ปอศ. แถลงลุยค้น 9 จุด จ.มหาสารคาม ทลายแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหด รวบ 26 ผู้ต้องหา ของกลางเพียบ
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 12 ก.ค.65 ที่ ห้องประชุมชั้น 2 บก.ป. พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. พ.ต.ท.กริช วรทัต รอง ผกก.5 บก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลยุทธการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย 9 จุด ใน จ.มหาสารคาม ทลายแก๊งเงินกู้นอกระบบ
จับกุม นายเสวก หรือใหญ่ อายุ 43 ปีและ น.ส.ฐานิตา หรือ เจ๊เล็ก อายุ 39 ปี กับพวก รวม 26 ราย ในข้อหาร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด และ ร่วมกันกระทำการทวงถามหนี้ในลักษณะข่มขู่ โดยผิดกฎหมาย พร้อมของกลาง 11 รายการ อาทิ โทรศัพท์มือถือ, สมุดบัญชีเงินฝาก และเอกสารเกี่ยวกับลูกหนี้ รวมจำนวน 1,796 ชิ้น
พล.ต.ต.พุฒิเดช เผยว่า ศูนย์ปราบปรามหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปน.ตร.) ได้รับเรื่องร้องเรียนจากกลุ่มประชาชนผู้เสียหายในพื้นที่ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ว่า ถูกเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบในพื้นที่ ข่มขู่ คุกคาม รวมถึงบุกเข้าไปข่มขู่ถึงที่ทำงาน และที่บ้าน ทำให้เกิดความหวาดกลัว เกรงว่าจะได้รับอันตรายจนต้องหลบซ่อนตัว
เครือข่ายดังกล่าวได้ปล่อยเงินกู้นอกระบบและเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราที่สูงมาก คิดอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 0.83 บาท ต่อวัน หรือ ร้อยละ 25 บาท ต่อเดือน หรือ ร้อยละ 303 บาท ต่อปี
มีน.ส.ฐานิตา หรือเจ๊เล็ก และนายเสวก หรือใหญ่ สองสามีภรรยาเป็นนายทุน คอยดูแลลูกน้องที่ออกเก็บดอกเบี้ยเงินกู้รายวันมี่อยู่ในสังกัดหลายสิบคน รวมตัวกันพักอยู่ในพื้นที่ จ.มหาสารคาม และพื้นที่ใกล้เคียง
ใช้รถเก๋งโตโยต้า วีออส รุ่นเก่า กว่า 20 คัน ออกตระเวรปล่อยเงินกู้ และเก็บดอกเบี้ย จากลูกหนี้ในพื้นที่ จ.มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ ช่วงเช้าจะรวมตัวกันที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.อิสานบริการ ริมถนนสายมหาสารคาม – กาฬสินธุ์ เพื่อรอรับรายชื่อลูกหนี้ และยอดเงินที่จะปล่อยกู้จากเจ๊เล็ก จากนั้นจะแยกย้ายกันออกปล่อยเงินกู้ และตามเก็บดอกเบี้ยรายวัน
พล.ต.ต.พุฒิเดช กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้อง 24 ราย และสนธิกำลังร่วมกับกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ (บก.ปพ.) เปิดยุทธการปิดล้อมตรวจค้น 9 จุด ใน ที่จ.มหาสารคาม เมื่อวันที่ 11 ก.ค.65 จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 10 ราย ดำเนินคดีผู้ที่ร่วมกระทำความผิดอีก 16 ราย รวม 26 ราย
พล.ต.ต.พุฒิเดช กล่าวต่ออีกว่า นายเสวกให้การรับสารภาพ นอกจากนี้ยังพบว่าเครือข่ายดังกล่าวเคยทำมาแล้วกว่า 5 ปี และนายเสวกยังเคยถูกจับกุมเมื่อปี 2553 และ 2558 ในคดีเกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้ ส่วนกลุ่มคนที่นายเสวกรวบรวมมานั้น เคยมีประวัติต้องโทษ 10 ราย เป็นวัยรุ่นที่ว่างงาน บางคนเคยมีประวัติยาเสพติด หรือทำงานในลักษณะนี้มาก่อน
เบื้องต้ตนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ร่วมกระทำความผิดซึ่งถูกออกหมายจับแล้ว 14 ราย อยู่ระหว่างหลบหนี รวมผู้ร่วมกระทำความผิดในเครือข่ายกว่า 40 ราย ถือเป็นเครือข่ายใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยสืบสวนจับกุมมา คาดว่ามีผู้เสียหายถึงหลักพันคน และมีเงินหมุนเวียนหลายล้านบาทหลังจากนี้จะสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป