ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 ก.พ. พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผบก.น.1 พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รองผบก.น.1 แถลงข่าว พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป ผกก.สน.ห้วยขวาง
จับกุมนายเคอนอ จัง กรีสตอฟ มารี จอร์จ อายุ 51 ปี ชาวฝรั่งเศส ข้อหาพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลโดยปราศจากเหตุอันสมควร กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม
พร้อมของกลางโน้ตบุ๊คเอซุส เมมโมรี่การ์ด ฮาร์ดดิสแบบพกพา 2 ตัว กล้องวิดีโอ กล้องขนาดเล็ก โทรศัพท์มือถือ ยากระตุ้นอารมณ์ทางเพศยี่ห้อกามากร้า 8 ห่อ และถุงยางอนามัย 36 ชิ้น
พล.ต.ต.เสนิต เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ฝ่ายสืบสวนสน.ห้วยขวาง ได้เบาะแสมีชายต่างชาติผิวขาว ชักชวนและพาเด็กชายอายุระหว่าง 13-15 ปี ที่เล่นกีฬาอยู่บริเวณสนามกีฬาห้วยขวางไปกระทำชำเราเป็นประจำให้ค่าจ้าง 800-1,000 บาท
รวมทั้งมีบิดาเด็กรายหนึ่งแจ้งความตำรวจสน.ห้วยขวางว่า ลูกชายหายตัวไปและติดต่อไม่ได้
จากการสืบสวนพบว่า มีชายชาวต่างชาติพาเด็กชายไปที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านอินทามระ ต่อมา เวลา 22.40 น. ฝ่ายสืบสวนนำกำลังเข้าตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่โรงแรมดังกล่าว
พบว่า เด็กที่บิดาแจ้งหายพร้อมเพื่อนชายวัยเดียวกันอีกหนึ่งคน เคยเดินเข้าไปในห้องเลขที่ 806 มีนายเคอนอ เช่าตั้งแต่วันที่ 4ก.พ. จึงเข้าตรวจค้นพร้อมด้วยพนักงาน
พบนายเคอนอ อยู่กับเด็กชาย 2 คนอายุ 14 ปี ภายในห้อง มีการตั้งกล้องถ่ายวิดีโอในขณะร่วมเพศมีโน้ตบุ๊คอยู่บนเตียงนอน เปิดคลิปโป๊ให้ดูเพื่อกระตุ้นอารมณ์ทางเพศก่อนกระทำชำเราเด็กชาย
ตรวจสอบข้อมูลพบคลิปวิดีโอนายเคอนอร่วมประเวณีกับเด็กชายคนเดียวกับที่บิดาแจ้งว่าหายตัวไป ส่วน
เด็กชายที่พบ 2 คน สอบสวนทราบว่า นายเคอนอติดต่อผ่านเฟซบุ๊คชักชวนให้มาร่วมเพศได้ค่าจ้างครั้งละ 800-1,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงจับกุมนายเคอนอ พร้อมของกลางนำตัวไปสอบสวนที่สน.ห้วยขวาง
จากการสอบสวนนายเคอนอ รับสารภาพว่า มีอาชีพเป็นครูสอนภาษาฝรั่งเศสอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้วเคยมาที่สนามกีฬาห้วยขวาง พบกลุ่มเด็กชายอายุ 10-14 ปีมาเล่นกีฬา เข้าไปตีสนิทสอนภาษาอังกฤษและสอนฟุตบอล ก่อนชักชวนไปร่วมประเวณี
สร้างแรงจูงใจให้เงินตอบแทนครั้งละ 800-1,000 บาท ตนมีอาการหมกมุ่นและมีความต้องการทางเพศสูงโดยเฉพาะเด็กผู้ชาย ขณะร่วมเพศทุกครั้งจะถ่ายคลิปวิดีโอไว้เพื่อเก็บไว้ดูไม่ได้นำไปขายหรือเผยแพร่