ผบ.ตร.สั่งจับ 2 คนร้ายแก๊งทวงหนี้นอกระบบชัยนาทบุกพังร้านลูกหนี้ เหตุโกรธที่ไปลงทะเบียนไกล่เกลี่ย จ่อขยายผลจับนายทุน ย้ำรับไม่ได้แก๊งทวงหนี้ไม่เกรงกฎหมาย กำชับทุกหน่วยทั่วประเทศเข้มงวดขานรับนโยบายรัฐบาล บูรณาการทุกภาคส่วนแก้ปัญหา
วันที่ 7 ธ.ค.66 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เปิดเผยถึงการแก้ไขปัญหาหนี้ระบบตามนโยบายรัฐบาลว่า ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ประกาศ “การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ” เป็นวาระแห่งชาติ ให้บูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วนขับเคลื่อนให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างจริงจัง โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทยร่วมกับตำรวจ เปิดระบบลงทะเบียนรับความช่วยเหลือแก้ไขหนี้นอกระบบ ที่ผ่านมามีประชาชนทั้งลูกหนี้เจ้าหนี้มาลงทะเบียนจำนวนมาก เป็นไปในทิศทางที่ดี
แต่มีบางราย ตามที่ปรากฎข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ “ลูกหนี้ผวาถูกแก๊งเงินกู้นอกระบบบุกพังร้านกลางดึกหลังลงทะเบียนแก้หนี้” เหตุเกิดที่ร้านส้มตำครกแตก ต.แพรกศรีราชา อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท ของเช้ามืดวันที่ 6 ธ.ค. 2566 พื้นที่ สภ.สรรคบุรี หลังเกิดเหตุ ผบ.ตร.ได้สั่งการไปยัง พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 ให้จัดชุดสืบสวนลงตรวจสอบจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้
ตำรวจได้สืบสวนจนพบว่าสาเหตุเกิดจาก น.ส.ปิยธิดา ได้กู้ยืมเงินจาก นายธีระศักดิ์ หรือ แมว 30,000 บาท โดย นายธีระศักดิ์ คิดดอกเบี้ยแบบลอย ชำระดอกเบี้ยไปเรื่อยๆ จนกว่าจะนำเงินต้นทั้งหมดมาคืน น.ส.ปิยธิดา ต้องชำระดอกเบี้ยเป็นเงินวันละ 850 บาท เป็นอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และได้ชำระมาแล้ว 18 วัน
ต่อมา น.ส.ปิยธิดา ได้ไปยื่นคำร้องเพื่อขอไกล่เกลี่ยที่อำเภอสรรคบุรี จนเจ้าหนี้ไม่พอใจ ทำให้นายไตรภพ หรือ อ้น และนายนิรุต หรือ แน็ต ได้มาที่ร้านและทำลายทรัพย์สินในร้านได้รับความเสียหาย ตำรวจ สภ.สรรคบุรี ได้รวบรวมหลักฐานออกหมายจับและติดตามจับกุมทั้ง 2 ราย ในผิดฐาน “ร่วมกันบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน , ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีและใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำความผิด และร่วมกันทำให้เสียทรัพย์”สอบสวนเบื้องต้นพบว่าผู้ต้องหาทั้งสองรายได้มาเก็บดอกเบี้ยเงินกู้จริง
ผบ.ตร.ได้สั่งการขยายผลไปยัง นายธีระศักดิ์ เป็นนายทุนเงินกู้ รวมทั้งผู้ร่วมกระทำผิดรายอื่นๆ เป็นสิ่งที่ ตร.รับไม่ได้ คนร้ายไม่เกรงกลัวกฎหมาย กำชับไปยังทุกหน่วยทั่วประเทศ ให้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบอย่างจริงจัง หากพบใครฝ่าฝืนกฎหมายให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดและจริงจัง