พี่เปี๊ยก-พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน รองผบก.สส.สตม. 1 ในตำนานสืบสวนเหนือ ของแท้ยิ่งกว่าแท้
นรต.37 รุ่นเดียวกับนักสืบอย่าง พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง รองผบช.ก. พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. พล.ต.ต.ดำรงค์ เพ็ชรพงศ์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง และอีกหลายๆคน
ฝีมือไม่แพ้ใคร สางคดีอุกฉกรรจ์มากมายไม่แพ้ใครอีกด้วย แต่ตำแหน่งหน้าที่ไปไม่ถึงไหน ยังเป็นแค่ พ.ต.อ. รองผู้การ
ลูกพี่อย่างเดอะอู๊ด-พล.ต.ต.ปรีชา ธิมามนตรี ก็ยังจบชีวิตราชการในตำแหน่ง รองผบช.ตม. ลูกพี่ใหญ่สุดอย่างสุภาพบุรุษมือปราบ-พล.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรักษ์ อดีตผบช.น.ก็ช่วยอะไรไม่ได้
ผมสรุปเองได้ว่า ถึงจะจับโจร วิสามัญฆาตกรรมคนร้ายที่ก่อกรรมทำชั่ว ต่อให้ฆ่ามาเป็นร้อยศพ ก็ช่วยให้เจริญเติบโตในชีวิตราชการไม่ได้
ต้องมีเวลาไปก่อกรรมทำดีกับผู้บังคับบัญชาด้วย(ตรงนี้ความเห็นผม)ถึงจะเจริญ
ครับ….วันนี้ ย้อนไปดูถึงเรื่องพระเรื่องเจ้าที่พี่เปี๊ยกไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจเมื่อผมมีโอกาสสัมภาษณ์ครั้งเป็นรองผบก.น.4กันครับ
ไปมาคนเดียว แต่มักถูกทักมากันกี่คน
สมัยเป็นรองสารวัตร เป็นสารวัตรอยู่สืบสวนเหนือ ผมไม่เคยแขวนพระ
รองเปี๊ยก – พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน รองผบก.อก.บช.น. หนึ่งในนักสืบแห่งสืบสวนเหนือที่ตอนนี้เป็นตำนานไปแล้วเล่าให้ฟัง เมื่อถูกถามถึงพระเครื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ยึดถือในช่วงนั้น
เจ้าตัวบอกถึงเหตุที่ไม่คล้องพระว่า
“ ไปทำคดีทุกคดี อยู่ที่เรามุ่งมั่น เราตั้งใจทำเพื่อสังคม ทำเพื่อประชาชน ทำให้คนตายหรือผู้เสียหายที่ถูกฆ่า และสุดท้ายเราสามารถตามคนร้ายได้ สิ่งที่เราทำนั่นแหละคือความดี พระก็คุ้มครอง…..”
สมัยเขานั้นแข่งกันทำงาน แต่ละคนสไตล์แตกต่างกัน เก่งๆทั้งนั้น ผมโชคดีได้สัมผัสกับนักสืบเก่งๆหลายคน ถ้าเขาเอ่ยชื่อ เปี๊ยก-บรรลือศักดิ์ เราก็ภูมิใจนะ
พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์บอกอีก สมัยก่อนพี่อู๊ด-ปรีชา ธิมามนตรี ทำอะไร ผมทำหมดทุกเรื่อง
ไม่เคยจำด้วย จบแล้วจบเลย ทำเพื่อสังคม ทำเพื่อส่วนรวม ทำเพื่อความถูกต้องในสังคม บางครั้งต้องใช้มาตรการที่เด็ดขาด
ทุกวันนี้ถ้าว่างจะสวดมนต์ นั่งสมาธิ แผ่เมตตาตลอด
อย่างคดีที่เด็กเล่นเกมถูกฆ่าถ่วงน้ำ ในพื้นที่สน.อุดสมสุข ตอนนั้นเป็นรองผบก.น.4 เราไปดูศพ บอกให้วิญญาณเขาช่วยชี้แนะเบาะแสหน่อย ก็หมั่นไปดูที่เกิดเหตุบ่อยๆ
ขณะเดียวกันได้ยินฝ่ายสืบสวนสน.อุดมสุขเขาพูดกัน น้องคนที่ตายมาหาก็กลัวกัน
แต่สุดท้ายเรากลับได้เบาะแส รวมทั้งหลักฐานอื่นๆประกอบ เช่นกล้องวงจรปิดจนทุกอย่างชัดเจน เราถึงได้ ว.4 เชิญตัวคนร้ายมาสอบปากคำ
ประสบการณ์เฉียดๆ อย่างที่บอกไม่เคยจำ แต่ถามว่าทำคดีเยอะมั้ย ทำเยอะ ผมโชคดีที่พี่อู๊ด-ปรีชา ให้ผมนำทีม แล้วทุกคนในทีมต้องฟังผม
ทำงานต้องเหนือคนร้ายไว้ก่อน ไม่มีประมาท คนร้าย 1 คน เราต้อง 2-3 คน ต้องปลอดภัย ถ้าไม่ปลอดภัย ก็ไว้ก่อน
รองผู้การนักสืบบอกต่อว่า มาเริ่มใส่พระเป็นเรื่องเป็นราวตอนเป็นผู้กำกับสืบสวนนครบาล 7
สำหรับผม พระเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ พอเห็นเขาเล่นพระ ก็คิดว่าเราควรจะมีนะ ก็เริ่มมี องค์แรกคล้องพระสมเด็จบางขุนพรหม ญาติให้มานานแล้ว ตอนนั้นห้อยองค์เดียว แต่พอมาถึงวันนี้ก็มีหลายองค์
พูดจบ รองเปี๊ยก-บรรลือศักดิ์ ยิ้มแล้วถอดพระที่คล้องในคอออกมาให้ชมทั้งพวง
อาทิ พระมเหศวร พระร่วงหลังรางปืน ดอยสุเทพ ปี15 พระไพรีพินาศ ญสส. รุ่นแรก หลังตราสัญลักษณ์พระชนมายุครบ 6 รอบ ในหลวง วัดบวรฯ ปี 42 พระยอดธงอยุธยา และพระปิดตาไม่ทราบที่
จนเดี๋ยวนี้ ถ้าวันไหนไม่ได้ใส่ ไม่สบายใจ ต้องกลับบ้านไปเอามาคล้องคอ ทีนี้พอใส่แล้วมั่นใจขึ้น ไปไหนมาไหน ไม่ได้ให้ลูกน้องขับ ส่วนใหญ่จะขับเองตลอด เราต้องลิขิตเราเอง
มีเวลาก็สวดมนต์ อิติปิโสเท่าวันเกิดบวก1 สวดชินบัญชร ทำสมาธิ อย่างน้อยวันละครึ่งชั่วโมง
เคยนะมีบางที พวกร่างทรงมาทัก มากี่คนล่ะ ทั้งๆที่เราไปไหนมาไหนคนเดียว และไม่ได้บอกเขาว่า เราทำงานอะไร
เขาก็บอกเห็นมีคนเดินตามมาบ้าง เห็นมีคนนั่งอยู่ในรถที่เราขับบ้าง
แต่ไม่ได้ถามต่อนะว่า ที่เห็นมากันแบบไหน….
Cop’s Magazine Vol.8 No.94 June 2014
ปัจจุบัน ยังเป็นรอง ผบก.สส.สตม.