ไม่มีการแต่งตั้งโยกย้ายหน่วยงานไหน ในเมืองไทย จะวุ่นวายเท่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ทุกครั้งจะมีผู้สมหวัง และผิดหวัง เป็นธรรมดา
คนที่สมหวัง บางคนกระดี๊กระด๊าอวยตัวเองผ่านโซเชี่ยล อดทนอย่างโน้นอย่างนี้มานาน วันนี้ฟ้าเปิดแล้ว จะตั้งใจทำความดีให้หน่วยงานและประชาชนอย่างนี้อย่างโน้น
คนผิดหวังก็เช่นกัน บางคนเก็บตัว นั่งหาสาเหตุ ทำไมถึงโดนย้ายไม่รู้เนื้อรู้ตัว เพื่อหาหนทางกลับเข้าวงโคจรใหม่
บางคนซังกะตาย บางคนก็ใช้โซเชี่ยลโพสต์ความน้อยเนื้อต่ำใจ เข้านายไม่เป็น ทำดีไม่มีตั๋ว ฯลฯ บางคนบ่นเบื่อ ลาออกจากราชการก็มีให้เห็น
ล่าสุดโลกโซเชี่ยล ได้เผยแพร่บันทึกข้อความการลาออกของตำรวจหลายนาย อาทิ พ.ต.อ.จำแรง สุดใจ ผกก.สภ.พะวอ จ.ตาก นรต.34 ให้เหตุผลเนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพ โดยพล.ต.ต.ปริญญา วิศิษฐฎากุล ผบก.ภ.จว.ตาก เซ็นอนุมัติไปเมื่อวันที่ 5 มีค.ที่ผ่านมา
ส่วนที่ภาค 3 พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา เซ็นอนุมัติคำสั่งลาออกจากราชการ ของ พ.ต.อ.สนอง บุญเกิด ผกก.สภ.หินดาด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ที่ขอลาออกไปเพื่อประกอบอาชีพอื่น ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมาเช่นกัน
แต่ทั้ง2ราย ไม่ฮือฮาเท่ากับ การขอลาออกจากราชการของ พ.ต.อ.สุรชาติ ขำเพชร ผกก.ฝอ.ภ.จว.จันทบุรี ส่งถึง ผบก.ภ.จว.จันทบุรี หลังถูกคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายไปเป็น ผกก.ฝอ.2 บก.อก.ภ.3
หนังสือดังกล่าวระบุว่า ด้วย ข้าฯพ.ต.อ.สุรชาติ ขำเพชร ผกก.ฝอ.ภ.จว.จันทบุรี ได้ทราบคำสั่ง ตร. ที่ 82/2561 ลง 28 ก.พ.2561 แต่งตั้งข้าฯ ให้ไปดำรงตำแหน่ง ผกก.ฝอ.2 บก.อก.ภ.3 ซึ่งไม่สะดวกในการดูแลครอบครัว เนื่องจากบุตรที่ยังเล็ก
เพื่อเป็นประโยชน์ส่วนตน จึงขอลาออกจากราชการ ซึ่งข้าฯได้พิจารณาแล้วว่าการลาออกครั้งนี้ ข้าฯไม่มีหนี้สินต่อทางราชการ และไม่ได้ดำรงตำแหน่งในสังกัด ภ.จว.จันทบุรี อีกแล้ว จึงไม่เป็นประโยชน์ต่อทางราชการอีกต่อไป ไม่เป็นการเสียหายต่อทางราชการ และหากข้าฯจะต้องไปลาออกเมื่อเดินทางไปรับตำแหน่งใหม่จะเป็นการยุ่งยากลำบาก ในการทำเรื่องขออนุญาตลาออกและการรับบำนาญ
“จึงขออนุญาตให้วันลาออกมีผลในวันที่ 14 มี.ค.2561 ถือว่าเป็นการลาออกด้วยเหตุผลความจำเป็นพิเศษตามนัยระเบียบ ก.ตร.ว่าด้วยการลาออกจากราชการขอข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2550 ข้อ 3 วรรค 2 พร้อมกันนี้ ข้าฯได้แนบหนังสือขอลาออกจากราชการมาด้วยแล้ว”ท้ายหนังสือระบุ
ที่บอกว่าฮือฮากว่าใคร เพราะ พ.ต.อ.สุรชาติ เคยยื่นลาออกมาครั้งหนึ่ง เมื่อปี 60
ก่อนนี้ พ.ต.อ.สุรชาติ ขึ้น ผกก.เมื่อปี 56 วาระปี 55 เป็นผกก.สภ.นายายอาม จ.จันทบุรี จัดเป็นนายตำรวจอนาคตไกลสดใส ยังหนุ่มแน่น เป็น นรต.48 อีกทั้งครอบครัวทำธุรกิจเป็นเจ้าของตลาดอยู่ที่ จ.ระยอง
แต่พอปี 57 เขาถูกเตะมาเป็น ผกก.ฝอ.ภ.จว.จันทบุรี เหตุถูกหาว่าเป็นตำรวจสายเพื่อไทย
กระทั่งปี 60 ได้ทำเรื่องลาออก แต่ บก.ภ.จว.ดึงเรื่องไว้ จนครั้งนี้ถูกย้ายไปเป็น ผกก.ฝอ.2 บก.อก.ภ.3 เลยทำเรื่องขอลาออกอีกครั้ง เรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาเช่นกัน
เป็น ผกก.นาน 6 ปี โดนดองอยู่ ฝอ. เพราะถูกมองว่าพัวพันการเมืองฝั่งตรงข้าม ไม่ใช่เรื่องแปลก
แต่การย้ายข้าม บช. จากภาค 2 ไปภาค 3 ซึ่งอยู่ไกลถึงจ.นครราชสีมา แถมเจ้าตัวไม่ได้ขอขึ้น รองผบก.
ถ้าไม่เรียกกลั่นแกล้ง จะให้เรียกว่าอะไร
วงการนี้มันเถื่อนจริงๆ….
กากีกลาย 13/3/61
