Friday, November 22, 2024
More
    Homeปร์วีร์ บันทึกท่องเที่ยวดื่มด่ำทะเลหมอก ‘ภูชี้ฟ้า-ภูชี้ดาว’ ปลายฤดูหนาว สุดฟิน

    ดื่มด่ำทะเลหมอก ‘ภูชี้ฟ้า-ภูชี้ดาว’ ปลายฤดูหนาว สุดฟิน

    ยังไม่หมดหนาวนะทุกคน ก่อนจะถึงฤดูร้อน รีบไปขึ้นภู ตะกายดอย กันก่อนดีกว่า

    เที่ยวเหนือครั้งนี้ เราอยากสัมผัสทะเลหมอก กับอุณหภูมิเย็นในจุดที่ต่ำกว่า 10 องศา แบบท้าลมหนาว สั่นจนฟันกระทบกันไปเลย

    รอบนี้เรามีจุดหมายปลายทางที่ ภูชี้ฟ้า กับ ภูชี้ดาว จ.เชียงราย หมายมั่นปั้นมือว่าจะได้ดื่มด่ำอิ่มตาอิ่มใจกับทะเลหมอกสวยงามอย่างแน่นอน

    การเตรียมตัวรอบนี้ แน่นอนค่ะว่าห้ามขาดเสื้อกันหนาว ที่สามารถกันได้ทั้งอากาศหนาวและลมหนาว หมวกไหมพรมคลุมศีรษะ ถุงเท้าสำหรับใส่นอนและการเดินขึ้นภู

    ที่ต้องเน้นย้ำคือ ควรใส่รองเท้าคัชชู หรือรองเท้าผ้าใบ ที่พื้นรองเท้ายังไม่สึก สามารถเกาะยึดได้ดีทั้งพื้นดินและหิน อย่าเผลอใส่รองเท้าแตะ เพราะทางเดินขึ้นภู บางจุดมีความลื่นและลาดชันค่ะ

    เมื่อเตรียมสัมภาระพร้อมแล้ว ก็ออกเดินทางกันเลย เรา 3 คนพ่อแม่ลูก เดินทางโดยรถยนต์แบบไม่เร่งรีบ ใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมงก็ถึง จ.เชียงราย ค่ะ

    วันแรก เราพักกันที่รีสอร์ทใกล้ๆกับทางขึ้นภูชี้ฟ้า ต.ตับเต่า อ.เทิงจ.เชียงราย ที่นี่มีที่พักหลายสไตล์ให้เลือก ทั้งเป็นบ้านพัก และเต็นท์

    เราเลือกบ้านพักเพราะสะดวกว่า กันลมหนาวได้ดีกว่า นอนหลับสบายกว่า

    ที่รีสอร์ทบริเวณใกล้ภูชี้ฟ้าเกือบทุกแห่ง จะมีรถกระบะนำนักท่องเที่ยวขึ้นไปภูชี้ฟ้าในตอนเช้าตรู่ ค่าบริการไปกลับคนละ 100 บาทเท่านั้น เพราะรถยนต์ขึ้นไปไม่ได้  ที่สำคัญการเดินทางช่วงเช้ามืดต้องอาศัยผู้ชำนาญเส้นทาง เพราะถนนหนทางยังมืดอยู่

    ทางรีสอร์ทนัดให้เราตื่นมาขึ้นรถเวลา 05.30 น. ของวันรุ่งขึ้น คืนนี้เราต้องรีบนอนแล้วล่ะ หลังกินมื้อเย็นหมูกระทะปิ้งย่าง ท้าลมหนาวกันเรียบร้อย เรา 3 คน พ่อแม่ลูก ก็รีบเข้านอนทันที

    ข้อมูลของ ภูชี้ฟ้า อยู่ใน อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า ต.ตับเต่า ลักษณะเป็นหน้าผาสูงเป็นแนวยาวไปตามชายแดนไทย-ลาว บนเทือกเขาดอยผาหม่น

    มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ คือ ตรงปลายยอดเขา มีลักษณะแหลมยื่นออกไป คล้ายกับนิ้วมือที่ชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้าเป็นมุม 45 องศา จึงถูกตั้งชื่อว่า ภูชี้ฟ้า นั่นเองค่ะ

    เราตั้งนาฬิกาปลุก 05.15 น. สำหรับเตรียมตัวล้างหน้าแปรงฟันเท่านั้น น้ำที่ไหลออกมาเหมือนน้ำในตู้เย็นเลยค่ะ มันยะเยือกมาก ถ้าจะอาบน้ำต้องรอตอนสายโน่นล่ะ

    รถกระบะมารับนักท่องเที่ยวตรงเวลาเป๊ะ แล้วก็พาออกจากที่พัก จุดหมายคือภูชี้ฟ้า ใช้เวลาเดินทาง 15 นาที ก็ถึงจุดจอดรถบริเวณทางขึ้นภูชี้ฟ้าแล้วค่ะ

    จากนั้นนักท่องเที่ยวทุกคนต้องเดินขึ้นไปเอง ระยะทางประมาณ 600 เมตร เป็นทางขึ้นเขา ไม่ลาดชันมาก เดินไม่ยาก แต่ต้องระวังลื่นหน่อยนะคะ  

    เราเดินขึ้นกันไปเรื่อยๆ ปะปนกับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก พอเหนื่อยก็หยุดพักไปตามทาง สักพักก็ถึงจุดชมวิว

    ณ จุดนี้บอกเลยว่า ไม่อยากไปไหนแล้วค่ะ พอแล้ว ภาพตรงหน้าเหมือนภาพถ่ายในนิตยสารท่องเที่ยว เป็นผาหัวสิงห์ ที่มีเส้นขอบฟ้าสีทอง ทอดยาวเป็นเส้นตรงด้านหน้าปกคลุมด้วยทะเลหมอกแบบเต็มๆตา

    นักท่องเที่ยวต่างพากันหาจุดถ่ายคลิปถ่ายภาพประทับใจ เราก็ไม่พลาดการถ่ายรูปไปโพสต์อวดเพื่อนๆในโซเชียลค่ะ

    อยากบอกทุกคนว่า เมืองไทยนี่ล่ะสวยสุดยอด ไม่แพ้ประเทศไหนๆเลย

    เราเก็บภาพความทรงจำและความประทับใจ ใส่ในเมมโมรี กันแบบเต็มอิ่ม ก่อนจะพากันเดินลงจากยอดภู มาขึ้นรถกลับที่พัก ตามเวลานัด 07.00 น. ค่ะ

    อุณหภูมิความหนาว ณ จุดนี้ เวลาพูดคุยกัน มีควันออกจากปากด้วย เรากับลูกพูดคุยกันสนุกกันใหญ่

    มิชชั่น ในเช้าวันแรก สำเร็จลุล่วงด้วยรอยยิ้มกว้างมาก รักความหนาวมากขึ้นเป็นกองเลยค่ะ 55

    หลังกินอาหารเช้ากันเรียบร้อย ก็อาบน้ำและเก็บของ เพื่อเดินทางไปจุดหมายต่อไปค่ะ ใช้เวลาขับรถประมาณ 40 นาที

    แต่ระหว่างทาง เราก็พากันมองหา คาเฟ่ วิวสวย บรรยากาศดี เช็กอิน ดื่มกาแฟกันสักหน่อย แล้วก็มาเจอ NARA VIEW ภูชี้ฟ้า ที่นี่มีจุดไฮไลท์ให้ถ่ายรูปเช็กอิน ทางร้านทำทางเดินยื่นออกไปด้านหน้าเขา และมีโต๊ะให้นั่งจิบกาแฟ

    แต่เราเชื่อว่าคงไม่มีใครนั่งจิบกาแฟตรงนั้นนานๆ น่าจะแค่นั่งถ่ายรูปแล้วก็เดินกลับเข้ามาในร้านค่ะ เพราะมันหวาดเสียว

    หลังจากจิบกาแฟร้อน ที่กลายเป็นกาแฟเย็นในเวลาเพียงแค่ไม่กี่นาที เพราะอากาศและลมหนาวแล้ว เราก็เดินทางไปยังที่พักใกล้กับภูชี้ดาวค่ะ

    ปิดท้ายวันด้วยหมูกระทะอีกสักมื้อ เก็บพลังงานเอาไว้สู้ลมหนาวคืนนี้

    เช้าวันรุ่งขึ้น รถกระบะที่จะนำทางเราไปภูชี้ดาว นัดเวลา 05.30 น. เหมือนเดิมค่ะ ราคาไปกลับ 100 บาท/คน เท่าเดิม ที่นี่ไม่สามารถขับรถขึ้นไปเองได้นะคะ ต้องให้คนที่ชำนาญทางเท่านั้น และต้องเป็นรถโฟร์วีลด้วยค่ะ เพราะถนนหนทางโหดกว่าภูชี้ฟ้าหลายเท่า

    ก่อนนอนคืนนี้ เรา 3 คนพ่อแม่ลูกเตรียมตัวกันพร้อมมาก สำหรับ Good Morning ภูชี้ดาว

    ข้อมูลของ ภูชี้ดาว เรียกว่าความสวยสูสีกับภูชี้ฟ้า อยู่ในต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ความโดดเด่นคือ บนภูชี้ดาว จะเป็นทางเดินทอดยาวไปตามสันเขาให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูป มีทะเลหมอก และความสวยงามตอนพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว

    รวมทั้งหมดยังมองเห็นวิวได้รอบตัว360 องศา มีฉากหลังเป็นแม่น้ำโขงคดเคี้ยว กับธรรมชาติเป็นป่าสมบูรณ์ด้านล่าง

    เมื่อถึงจุดจอดรถด้านบน นักท่องเที่ยวต้องเดินเท้าขึ้นไปบนยอดภูชี้ดาว ระยะทางประมาณ 300 เมตร เป็นทางเดินธรรมชาติ ไล่ตามสันเขาขึ้นไปเรื่อยๆ ทางจะชันกว่าภูชี้ฟ้า มีราวจับตามทางเดิน

    ที่นี่แนะนำให้เดินอย่างระมัดระวังด้วยค่ะ โดยเฉพาะตอนเดินลงเขา ต้องจับให้ดีๆ เพราะเป็นทางดินจะลื่นกว่าภูชี้ฟ้าที่ทางเดินเป็นหิน เราลื่นไป 1 รอบแต่โชคดีที่เกาะราวทางเดินไว้ได้ค่ะ

    ณ ยอดภูชี้ดาว ยอมรับว่าสุดจริงค่ะ อากาศดีเวอร์ วิวสวยจนต้องตะลึง ทั้งเส้นของฟ้าสีส้มทอง กับทะเลหมอก และวิว 360 องศา ยกโทรศัพท์ขึ้นมา กดบันทึกวิดีโอ แล้วค่อยๆหมุนรอบตัวเลยค่ะ

    ด้านบนภูชี้ฟ้ามีเก้าอี้ให้นั่งพักรอถ่ายรูปหลายจุด มีบางคนเอาโดรนมาถ่ายมุมสูงด้วย

    ต้องบอกว่าทั้งบรรยากาศและความสวย ของภูชี้ดาว กับ ภูชี้ฟ้า กินกันไม่ลงเลย มาทั้งทีต้องขึ้นให้ครบทั้ง 2 ภู

    และแล้วมิชชั่น ก็คอมพลีท อิ่มเอมยามเช้าที่ภูชี้ฟ้าและภูชี้ดาว อยู่เมืองไทยต้องเที่ยวให้ครบค่ะ

    ปร์วีร์27/1/67

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments