Sunday, November 24, 2024
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันบิ๊กต่อ สั่งจับหนุ่มแสบเปิดเพจตุ๋นขายเข็มคอมมานโด

    บิ๊กต่อ สั่งจับหนุ่มแสบเปิดเพจตุ๋นขายเข็มคอมมานโด

    วันที่ 21 ก.ค. 64 พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก สั่งการ พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบก.ปฏิบัติการพิเศษ พ.ต.อ.อภิสัณฐ์ ไชยรัตน์  ผกก. วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.ปพ. พร้อมกำลัง

    จับกุมนายณัชธร อายุ 35 ปี ชาว จ.สมุทรสาคร

    ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”

    พร้อมของกลางคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 1 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก 1 เครื่อง โทรศัพท์มือ 3 เครื่องเอกสารจดทะเบียนบริษัท และเครื่องหมายทหารตำรวจ หน่วยงานราชการต่างๆ เข็มที่ระลึก เอกสารที่เกี่ยวข้องประกาศนียบัตรอีกกว่า 20 รายการ

    จับกุมได้ที่บ้านใน ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร

    พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ กล่าวว่าได้รับการร้องเรียนว่ามี เพจเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “สถาบันพัฒนาชาติไทย” และเพจ “บริษัท สยามคุณาภรณ์”

    แอบอ้างประกาศว่าสามารถจัดหาเครื่องหมายสยบริปูสะท้าน กิตติมศักดิ์ ของกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ ให้แก่ผู้ที่สนใจได้ โดยไม่ต้องเข้ารับการฝึก

    แต่จะต้องยอมเสียเงินค่าดำเนินการคนละ 7,000 บาท เมื่อจ่ายเงินแล้วจะจัดส่งเครื่องหมายและใบประกาศนียบัตร ไปให้ทางไปรษณีย์

    ผบช.ก. กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ยังแอบอ้างว่ามีการติดต่อประสานงานกับ  บช.ก. อยู่เป็นประจำ รวมถึงจดทะเบียนในรูปแบบบริษัท ดูน่าเชื่อถือ

    มีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อเป็นจำนวนมาก รวมถึงผู้ที่ตกเป็นเหยื่อส่วนใหญ่ยังถูกหลอกเอาข้อมูลส่วนตัว

    อาทิ สำเนาบัตรประชาชน และเอกสารสำคัญอื่นๆอีกหลายรายการ

    ภายหลังทราบเรื่องจึงช่วยติดต่อประสานพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความ สภ.เมืองราชบุรี เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย

    ก่อนจะสั่งการให้กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.ปพ. นำกำลังลงพื้นที่ช่วยสืบหาเบาะแสจนทราบตัวผู้กระทำผิดคือนายณัชธร ผู้ต้องหารายนี้

    รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ และนำไปสู่การเข้าจับกุมตัวได้

    สอบสวนรับสารภาพ ก่อเหตุจริง เนื่องจากได้รับการชักชวน จากนายภีม(ไม่ทราบนามสกุล) ให้ช่วยจัดหาลูกค้า

    ส่วนตัวนายภีมจะเป็นคนจัดหาเครื่องหมายต่างๆพร้อมใบประกาศนียบัตรมาให้  ทำมาแล้ว1 ปี ได้เงินประมาณ 5 แสนบาท

    เบื้องต้นจึงนำตัวส่ง สภ.เมืองราชบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกับเตรียมขยายผลตรวจสอบว่าบัตรประชาชนของผู้เสียหาย ถูกนำไปใช้กระทำความผิดในคดีอื่น รวมถึงมีการแอบอ้างหน่วยงานอื่นๆในการกระทำความผิดอีกหรือไม่ต่อไป

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments