Enjoy The Hit By นาย ต.
ก๊อกๆๆ ผ่างๆๆ …นาย ต. มาแว้วว…พบกันตามนัดอีกเช่นเคย แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ ความวิตกกังวล ความเครียดในสังคม
เนื่องจาก “ไวรัสโควิด 19(Covid-19)” หรือ “ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019” กำลังมีข่าวระบาดหนักเหลือเกิน มีผลกระทบไปทุกหย่อมหญ้า ไม่ว่าธุรกิจเล็กใหญ่
ยิ่งมีข่าวที่มีคนที่ไม่รับผิดชอบต่อสังคม กลับมาจากต่างประเทศแล้วติดเชื้อมา แต่ไม่บอกข้อมูลที่แท้จริงให้กับแพทย์ที่ตนไปรักษา ฟังแล้วเพลียใจ ได้แต่วิงวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ว่า
“ขออย่าให้เหตุการณ์ที่มนุษย์ลุงป้าที่ไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคมนี้ เป็นต้นเหตุของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 ในประเทศไทยของเราเลย”…
ส่วนคนอื่นที่มีความสุ่มเสี่ยงก็ดูแลตัวเองให้ดี ถ้าสงสัยว่าตัวเองติดเชื้อ ก็ควรรีบไปพบหมอแล้วก้ให้ข้อมูลที่แท้จริง อย่าปกปิดข้อมูลที่สำคัญ
ถ้าติดเชื้อไวรัสนี้ไม่ใช่ว่าจะต้องตาย มันรักษาได้ตามอาการ..ยิ่งถ้ารู้ตั้งแต่เนิ่นๆ กลับเป็นผลดีกับตัวเอง…
ช่วยกันดูแลสังคมและประเทศชาติให้ผ่าวิกฤตินี้ไปด้วยกันนะครับทุกท่าน
ครั้งนี้นาย ต. จะพาไปรู้จักกับสาวน้อยที่มีความรักชอบในกีฬาหลากหลายรูปแบบ
“น้อง Jay”ด.ญ.จิดา จิรวัชรเดช ปัจจุบันอายุ 13 ปี 6 เดือน
เรียนอยู่ระดับชั้น Year 8 โรงเรียน St.Andrews International School
มีน้องชาย 1 คนด.ช. ธาดา จิรวัชรเดช อายุ 10 ขวบ…
เป็นลูกของคุณพ่อธนิต จิรวัชรเดช อาชีพ ผู้บริหารบริษัทรถเช่าระยะยาว กับคุณแม่สุธาวัลย์ จิรวัชรเดช อาชีพ ที่ปรึกษากฎหมาย …
จุดเริ่มต้นของการมาชอบกีฬากอล์ฟของจิดาเกิดจากการที่ชอบเล่นกีฬาหลายประเภทตั้งแต่เด็กๆ
ประกอบกับเห็นว่าลูกๆ ควรพึ่งตัวเองได้ จึงเน้นที่กีฬาที่เน้นความปลอดภัยในชีวิตเช่น ว่ายน้ำ และเทควันโด เป็นต้น
จนอายุเกือบ 12 ขวบ คุณพ่อเริ่มมีความคิดอยากให้ลูกรู้จักกับกีฬากอล์ฟ ได้หาข้อมูลและตัดสินใจพาจิดาไปเข้าแคมป์กอล์ฟ ทั้งๆที่ไม่เคยจับไม้กอล์ฟเลย
เมื่อจบวันแรก จิดาวิ่งกลับมาหาพ่อและประโยคแรกที่จิดาบอกคือ
“พ่อ ทำไมไม่พามาตั้งนานแล้ว หนูชอบกอล์ฟมากค่ะ”
นับตั้งแต่นั้นคุณพ่อและคุณแม่หัวหมุนตลอดเพราะน้องอยากจะตีกอล์ฟตลอดเวลา(555 )
ถ้าจิดาว่าง จะตีกอล์ฟทุกวัน ถ้าไม่ว่างจะบริหารเวลาจนตัวเองมีเวลาสำหรับกอล์ฟและสนุกสนานกับเพื่อนๆ นักกอล์ฟเสมอ
นับเป็นความโชคดีโชคดี ที่จิดามักจะได้เพื่อนที่ดีจากกีฬาทุกประเภท
จิดาก็ได้เริ่มแข่งครั้งแรกเมื่อเรียนกอล์ฟได้ 6 เดือน การแข่งครั้งแรกเต็มไปด้วยความสนุกสนานของจิดา
ตีไม่ดีก็ยังอารมณ์ดี และเน้นเรื่องมารยาทการตีกอล์ฟมากกว่าผลงานอย่างที่ตกลงกับคุณพ่อไว้
เช่น ถ้าเล่นไม่ดี ต้องเดินเร็ว, การมาร์คลูก, มารยาทบนกรีน และต้องใช้เวลาไม่เกินกี่นาทีในแต่ละหลุม เป็นต้น ( น่ารักมากๆครับ ) ทำให้ไม่เครียดมากจากผลงานในครั้งแรก
หลังจากนั้นอีก 3 เดือน เวลาแห่งความจริงก็มาถึงเมื่อจิดาเริ่มแข่งกอล์ฟครั้งที่สองที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของจิดา,
การรับรู้ผลงานเพื่อน ๆ ทีฝีมือดี, และสิ่งที่เห็นจากนักกอล์ฟในทีวีที่จิดาอยากทำให้ได้เหมือนเขาเหล่านั้น
เมื่อผ่านไปเจ็ดหลุม จิดาเดินกลับมาหาคุณพ่อที่ดูอยู่ในรถกอล์ฟด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาและพูดว่า
“พ่อ หนูขอโทษ หนูตีเก้าหลุมต่ำกว่า 50 ไม่ได้ หนูพยายามแล้ว”
ตอนนั้นคุณพ่อไม่พูดอะไรเลย และจิดาก็เดินกลับไปแข่งต่อ จริงๆ แล้วที่คุณพ่อไม่พูดอะไรเลยเพราะพูดไม่ออกและไม่คิดว่าลูกจะจริงจังขนาดนั้น เมื่อได้สติจึงบอกลูกว่า
“ถ้าอยากยอมแพ้ เลิกตอนนี้เลยนะ จะได้ไปทำอย่างอื่น แต่ถ้าจะสู้ต่อ จบรอบนี้ต้องเอาจริงกว่านี้เป็นสิบ ๆ เท่าแล้วกลับมาใหม่ หนูเอาไง คะ”
จิดาเริ่มยิ้มได้และหันมาบอกว่า
“พ่อก็รู้อยู่แล้วนี่คะ”
( ใจเพชรมากๆครับลูก ) …
ตั้งแต่นั้นมาทั้งคุณพ่อ, คุณแม่, และน้องชายต่างช่วยกันทำให้จิดาฝึกทุก ๆ รูปแบบเพื่อให้จิดาพัฒนาเรื่องกอล์ฟ
โดยยังทำสิ่งสำคัญอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี ไม่ ว่าจะเป็นผลการเรียนหรือการเรียนเปียโน ซึ่งมีส่วนส่งเสริมซึ่งกันและกันในทุก ๆ ด้าน
จิดาเป็นเด็กโชคดีที่มีผู้ใหญ่หลาย ๆ ท่านให้กำลังใจ เพราะเห็นถึงความพยายาม และความเอาจริงเอาจัง
บางท่านให้ คำแนะนำ บางท่านเห็นว่าไม้ที่ใช้ไม่เหมาะสม เป็นรุ่นเก่า หนัก ก็ให้ไม้ยืมใช้ หลายท่านคอยชมเมื่อทำได้ดีและปลอบเมื่อจิดาเศร้าจากความผิดหวัง
ปัจจุบันจิดาเริ่มโตขึ้นและเข็มแข็งมากขึ้นจากสองปีที่แล้ว ผลงานที่ดีขึ้นเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง
ได้แชมป์ รองแชมป์มาหลายรายการ และรายการแรกคือ Mittare – ISF Junior Golf Open 2019, 24 ก.พ. 2562เป็นผลมาจากความพยายามและความรักในกีฬากอล์ฟนั่นเอง
หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้จิดารักกอล์ฟมากคือการได้เพื่อนที่ดีจำนวนมากจากกีฬากอล์ฟ
อนาคตคิดว่าการเป็นนักกีฬาทุกประเภทเปรียบได้กับการมีสิทธิเพิ่มเติม และจิดามีหน้าที่ ๆ ต้องทำเพื่อได้สิทธินั้น
หนึ่งในหน้าที่ ๆ ต้องทำคือการมีผลการเรียนที่ดี จิดาตกลงกับคุณแม่ไว้ว่าต้องได้เกรดไม่ต่ำกว่า 3 ทุกวิชา
ถ้าเกรดวิชาใดวิชาหนึ่งต่ำกว่า 3 จะต้องลดเวลาซ้อมและงดแข่งกอล์ฟจนกว่าจะได้เกรด 3 ทุกวิชา ซึ่งจิดาก็ทำได้
ทำให้จิดามีสิทธิที่จะเลือกได้ว่าจะซ้อมทุกวันหรือไม่, แข่งรายการอะไร, และพักเมื่อไหร่บ้าง..
โดยยึดถือคติประจำตัว ที่ว่า
“ไม่ว่าผลงานบนสกอร์บอร์ดจะเป็นอย่างไร ใครจะแพ้หรือใครจะชนะ ถ้าเราได้เพื่อนแท้จากการแข่งขัน ทุกคนเป็นผู้ชนะ”
สุดท้ายฝากข้อเสนอแนะถึงวงการกอล์ฟเยาวชนบ้านเราว่า
“กอล์ฟเป็นหนึ่งในกีฬาที่ทุกภาคส่วนควรสนับสนุนครับ กอล์ฟทำให้เด็ก ๆ มีระเบียบวินัย มีมารยาท และ มีจิตสำนึกต่อตนเองและส่วนรวม
หลายครั้งผมเห็นเด็ก ๆ ให้กำลังใจกันถึงแม้จะแข่งขันกัน ช่วยคู่แข่งหาลูก และให้คำปรึกษา
เพราะท้ายที่สุดแล้วเมื่อเขาโตขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเรียนหรือการทำธุรกิจ ทุกคนแข่งกับตัวเองเป็นหลัก และการอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี
หรือการได้เพื่อนจากการแข่งขันเป็น เรื่องที่ยิ่งใหญ่กว่าชัยชนะมาก ผมเชื่อว่ากอล์ฟเป็นหนึ่งในกีฬาที่จะช่วยให้ประเทศไทยน่าอยู่ยิ่ง ๆ ขึ้นไปอีกครับ”
เรื่องราวของน้องจิดา(Jay)นาย ต.หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านในเรื่องของ วินัย วิธีคิดของครอบครัว และเป้าหมาย ไม่มากก็น้อย นะครับ “จงทำตัวเป็นน้ำครึ่งแก้วเสมอถ้าอยากเรียนรู้”…สวัสดี
***ติดต่อลงบทความ 063-3514654,096-5282656 หรือ แอดLINE นาย ต. ตามห้องเยาวชนครับ
–