พี่สมคิด พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม เป็น1ในตำนานสืบสวนใต้อันเลื่องชื่อ
ปี 32-34 สมัยยังเป็นนักข่าวประจำ บช.น. หลังเสร็จจากเดินซอยนายพล ผมจะข้ามไปก๊อกแก๊กหาข่าวฝั่งสืบเหนือ สืบใต้ บช.น.เก่าที่อยู่กันคนละชั้น
ตอนนั้น ป๋าวี-ทวี ทิพยรัตน์ เป็นผู้การใต้ ท่านอาทิจ ชูตินันท์ เป็นผกก.สส.น.ใต้
ส่วนพี่คิด เป็นรองผกก. มีทีมงาน อย่างพี่สมชาย จูสนิท พี่ประภาส ปิยะมงคล ให้ความเอ็นดูผมมาตลอด ก่อนเติบโตเลื่อนยศและตำแหน่งไปตามเวลา จนพี่คิดเกษียณฯ ตอนนี้เป็นประธานผู้ตัดสิน สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย
วันนี้มาอ่านบทสัมภาษณ์เมื่อครั้งพี่คิดเป็น ผบช.ภ.5 ถึงเรื่องพระที่จัดสร้างเป็นสวัสดิการให้ลูกน้องตำรวจภาค5กันครับ
เอ่ยชื่อ พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม จตร.(สบ8)(หน.จต.)ใครก็รู้ว่าเป็น 1 ในยอดนักสืบระดับจอมยุทธ์
อย่างว่า นักรบต้องมีบาดแผล ไม่เช่นนั้นป่านนี้ติดยศพล.ต.อ.ไปแล้ว
มีโอกาสได้พูดคุย ได้สอบถามถึงเครื่องรางของขลังพระเครื่องคู่กาย พล.ต.ท.สมคิด เปิดเสื้อหยิบพระที่คล้องคอออกมาเป็นพระเป็นพระกริ่งเนื้อทองคำ พิมพ์ใหญ่ แขวนเดี่ยวองค์เดียว
พล.ต.ท.สมคิดบอกว่า พระองค์นี้ชื่อ “พระพุทธประทานยศบารมี”
มีทั้งหมด 5 พิมพ์ คือ พิมพ์ใหญ่-เล็ก เนื้อทองคำ พิมพ์ใหญ่-เล็ก เนื้อเงิน และพิมพ์ใหญ่ เนื้อนวโลหะ แต่ละองค์จะมีหมายเลขตอกอยู่ใต้ฐาน
ที่มาของ “พระกริ่งพระพุทธประทานยศบารมี” พล.ต.ท.สมคิดบอกว่า
เมื่อปี 52 ได้รับโอกาสให้มาเป็นผบช.ภ.5 ดูแลพื้นที่ 8 จังหวัดในภาคเหนือตอนบน ท่ามกลางความคิดแตกแยกของคนในสังคม และความแคลงใจในหมู่ข้าราชการตำรวจว่า ผมจะมาล้างระบบโยกย้ายอำนาจข้าราชการเก่าๆหรือเปล่า
ไม่ใช่นิสัยผม ประกอบกับเห็นสภาพเสื่อมโทรมของที่ทำการ บช.ภ.5 ที่เกิดจากน้ำท่วมใหญ่ปี 48 เลยคิดที่จะหาเงินมาพัฒนาหน่วยงานให้เป็นที่เชิดหน้าชูตา และเป็นสวัสดิการให้กับตำรวจชั้นผู้น้อย
จึงคิดโครงการสร้างศูนย์รวมจิตใจข้าราชการตำรวจภูธรภาค 5 เพราะการรับใช้สังคม ต้องยึดมั่นในหลักศาสนา คุณธรรมจริยธรรม และจรรยาบรรณของตำรวจ ในการทำงานเพื่อประชาชน
คิดถึงท่านอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ผู้สร้างวัดร่องขุ่น จ.เชียงราย ไปขอความกรุณาจากท่านบอกท่าน ต้องการหาเงินมาเป็นสวัสดิการให้ข้าราชการตำรวจ รวมทั้งให้ข้าราชการตำรวจมีที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ เกิดขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ราชการ ให้มีพลังกาย
รวมทั้งปรับปรุงหน่วยงานและภูมิทัศน์ของตำรวจภูธรภาค 5 ให้สวยงามเป็นที่ประทับใจของผู้บังคับบัญชาที่มาตรวจเยี่ยม และประชาชนที่มาติดต่อราชการ
ท่านเฉลิมชัย ท่านเมตตาสร้างพระพุทรูปปางชนะมาร ขนาดหน้าตักกว้างประมาณ 99 ซม. กำหนดพระนามว่า “พระพุทธประทานยศบารมี”บริจาคให้ตำรวจภูธรภาค 5
อีกทั้งออกแบบซุ้มหอพระให้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป ตั้งอยู่หน้าอาคารตำรวจภูธรภาค 5 โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
นอกจากนี้ ยังสร้างพระพุทธรูปบูชาปางชนะมาร ขนาด 9 นิ้ว อีก 35 องค์ มอบให้สถานีตำรวจ และหน่วยงานในสังกัดตำรวจภูธรภาค 5 ไว้สักการะบูชา และสร้างพระเครื่องกริ่งลอยองค์สำหรับห้อยคอ มีท้ังเนื้อทองคำ เนื้อเงิน พิมพ์เล็ก พิมพ์ใหญ่ และพระกริ่งเนื้อนวโลหะ
แจกจ่ายพระกริ่งเนื้อนวโลหะให้กับตำรวจภูธรภาค 5 ที่มีอยู่ 16,000 นายๆละ1 องค์โดยไม่คิดมูลค่า
เป็นเจตนารมย์ ของท่านเฉลิมชัย อยากให้ตำรวจชั้นผู้น้อยได้รับสิ่งที่ดี
ส่วนพิธีพุทธาภิเษก จัดขึ้น 8 จังหวัดในสังกัด บช.ภ.5 เริ่มจากวัดพระธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ วัดพระธาตุหริภุญชัย จ.ลำพูน วัดพระแก้วดอนเต้า จ.ลำปาง วัดพระธาตุ่อแฮ จ.แพร่ วัดภูมินทร์ จ.น่าน วัดศรีโคมคำ จ.พะเยา วัดพระแก้ว จ.เชียงราย วัดพระธาตดอยกองมู จ.แม่ฮ่องสอน และพิธีมหาพุทธาภิเษก และเบิกเนตรพระพุทธประทานยศบารมี ในวันเสาร์ที่ 5 ก.ย.52 หน้าที่ทำการตำรวจภูธรภาค 5 จ.เชียงใหม่ มีพระพุฒาจารย์(เกี่ยว อุปเสโณ)เป็นประธานในพิธีเบิกเนตร
ไม่เท่านั้นความเมตตาของท่านอาจารย์เฉลิมชัย ยังช่วยในเรื่องการประชาสัมพันธ์ ด้วยการพาไปแถลงข่าวที่สตูดีโอ บ.เวิร์คพอยท์ ออกรายการตาสว่าง ทางช่อง 9 รายการร่วมใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน และรายการโต๊ะข่าวบันเทิง
ทำให้ผู้คนที่ทราบข่าวเช่าพระหมดภายในเวลาไม่กี่วัน ได้เงินมาพัฒนาหน่วย และเหลือเงินอีก 10 กว่าล้านบาทไว้เป็นสวัสดิการให้กับตำรวจชั้นผู้น้อยสมความตั้งใจ
ปัจจุบัน เกษียณอายุราชการ เป็นประธานผู้ตัดสินสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย