัตประหารผู้คนก็ไม่ได้มีแค่ มีด พร้า ปืนผาหน้าไม้ หรืออาวุธยุทโธปกรณ์สงคราม แต่จิตใจที่อันโสมมและเห็นแก่ตัวต่างหากที่ทิ่มแทงผู้คนที่ไร้ทางสู้
อย่างไรก็ตาม บทสรุปของ Weapons แม้จะมอบความบอบช้ำให้กับหลายตัวละคร
แต่ในทางกลับกันก็ทำให้ผู้ชมรู้สึก “สาแก่ใจ” ยิ่งนัก!!
Blue Bird 9/8/68