เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 23 ก.พ.66สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีมีเจ้าหน้าที่ตำรวจบางนายเข้าไปเกี่ยวพันกับเว็บพนันออนไลน์ ว่า
เรามีนโยบายชัดเจนจะกวาดบ้านตัวเอง หากพบเห็นว่ามีใครไปเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างจริงจัง ล่าสุดได้มีการรายงานจากชุดจับกุมว่ามีการซักทอดถึงผกก.ในโรงพักหนึ่งในพื้นที่ บช.ภ. 2 ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานน่าจะดำเนินการได้ในเร็วๆ นี้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ต้องพิจารณาตามพยานหลักฐานที่เกิดขึ้นจริง
กรณีนี้เริ่มต้นจากการไปจับกุมเว็บพนันออนไลน์เว็บหนึ่งแล้วมีการซักทอดว่ามีเจ้าของเป็นตำรวจ ต้องขอดูรายละเอียดข้อมูลเรื่องเอกสารต่างๆ รวมถึงเส้นทางทางการเงิน หากมีพยานหลักฐานชัดเจนก็จะแจ้งข้อหาต่อไป ส่วนจะทำมานานแล้วแค่ไหน ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับเจ้าตัวเพียงแต่พบหลักฐาน ซึ่งตนได้รับทราบและมีปรากฏข่าวตามสื่อมวลชนบ้างแล้ว
ทั้งนี้หากพบหลักฐานก็จะต้องมีความชัดเจนในลักษณะนั้น แต่ขอให้ฝ่ายดำเนินการได้ชี้แจงเองดีกว่า ยืนยันว่าทำอย่างตรงไปตรงมา หากหลักฐานถึงเราก็จะดำเนินการ ทั้งนี้จะออกหมายจับหรือเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาก็ได้ เพราะเคยทำทั้งสองแบบ
หากเขาไม่มีการหลบหนีก็จะเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาเลย เมื่อมีการแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว บช.ภ. 2 จะต้องพิจารณาว่ามีความเสียหายต่อทางราชการหรือไม่ เบื้องต้นจะต้องสั่งมาช่วยราชการที่ศปก.ก่อน เพื่อพิจารณาดำเนินการทางวินัยต่อไป
ผบ.ตร.กล่าว่า สำหรับกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ แฉเพิ่มว่ามีตำรวจ ทั้งอดีตและปัจจุบัน ประมาณ 100 นาย เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ เป็นข้าราชการตำรวจระดับนายพลตำรวจ 10 นาย อยู่ในศูนย์ PCT บช.สตม. จเรตำรวจ และ บช.สอท. จะต้องดูว่าในความเป็นจริงจำนวนจะถึงขนาดนั้นจริงหรือไม่ ทุกอย่างเราพูดได้แต่ต้องดูหลักฐาน การทำงานทุกอย่างต้องเป็นไปตามหลักฐาน
ส่วนมีการระบุว่ามี รอง ผบช.ซึ่งอยู่หน้าห้องผบ.ตร.มีเอี่ยวด้วยนั้น ตนไม่มีหน้าห้องเป็น รอง ผบช. ส่วนที่มีคนให้ข้อมูลนั้น ตนยังไม่ทราบเรื่องนี้ ไม่ใช่หน้าห้อง อย่าไปพูดผิด ตำแหน่งของตำรวจจะมีประจำตร. อาจจะมีผบก.ประจำตร. ผบช.ประจำตร. รอง ผบช.ประจำตร. ทั้งนี้จริงๆ แล้วหน้าห้องผมไม่มีรอง ผบช.เท่าที่จำได้ยังไม่มี
ส่วนที่ถามว่าจะต้องมีการตรวจสอบบุคคลใกล้ชิดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์หรือไม่ เรื่องนี้ จะต้องสแกนอยู่แล้วเพียงแต่ว่าเราก็ต้องดูหลักฐาน หากสแกนเสร็จแล้วมาพบหลักฐานทีหลังเราก็ดำเนินการ ทุกอย่างเป็นไปตามหลักฐาน บางทีคนกระทำผิดเขาไม่ได้มาบอกเราทุกเรื่อง
ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า กรณีนายอัจฉริยะ จะมีการนำป้ายรายชื่อข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้องกับเวรพนันออนไลน์มาแปะหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นสิทธิ์ ทำอะไรก็ทำได้ แต่เจ้าตัวคนที่เสียหายก็มีสิทธิ์ฟ้องร้องเช่นกัน ถ้าเกิดเขาไม่ได้ทำ หรือเขาไม่ได้ผิด ทุกคนก็มีหน้าที่ของตัวเอง
ผู้สื่อถามว่ามีการระบุว่าตำรวจไซเบอร์เป็นเจ้าของเว็บพนัน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ต้องดูทุกอย่างไปตามพยานหลักฐาน กล่าวหานั้นกล่าวหาได้ แต่จะต้องดูพยานหลักฐานด้วย ส่วนที่มีการถามว่าจากการตรวจสอบแล้วพบว่ามีความเลวร้ายตามที่มีการออกมาให้ข้อมูลหรือไม่ ตนยังเชื่อว่ายังไม่ถึงขนาดนั้น แต่ขอดูพยานหลักฐานก่อน เพราะตนไม่อยากไปรับประกันให้ใคร เวลาใครทำไม่ดีเขาไม่ได้มาบอก ถ้าเราพบเห็นว่าเขาผิดเราก็ดำเนินการ ยิ่งมีหลักฐานได้ยิ่งดี ก็จะดำเนินการตามข้อมูลที่เขาให้มา
ทั้งนี้หากพบว่ามีความผิดจริงก็จะต้องดำเนินการหากถึง 100 กว่านายก็จะต้องดำเนินการ แต่ส่วนตัวตนยังไม่เชื่อว่าจะถึงขนาดนั้น ไม่ได้รับประกันให้ใคร ขอดูก่อน ส่วนจะมีใครเกี่ยวข้องกี่รายให้เป็นไปตามข้อมูลอันไหนที่เราสงสัยก็ตรวจสอบอยู่ ไม่อยากระบุว่ากี่นาย
แต่ถามว่ามีหลายนายหรือไม่ ก็มีพอสมควรที่สงสัยและอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนอยู่ ที่ผ่านมาก็ส่งสัญญาณมานานแล้ว อย่างเช่นกรณีที่ให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ไปตรวจสอบอยู่ก็ใกล้จะได้ผลแล้ว ส่วนกรณีที่มีการร้องเรียนผู้การปส. อยู่ระหว่างรอผลการดำเนินการอยู่
