เข้าถึง ทุ่มเท จริงใจ วิสัยทัศน์ไกล มุ่งยกระดับครอบครัวตำรวจ
จัดเป็นเป็นประธานชมรมแม่บ้านที่มีวิสัยทัศน์ไกล เข้าใจ เข้าถึง และได้สัมผัส ครอบครัวตำรวจอย่างแท้จริง
สำหรับ คุณนก-พิยดา ต๊ะวิชัย ประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 5 ภรรยา บิ๊กต๊ะ –พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5
คุณนก ยอมโบกมือลาตำแหน่งผู้บริหารธนาคาร มาปฏิบัติภารกิจประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 5 อย่างเต็มตัวหลังจาก พล.ต.ท.ปิยะ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผบช.ภ.5 เพื่อซัพพอร์ตสามีอย่างเต็มกำลัง
ห้วงระยะเวลาเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา คุณนก สานต่อและต่อยอด หลายโครงการของชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 5 แบบลงพื้นที่เข้าถึงตัวแม่บ้านและครอบครัวตำรวจด้วยตัวเอง
รวมทั้งรับนโยบายการทำงานจากสมาคมแม่บ้านตำรวจมาปฏิบัติอย่างเต็มความสามารถชนิดที่หน้าบ้านอย่าง บิ๊กต๊ะ – พล.ต.ท.ปิยะ วางใจได้เลย ไม่ต้องมาคอยเป็นห่วงหรือกังวล
คุณนก เปิดใจให้สัมภาษณ์กับ Police News Varieties ถึงภารกิจโครงการต่างๆในฐานะประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 5 และในฐานะภรรยาที่คอยซัพพอร์ตดูแลสามีและครอบครัว ว่า
“เราทำงานเอกชนเป็นผู้บริหารธนาคารมาตลอด กระทั่งตัดสินใจลาออกมาทำงานแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 5 เต็มตัว เราทราบว่างานตำรวจภูธรภาค 5 มีภารกิจรับเสด็จฯ เราควรถวายความจงรักภักดีในการรับเสด็จฯทุกครั้ง รวมทั้งงานแม่บ้านตำรวจ เป็นงานจิตสาธารณะ ต้องมีใจ และมีสมองในการคิดโครงการต่างๆ”
สำหรับโครงการของชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 5 คุณนก บอกว่า ส่วนใหญ่ล้อตามสมาคมแม่บ้านตำรวจ ที่ปัจจุบันมี คุณสุมนา กิตติประภัสร์ ภริยา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯ
ในส่วนของชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 5 มีโครงการหลักๆ อาทิ โครงการ One Province One Product หรือ OPOP 1 จังหวัด 1 ผลิตภัณฑ์ ที่ริเริ่มตั้งแต่เมื่อครั้ง คุณรัตนาภรณ์ สีวลีพันธ์ ภริยา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีต ผบ.ตร.ต่อเนื่องมาถึง คุณสุมนา รวมถึงโครงการสร้างอาชีพเพื่อเด็กพิเศษ
ส่วนโครงการ Money Management & Investment ปัจจุบัน พล.ต.ท. ปิยะ นำไปทำเอง เป็นการช่วยแก้ปัญหาหนี้สินตำรวจ อาทิ การลดดอกเบี้ยเงินกู้ เพื่อช่วยเหลือตำรวจชั้นผู้น้อย เป็นนโยบายที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบหมายผบช. เข้ามาทำ
“ในส่วนโครงการ OPOP ที่พี่เข้ามาทำโปรเจ็กต์ใหม่ๆ คือเฟ้นหาสินค้าที่เข้ากับภาค 5 ใน 8 จังหวัดภาคเหนือ พี่เลือก น้ำพริกน้ำย้อย ที่ทุกคนยอมรับว่าอร่อยจริง จากผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่มีแพ็กเกจจิ้ง ตอนนั้นคุณรัตนาภรณ์ อยากให้ดึงศักยภาพขึ้นมา ให้พัฒนาแพ็กเกจ และนำสินค้ามาเปิดตัวที่ร้านปันรักษ์
ตอนนั้นพี่เชิญเจ้าของผลิตภัณฑ์มาพูดคุยถึงแพ็กเกจ พร้อมให้คำแนะนำในเรื่องต้นทุน เพราะพี่เคยทำงานธนาคารเกี่ยวกับเรื่องสินเชื่อมาก่อนจึงมีความรู้เรื่องนี้ รวมทั้งช่วยมองหาช่องทางการตลาด และช่องทางการขายอื่นๆด้วย เช่น ออกร้านตามงานต่างๆ อาทิ งานกาชาด งานเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)
รวมถึงนำสินค้าจากชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 5 มาจัดกระเช้าสวยงามกราบทูลถวายในเวลาที่มีการรับเสด็จฯ เป็นความภาคภูมิใจของชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 5 อย่างยิ่ง
“นอกจากนี้ พี่จะคำนึงถึงเรื่องช่องทางการตลาดด้วย เพราะมีผลิตภัณฑ์แล้วต้องมีช่องทางการตลาด เริ่มโครงการเปิดตลาดนัดในภาค 5 เดือนละครั้ง
จัดในวันประชุมผู้บริหารภาค ที่มีตั้งแต่ระดับผกก.–ผบช.ภ.5มาร่วมประชุม เพื่อให้สินค้าเป็นที่รู้จักในภาค 5 รวมทั้งสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของกลุ่มแม่บ้านและครอบครัวที่จะมาออกร้าน สามารถเดินทางมากับนาย หรือหน้าบ้าน ได้เลย”
คุณนก เล่าถึงความภูมิใจครั้งหนึ่งว่า
ครั้งหนึ่งคุณสุมนา นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ เดินทางมาชมตลาดนัด แล้วถามแม่บ้านที่มาออกร้านว่า ออกร้านที่ภาค 5 กับขายทั่วไป ที่ไหนยอดขายดีกว่ากัน
แม่บ้านบอกว่าขายที่ภาค 5 แค่เดือนละครั้ง ยอดขายมากกว่าขายตามตลาดนัด 4 ครั้งต่อเดือนเสียอีก
แต่แล้วก็เกิดปัญหาเปิดตลาดนัดไม่ได้ เพราะเหตุอุทกภัยน้ำท่วม คุณนก เล่าว่า
เกิดภัยธรรมชาติน้ำท่วมเดือนธ.ค.65 ทำให้เปิดตลาดนัดไม่ได้ กลุ่มแม่บ้านขาดรายได้ ขณะที่การประชุมผู้บริหารตำรวจภูธรภาค 5 ต้องย้ายไปที่อื่น
เราเลยย้ายไปเปิดตลาดที่สภ.เมืองเชียงใหม่ ใกล้ถนนคนเดินท่าแพ ในวันอาทิตย์ ระหว่างเดือนธ.ค.65 ถึงสงกรานต์ เม.ย.66 ตอนนั้นมีลูกค้าจากถนนคนเดินท่าแพเข้ามาจับจ่ายสินค้า อาหารขายดีมาก และได้ความกรุณาจาก คุณดาว -พอฤทัย ณรงค์เดช บุตรสาวของ พล.ต.อ. พจน์ บุณยะจินดา อดีตอธิบดีกรมตำรวจ มาจัดมินิคอนเสิร์ตด้วย ทำให้มีลูกค้าสนใจมากขึ้น
นอกจากสินค้ากลุ่มอาหารแล้ว เราก็สนับสนุนสินค้าอื่นๆที่ทำให้ครอบครัวตำรวจมีรายได้ และอีกหนึ่งความภูมิใจของชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 5 คือ การพัฒนาฝีมืองานปักผ้า
เราทำมา 1 ปี 9 เดือน ปัจจุบันแม่บ้านทำกันเป็นเรื่องเป็นราว อาทิ แม่บ้านตำรวจจังหวัดลำพูนมีการรวมตัวกัน โดยพล.ต.ท.ปิยะ ช่วยสนับสนุนเรื่องอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ ส่วนพี่ติดต่ออาจารย์มาสอนการปักผ้าลวดลายต่างๆ ลายใหม่ๆ เพื่อให้เกิดการซื้อเพิ่มหลายๆแบบ
เราเปิดกว้างให้แม่บ้านตำรวจภูธรภาค 5 ทุกจังหวัดที่สนใจเข้าอบรมฟรี อาทิ ปักผ้าปูโต๊ะ ปลอกหมอน ผ้าเช็ดมือ กระเป๋า ครีเอทเป็นสินค้าใหม่ๆเพิ่มขึ้น ไม่ใช่แค่การปักลายเสื้อเท่านั้น
รวมทั้งการจัดอบรมแต่งหน้าทำผม เพื่อช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเวลาต้องออกงาน หรือบางคนมีฝีมือสามารถต่อยอดทำเป็นอาชีพรับแต่งหน้าได้ด้วย โดยค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้รับการอุปการะจาก 3 ฝ่าย คือชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 5 สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรภาค 5และ พล.ต.ท.ปิยะ ร่วมสนับสนุน
คุณนก กล่าวต่อว่า ในส่วนโครงการสร้างอาชีพเพื่อเด็กพิเศษ เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ล้อกับโครงการของสมาคมแม่บ้านตำรวจ
“รอบแรกที่เราสำรวจ ทุกคนปฏิเสธว่าในครอบครัวไม่มีเด็กพิเศษ จนกระทั่งพี่มาเจอกับครอบครัวหนึ่ง พ่อทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่จังหวัดชายแดนใต้ พอพี่เห็นปัญหาเรารู้เลยว่าทำคนเดียวไม่ได้ พี่ไม่ได้อยากทำแค่แจกของ แค่นั้นไม่พอ
จะบอกว่าสิ่งน่ารักของครอบครัวเหล่านี้คือ เขาไม่เคยเรียกร้อง เวลาได้เจอกันเราจะน้ำตาไหลตามเขาทุกครั้ง เขาขอแค่เรานึกถึงเขาแค่นั้นเอง
พอถามเขาว่าอยากได้อะไร เขาบอกกับพี่ว่า น้องชอบทานโคลอน ป๊อกกี้ แค่นี้เองที่เขาอยากได้
พี่ผูกพันกับเด็กกลุ่มนี้มาก เราอยากให้เกิดความช่วยเหลืออย่างยั่งยืน จึงได้คุยกับผู้บริหาร บริษัทรู คอร์ปอเรชั่น และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการที่เคยลงพื้นที่
“อะไรก็ตามที่พี่เห็นว่าเป็นโอกาสให้กับเด็กๆพี่คว้าเอาไว้หมด เพราะไม่ได้ขอให้ลูกตัวเอง แต่ทำเพื่อเด็กๆกลุ่มนี้
จากนั้นมีการประชุมร่วมกัน 2-3 รอบ ระหว่างมูลนิธิออทิสติกแห่งประเทศไทย บริษัทรู คอร์ปอเรชั่น และศึกษาธิการจังหวัด เพื่อวางแนวทางช่วยเหลือ เช่น มีครอบครัวหนึ่งน้องสนใจทำร้านกาแฟ คิดว่าน้องพอทำได้
ทางคุณดาว -พอฤทัย ณรงค์เดช รู้จักกับสถานที่ที่สอนชงกาแฟให้ได้ ที่วัดศรีมงคล (ก๋ง) ตั้งอยู่ที่ต.ยม อ.ท่าวังผา จ.น่าน ตรงนี้เราให้ความช่วยเหลือเกือบสำเร็จแล้วคืบหน้าประมาณ 80% โดยประสบปัญหาอุปสรรคบ้าง อาทิ เรื่องระยะทางในการเดินทาง และความแตกต่างของเด็กแต่ละคน”
คุณนกเผย
ส่วนครอบครัวที่คุณพ่อถูกยิงที่จ.ปัตตานี ได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้มาทำงานด้านเอกสาร ในช่วงรักษาตัวภรรยาต้องลาออกจากงานไปดูแลที่ โรงพยาบาลสนาม ม.อ.ปัตตานี โดยฝากลูกชายวัย 2 ขวบให้อยู่กับตายาย
ต่อมาพบว่าเด็กช็อกและชัตดาวน์ไม่พูดจนอายุ 19 ปี
ปัจจุบันแม่เด็กซึ่งเรียนจบปริญญาตรี มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง ต้องมารับจ้างซักรีดที่แฟลตตำรวจ และมีลูกสาวคนโตเรียนชั้นปี 3 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
“พอพี่ไปเจอเขา เขาดีใจมาก เด็กน่ารัก และได้ทราบว่าเขามีหนี้สินสหกรณ์เยอะ เหลือรายได้ใช้จ่ายเดือนละไม่กี่พันบาท จึงได้คุยกับพี่ต๊ะ(พล.ต.ท.ปิยะ)เพื่อให้ช่วยเหลืออีกทาง
ตอนนี้แม่ของเด็กได้ทำงานที่สหกรณ์ออมทรัพย์ในจังหวัด มีรายได้ต่อเนื่องและเป็นอาชีพที่ยั่งยืน ส่วนลูกชายพี่ช่วยให้เขาได้เข้าเรียน ทางครอบครัวบอกว่าลูกชายรักป้านกมาก เขาเคยถักสายคล้องแมสก์มาให้พี่กับพี่ต๊ะ ยังเก็บเอาไว้จนถึงทุกวันนี้
แต่ต้องแสดงความเสียใจกับครอบครัวของน้องด้วย ที่น้องจากไปประมาณ 1 ปีก่อนเพราะอาการป่วย
ตอนนี้พี่ติดค้างเรื่องเดียวคือการช่วยเหลือให้ลูกสาวของครอบครัวนี้ได้เข้าเป็นตำรวจ ซึ่งต้องฝากไว้กับประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 5 คนต่อไป
“พี่ผูกพันกับน้องผู้ชายมาก น้องไม่พูดเลยจนอายุ 19 ปี วันหนึ่งพี่มีตุ๊กตาที่ส่งเสียงพูดตามเรา เลยเอาไปให้เขา และทำให้เขาดู บอกกับเขาว่าป้าไม่เคยได้ยินเสียงพูดเลย อยากให้ลองทำ
ปรากฏว่าเขาพยายามส่งเสียง ซึ่งแม่เขาส่งมาบอกเรา จนวันที่เขาจากไป แม่ของเขาบอกว่าน้องผูกพันกับตุ๊กตาตัวนี้มาก ขอใส่ไปในโลงให้น้องด้วย”
นอกจากนี้มีอีกคนหนึ่ง ได้รับความอนุเคราะห์จากสมาคมแม่บ้านตำรวจ สมัย คุณรัตนาภรณ์ สีวลีพันธ์ ได้มอบเครื่องช่วยหายใจให้น้อง จากที่ออกจากโรงพยาบาลไม่ได้เลย ตอนนี้น้องสบายดีแล้ว
เรียกว่า เต็มตัว และเต็มที่จริง สำหรับคุณนก กับภารกิจประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 5
มาถึงการดูแลครอบครัวและสามี คุณนก เล่าว่า ก่อนลาออกจากตำแหน่งผู้บริหารธนาคาร พี่มองว่าพี่ต๊ะ มีอนาคตไปได้ไกลกว่าแน่นอน เราจึงออกมาช่วยตรงนี้ ตอนนี้พี่ดูแลคุณพ่อคุณแม่พี่ต๊ะด้วย ทั้งเรื่องนัดพบแพทย์ เดินทางไปโรงพยาบาล พี่จัดการทั้งหมด
“ส่วนเรื่องลูก เรามีลูกชายคนเดียว ที่ผ่านมา พี่จะบอกพี่ต๊ะว่า ปะป๊าไม่ต้องหันหลังกลับมามองเลย เราดูเอง พี่จะรับส่งลูกเองตั้งแต่เล็กจนโต ฟังข่าวด้วยกัน ฝึกบวกลบเลขจากทะเบียนรถคันข้างหน้า แนะนำที่เรียนพิเศษข้อดีข้อเสียให้เขาตัดสินใจเอง ตลอดเวลาเราดูแลลูกสอนให้เป็นเด็กดี”
ตอนนี้ลูกอายุ 27 ปีแล้ว ร.ต.อ.นพ.ปริย ต๊ะวิชัย แพทย์ประจำรพ.ตำรวจ
https://policenewsvarieties.com/ถ้าด่านหน้าไม่แข็งแรง-แ/
ก่อนหน้านี้เขาเคยไปสังกัด รพ.ตำรวจที่จ.ยะลา 3 ปีเต็ม ตอนนั้นเขาบอกกับพี่ว่า
“ถ้าเรากลัวแล้วใครจะกล้า”
“ในเรื่องงานของพี่ต๊ะ สิ่งที่สำคัญคือ พี่แทบไม่เคยไปวุ่นวายในที่ทำงานของพี่ต๊ะเลย การช่วยเหลือเขาคือช่วยให้เขาทำงานด้วยความสบายใจดีที่สุด”
คุณนกเผย เมื่อถามว่าเหงาไหม สามีก็งานเยอะ ลูกก็โตแล้ว
คุณนก บอกว่า ไม่เหงา เพราะมีงานประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 5 และช่วงเช้าๆถ้ามีเวลา จะไปเดินออกกำลังกายพร้อมกับพี่ต๊ะประมาณ 1 ชั่วโมง ที่อ่างแก้ว ม.เชียงใหม่ จากนั้นพี่ต๊ะก็ไปปฏิบัติภารกิจ ส่วนพี่ก็ทำงานของชมรมแม่บ้านตำรวจ นอกจากนี้พี่ยังมีงานอดิเรกเลี้ยงแคคตัส ปักครอสติส และเล่นโยคะ ด้วย
เรียกว่าครบเครื่อง สมบูรณ์แบบทั้ง เรื่องการดูแลลูก สามี ครอบครัว และภารกิจในฐานะประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 5 สำหรับ คุณนก – พิยดา ต๊ะวิชัย
ปร์วีร์1/7/66