สืบนครบาลทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์จับผู้ต้องหา หลอกโอนเงินซื้อทองคำออนไลน์ มูลค่า 4.5 ล้านบาท ขยายผลค้นห้องพักพบเอกสารนิติบุคคล-บัญชีม้า-ยาบ้า
พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รองผบช.น. พล.ต.ต. โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. และพ.ต.อ.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุณยมานนทน์ ผกก.สส. 3 บก.สส.บช.น. นำกำลังขยายผลเข้าตรวจสอบที่ชั้น 8 โรงแรมแห่งหนึ่งย่านรัชดาภิเษก แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
หลังได้รับแจ้งจากศูนย์วอร์รูมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบพบการทำธุรกรรมทางการเงินที่ผิดปกติ มีการโอนเงิน 4,500,000 บาท ไปซื้อทองคำ 80 บาท ผ่านทางช่องทางออนไลน์
ก่อนหน้านี้ได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัย 2 คน ที่ไปรับทองคำย่านเยาวราชได้ให้ข้อมูลว่ามีการเปิดห้องพักแห่งนี้เป็นที่สั่งการให้ไปกดเงินและรับทอง
จากการเข้าตรวจค้นห้องพักที่ชั้น 8 พบเป็นห้องสูทขนาดใหญ่ มีตราประทับของบริษัทนิติบุคคล 10 บริษัท, เอกสารรับรองการเปิดบริษัท, สมุดบัญชีธนาคาร 3 เล่ม, โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง, ถุงใส่ทองคำ 3 ถุง, ยาบ้า 10 มัดรวม 1,000 เม็ด พร้อมอุปกรณ์การเสพ
นอกจากนี้ยังพบห้องพักที่บริเวณชั้น 7 อีก 5 ห้อง ใช้เป็นห้องพักและห้องทำงานย่อยๆ ทั้งนี้ จับกุมผู้ร่วมขบวนการที่จุดนี้เป็นชายได้อีก 3 คน
สอบปากคำหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการ รับว่าถูกชักชวนผ่านทางแอปพลิเคชั่นเข้ามาทำงานในบริษัทเงินกู้ที่ถูกเปิดบังหน้าในการรับโอนและกดเงินบัญชีม้า ในแต่ละวันจะมีหน้าที่สแกนใบหน้าเพื่อโอนเงิน และออกไปรับทองตามร้านต่างๆ ได้ค่าจ้างเดือนละ 10,000 ถึง 50,000 บาท
ส่วนยาบ้าที่เจอ เขารับสารภาพว่าเสพเองวันละ 10 เม็ด ร่วมกับการดื่มน้ำกระท่อม โดยจะมีผู้จัดหายาเสพติดและอาหารมาให้
ด้านพล.ต.ต.วสันต์ บอกว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีรูปแบบระงับยับยั้งเงินก่อนที่จะเกิดความเสียหาย เป็นการทำงานเชิงรุก จากเมื่อก่อนที่จะต้องรอให้ผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความ แต่ปัจจุบันตำรวจได้เข้ายับยั้งเงินที่ผู้เสียหายโอนเข้ามาขบวนการนี้ได้มากกว่า 100 ล้านบาท
สำหรับขบวนการนี้มีการหลอกลวงผู้เสียหาย 2 คนในพื้นที่สน.พญาไทและ สน.บางโพ ให้โอนเงินเข้ามาที่บัญชีธนาคารของบริษัทนิติบุคคล ยอดรวมประมาณ 4,500,000 บาท ระหว่างนั้น ทางวอร์รูมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจพบลักษณะการโอนเงินที่ผิดปกติ จึงสั่งเฝ้าติดตามเส้นทางการเงิน พร้อมกับแจ้งให้ตำรวจแต่ละพื้นที่เตรียมเข้าตรวจสอบ
กระทั่งพบว่าเงินจำนวนดังกล่าว ถูกโอนผ่านเข้าแอปพลิเคชั่นซื้อขายทองคำออนไลน์ของห้างทองชื่อดัง เพื่อซื้อทองคำรวมน้ำหนัก 80 บาท และเตรียมเดินทางไปรับทองคำจำนวนดังกล่าวที่ห้างทองย่านเยาวราช ชุดสืบนครบาลและชุดสืบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 จึงเฝ้าติดตามกระทั่งพบหญิง 2 คนเป็นผู้ไปรับทองคำ จึงเชิญตัวมาสอบปากคำที่สน.จักรวรรดิ ก่อนจะขยายผลมาตรวจสอบที่ห้องพักแห่งนี้
ข้อมูลทั้งหมดได้รับแจ้งช่วงเที่ยงที่ผ่านมาและสามารถขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดในเวลาเพียง 2 ชั่วโมง
ทั้งนี้ชุดจับกุมยังไม่ทราบรายละเอียดว่าพฤติการณ์การหลอกลวงผู้เสียหายของกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าวเป็นอย่างไร เตรียมเรียกผู้เสียหายแต่ละคนเข้าให้ปากคำ โดยในพื้นที่สน.พญาไท ผู้เสียหายจะเข้าแจ้งความในวันพรุ่งนี้ และที่สน.บางโพจะเข้าแจ้งความในวันศุกร์นี้ เพื่อขยายผลให้ถึงผู้ร่วมขบวนการทุกคน