บ่ายวันที่8เม.ย.พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก. กล่าวถึงกรณีตำรวจทางหลวง จับสองชายหญิงชาวเมียนมา ขนเงิน16.5 ล้าน เข้ามาในประเทศไทยว่า
หลังจากได้รับการรายงานจากตำรวจทางหลวงแล้ว ได้สั่งการให้นำเงินจำนวนดังกล่าว พร้อมผู้ต้องหาส่งให้ตำรวจกองปราบปราม ทำสำนวนคดี พร้อมให้นำกองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจพิสูจน์เงินดังกล่าว
จากนั้นให้ประสาน ปปง.ตรวจสอบหาเส้นทางการเงิน ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร
ทั้งนี้ตำรวจทางหลวงมีอำนาจจับกุมตามหน้าที่ เงินดังกล่าวเป็นความผิดตามกฏหมายศุลกากร
ผู้ที่นำเข้ามาไม่สามารถนำเอกสารหรือหลักฐานมายืนยันได้ โดยกำชับให้ทำตามกฏหมายอย่างเคร่งครัดด้วย
ด้านพ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4.บก.ป.กล่าวว่า ผบช.ก.สั่งการให้กองปราบรับทำสำนวนคดีดังกล่าว หลังจากตำรวจทางหลวง นำตัวพร้อมของกลางเงินสดมาส่งให้
เบื้องต้นได้ประสานกองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบ พร้อมทั้งประสานปปง.ตรวจสอบเส้นทางการเงิน สำหรับเวินดังกล่าวนั้น เยื้องต้นผิดพรบ.ศุลกากร เพราะการนำเงินจำนวนขนาดนี้เข้ามาในประเทศไทย ต้องแจ้งให้ศุลกากรทราบ
ส่วนผู้ต้องหาหลังสอบสวนเสร็จ จะนำตัวส่งศาลอาญา ฝากขังต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการจับกุมได้มีนายตำรวจระดับรองผู้บังคับการนายหนึ่ง พยายามที่จะขอเคลียร์คดี บังคับให้ตำรวจทางหลวงปล่อยตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางโดยไม่ต้องดำเนินคดี
แต่ตำรวจชุดจับกุมไม่ยินยอมเพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และ พล.ต.ท.สุทิน สั่งให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด โดยให้ กก.4 บก.ป. สืบสวนขยายผลเนื่องจากเงินจำนวนดังกล่าวน่าจะได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
พร้อมทั้งกำชับให้ดำเนินคดีกับทุกคนที่เกี่ยวข้องแม้ว่าจะเป็นใครก็ตามที่อยู่เบื้องหลัง
โดยเบื้องต้นได้รายงานความไม่ชอบมาพากลให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ทราบแล้ว เนื่องจากพบว่ามีขบวนการที่จ้องทำลายและใส่ร้ายตำรวจชุดจับกุม