ตราบใดที่ “กรุงศรีอยุธยา ไม่สิ้นคนดี”เช่นเดียวกับ วงการฟุตบอลไทย ก็ไม่เคยสิ้นคนดี เช่นกัน
“กีฬาฟุตบอล” ได้ถือกำเนิดในประเทศไทย เมื่อปี ร.ศ.119 หรือปี พ.ศ 2443 ก่อนที่จะมีสภากรรมการสมาคมฟุตบอลแห่งสยาม ชุดแรก โดยมี “นาพลเสือป่าพระยาประสิทธิ์ศุภการ” (ม.ล.เฟื้อ พึ่งบุญ เป็นนายกสมาคมฯ)
หลังจากนั้น กีฬาฟุตบอล ได้พัฒนาขึ้นตามลำดับพร้อมกับเปลี่ยนชื่อจาก สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งสยาม เป็น สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จนมาถึงปัจจุบัน
เส้นทางของ กีฬาฟุตบอล ที่มีประวัติมายาวนานกว่า 100 ปี มีการเปลี่ยนแปลง ผู้บริหารสมาคม จากรุ่น..สู่รุ่น จนมาถึงยุคของ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ดีกรีอดีตผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำรงตำแหน่ง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอล คนปัจจุบัน นับเป็นคนที่ 17
อย่างไรก็ตาม “ฟุตบอลไทย” กว่าจะก้าวมาจนถึงวันนี้ได้ ต้องล้มลุกคลุกคลานมา ลองผิดลองถูกมาก็เยอะ สิ่งสำคัญขึ้นอยู่กับ ผู้นำสมาคมฯ จะนำพาวงการฟุตบอลไทย ไปทิศทางไหน ซึ่งมีทั้งประสบความสำเร็จและก็น่าผิดหวัง
สำหรับผู้นำนาวาสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่ได้ชื่อว่า เป็น “ยอดอัศวิน”สำหรับฟุตบอลไทย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็ต้องมีชื่อของ “พล.ต.ท. ชลอ เกิดเทศ” ซึ่งในช่วงนั้น ฟุตบอลไทย เกิดปัญหาอย่างหนัก จนยากที่จะแก้ไขได้ สุดท้าย อ.วิจิตร เกตุแก้ว ได้เชิญให้ “ป๋าลอ” พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ เป็น นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เมื่อ ปี 2530
ด้วยการที่ “ป๋าลอ” พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ เป็นยอดขุนพลมือปราบพระกาฬของเมืองไทย เข้ามาแก้ไขปัญหาต่างๆ จนสำเร็จลุล่วงด้วยดี อีกทั้งยังสร้างทีมฟุตบอลไทย โด่งดังและประสบความสำเร็จในยุคหนึ่งเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะการพาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ที่สำคัญ พาทีมฟุตบอลทีมชาติไทย บุกไปถล่ม ทีมชาติญี่ปุ่น ที่ดูถูกดูแคลนทีมฟุตบอลไทย ยังไม่รวมถึงผลงานอื่นๆ อีกมากมาย
ณ วันนี้ แม้ “ป๋าลอ” พล.ต.ท.ขลอ เกิอดเทศ จะอายุปาเข้าไปใกล้80.แล้วก็ตาม แต่หัวใจยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายของกีฬาฟุตบอล ที่ยังคอยติดตาม ให้กำลังใจ และคอยให้การสนับสนุนอยู่ด้ายหลัง เสมือนผู้ปิดทงหลังพระ จนทำให้ ทีมฟุตบอลไทย สร้างประวัติศาสตร์ ได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ในวันที่ 17 กันยายน 2560 ประวัติศาสตร์ฟุตบอลไทย ก็ต้องถูกบันทึกไว้อีกหน้าหนึ่ง เนื่องจากเป็นจัดงานฉลองวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 79ปี…(ย้อนหลัง) ของ “ป๋าลอ” ภายในสนามฟุตบอลบุณยะจินดา พร้อมกับมีการแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษ เป็นงานเกษียณอายุราชการ และเชิดชูเกียรติ ให้กับ “เสี่ยน้อย” ร.ต.อ.ณรงค์ อาจารยุตต์ อดีตนักเตะชื่อดังทีมชาติไทย และ “เสี่ยก้อง”พ.ต.ท.อภิสิทธิ์ กัณหสุต ซึ่งทั้ง 2 คนเป็นนักนักฟุตบอลของสโมสรตำรวจ
งานนี้เป็นการรวมตัวของ “3 นายพลลูกหนัง” คือ “ป๋าลอ” พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ อดีตนายกสมคมกีฬาฟุตบอลฯ, “บีกอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ คนปัจจุบัน ควงคู่กับ “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอล ลงไปโชว์ฟอร์มในเชิงลูกหนัง นับเป็นภาพที่หาดูได้ยากมากๆ
ที่สำคัญ “ป๋าลอ” ได้ให้ข้อคิดและคำแนะนำกับ “บิ๊กอ๊อด” ในการบริหารงานสมาคมกีฬาฟุตบอล เพื่อนำทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ไปสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ในอนคต นั้นคือ “ฟุตบอลโลก”
ต้องขอเชิดชู 3 นายพลลูกหนัง ที่มีความตั้งใจอย่างเต็มเปี่ยม ในการพัฒนาวงการฟุตบอลไทย เพื่อไปสู่ความสำเร็จในอนาคตอันใกล้นี้
ขอคาราวะ..ด้วยใจจริงๆครับ..
ยันแข้ง
