วินัย ทองสอง เจ้าพ่อ PDC
ลุยเฟส 2 กูเกิลตำรวจ
” เป็นตำรวจต้องจับโจร” พล.ต.อ.วินัย ทองสอง รองผบ.ตร.กล่าวไว้ในฐานะผู้ให้กำเนิดโปรแกรม PDC หรือ Police Data Center ศูนย์ตรวจสอบข้อมูลอาชญากรรม ตรวจสอบได้จากโทรศัพท์มือถือทั่วไปทั้ง IOS และ Androi เรียกกันง่ายๆ “กูเกิลตำรวจ” ที่ตำรวจทั้งประเทศ กำลังสนุกกับการไล่ล่าโจรด้วยโทรศัพท์มือถือเพียงเครื่องเดียว
” มันกำลังทำงานอย่างได้ผลมาก ตอนนี้มีข้อมูลอยู่ 3 ล้าน 5 อัพ อาทิมีหมายจับหรือเปล่า พ้นโทษมารึยัง แล้วยังมีเรื่องรถหาย คนหาย พลัดหลง ไลเซ่นเพรส ขณะนี้กำลังทำเฟส 2 เพิ่มเมนูอีกอันหนึ่ง คือ เครือข่ายแก๊งคนร้าย ซุ้มมือปืน และมือปืนรับจ้าง เครือข่ายผู้มีอิทธิพล….” นายพลคนแปดริ้วเริ่ม
นำเครือข่ายทีมฆ่าเข้าระบบ
อดีตผู้การกองปราบปรามเล่าให้ฟังว่า เครือข่ายแก๊งคนร้ายนี่ พูดง่ายๆ ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปกระทำความผิด คือเป็นกลุ่มแก๊ง ต้องปรากฏหัวหน้า ลูกน้อง เครือข่าย พฤติกรรมผู้กระทำความผิด เช่น แก๊งตกทอง แก๊งลักเซฟ แก๊งแขกขาว แก๊งลูกหมู แก๊งไนจีเรีย พวกคนดำ พวกนี้กดเข้าไปดูในเมนูเดิมได้เลย ใครดูก็ได้ แต่เฟส 2 นี้ให้ระดับ ผกก.สืบ จังหวัด ผกก.สืบบก.รวบรวมจากโรงพักต่างๆจัดทำ ข้อมูลชั้นนี้จะต้องถูกกลั่นกรอง สั่งการไปตั้งแต่ปลายปีแต่น้ำท่วมเสียก่อน ส่วนจะพร้อมใช้งานได้เมื่อไหร่ ตั้งเป้าไว้ประมาณเดือน เม.ย.คือจะให้เวลาจัดทำ 2 เดือน
ทีมฆ่าแบ่งเป็น 4 ระดับ
สำหรับแก๊งเครือข่าย ซุ้มมือปืน และมือปืนรับจ้าง คือรับจ้างฆ่าคน โดยใช้อาวุธ ใช้ระเบิด หรืออะไรต่างๆ โดยรับค่าจ้าง พวกนี้จะมี 4 ระดับ คือ 1.คนที่เป็นมือปืน คือ คนที่กระทำผิด หรืออยู่ระหว่างดำเนินคดี ถูกจับ พ้นโทษ คือกระทำผิด 2.บุคคลที่เชื่อว่ามีพฤติกรรมแต่ยังไม่ถูกจับ ตรงนี้คือพวกที่ไม่เคยมีประวัติ ตัวนี้ยาก เพราะพวกดาวรุ่ง ไม่เคยมีประวัติ แต่เคยมีพฤติกรรม 3.บุคคลในเครือข่ายผู้ว่าจ้าง ผู้จัดหา ผู้ให้ความคุ้มครอง หัวหน้าซุ้ม และ 4.คือผู้ที่ใช้อาวุธปืน วัตถุระเบิด ที่จะฆ่าผู้อื่น ก็ให้เก็บมาไว้ในนี้ทั้งหมด รวมทั้งผู้ที่เคยก่อเหตุ พวกวัยรุ่นที่ชอบยิงปืนในหมู่บ้าน พกพาอาวุธปืนในหมู่บ้าน พวกที่ไปอยู่ตามชมรมอาวุธปืน สนามยิงปืนต่างๆ คือพวกนี้ ถ้าดูในระดับภูธร ถ้ามีเหตุเกี่ยวกับอาวุธปืนขึ้นมาเมื่อไหร่ รู้เลย ว่าไอ้นี่ แต่ตอนนี้ที่ทำไป ความครบถ้วนสมบูรณ์ยังไม่มี แต่เริ่มต้นไปแล้ว 30-40% ถือเป็นการวางแนวความคิด ให้มาต่อยอด ต้องค่อยๆทำ
ยศผู้การขึ้นไปถึงเข้าดูได้
วันก่อนตกลงกันแล้ว ผู้การจังหวัด ผู้การศูนย์สืบ รองผู้บัญชาการ ผู้บัญชาการขึ้นไปเท่านั้น ที่จะเข้าไปดูระดับนี้ได้ เพราะมันยังไม่เคยถูกจับ มันจะเกี่ยวข้องกับความมั่นคง ถ้าเปิดได้ทุกคนจะเสียหาย แต่อยู่ในเมนูอีกอันหนึ่ง เป็นหมวดพิเศษ ที่ใช้พาสเวิร์ดเปิด ของใครของมัน ระบบคอมฯ มันจะบันทึกไว้เป็นวินาที ตรวจสอบได้หมด ถ้าหลุดไปตรงไหนยังไง ต้องรับผิดชอบด้วย เพราะฉะนั้นตรงนี้มีระบบซีเคียวริตี้ เรียบร้อย
ผู้มีบารมีทั้งหลายอยู่ในระบบนี้ด้วย
อีกกลุ่ม คือ เรื่องโครงสร้างผู้มีบารมี กลุ่มที่คนนับหน้าถือตา เคยมีลักษณะใช้ความรุนแรงเข้าไปในการแก้ปัญหา หรือกลุ่มที่เคยเป็นอดีตนักการเมือง หรือผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถ้าไปบอกว่าให้ลงไปเป็นผู้มีอิทธิพล เด็กมันไม่กล้า แต่ถ้าบอกกลุ่มผู้ที่เคยเป็นนักการเมือง หรืออะไรอย่างนี้ มันกล้า เราต้องรู้ไว้ เพราะเมื่อเกิดเหตุขึ้น มันมาจากกลุ่มพวกนี้ทั้งนั้น จริงๆ มีคนทำมาหลายยุคหลายสมัย แต่สุดท้ายมันก็เริ่มต้นจากศูนย์ใหม่ คราวนี้เรามาทำ 1 2 3 ให้แล้ว คุณก็มาทำเริ่มที่ 4 หรือ 4.5 หรือ 5 ต่อไป ถามว่าทำไมเราถึงไป เพราะมันมีหลักการแนวคิดว่า ถ้าไม่รู้พฤติกรรม ไม่รู้บุคคล ไม่รู้อดีต ไม่รู้ปัจจุบัน ก็ทำงานกับคนไม่ได้ ทำงานลำบาก ทำเฉพาะทางไม่ได้ เป็นมืออาชีพไม่ได้ เพราะฉะนั้นต้องสร้างตำรวจให้เป็นมืออาชีพให้ได้ เดี๋ยวหลังน้ำลด ปลายเดือน ม.ค. จะประชุม ก.พ. มี.ค. ถึง เม.ย.น่าจะเป็นรูปเป็นร่าง พอถึง มิ.ย. และ ก.ค.พวกนี้จะเข้ามาอยู่ในนี้ โทรศัพท์เครื่องเดียว นี่
จากใจล้วนๆสู่เทคโนโลยี่
นายตำรวจยอดฝีมือเล่าให้ฟังต่อว่า ก่อนนี้การจับกุมคนร้ายของนักสืบ พื้นฐานคือ ต้องมีความตั้งใจ มีความคิด มีจิตวิญญาณ คนร้ายหนี ใครบ้างที่จะรู้ พ่อ แม่ พี่ น้อง ลูก เมีย เพื่อนสนิท คนที่เคารพ นี่พื้นฐาน ต่อมาที่จับได้ก็กล้องวงจรปิดนิติวิทยาศาสตร์ เครื่องมือสื่อสาร และขณะนี้ก็คือที่ลงทะเบียนทั้งหลาย แล้วก็เอาซีซีโอซี จับ ปีแรก 7,000 พอปี 59 ก็ 20,000 กว่า จนมีครอบครัวหนึ่งโทร.มาบอกเลยว่า ไม่นึกเลย ตำรวจยังไม่ลืม ยังจับให้เขา
บางหน่วยไม่เคยจับก็จับได้
ผลของ PDC ยกตัวอย่างการจับกุมของตำรวจรถไฟ จากเมื่อปี 57-58 ไม่เคยจับ พอปี 58-59 ตั้งแต่มิ.ย.-ธ.ค.59 จับไป 700 กว่าหมาย แล้วเนี่ยทางหลวง จับ 500 แล้วเนี่ย ตชด.ก็จับ 170 กว่าหมาย ตำรวจตอนนี้ใช้ PDC ทั้งนั้น จราจรกลาง ก็เอานักสืบมาอบรม มีข้อมูล มีเครื่องมือที่ใช้ง่าย เข้าถึง สนองความต้องการ สร้างบุคลากรให้มีความรู้ นี่คือการอบรมนักสืบ แต่ สุดท้ายเลย ต้องดำเนินการภายใต้กฎหมาย คือ 1.มีความมุ่งมั่น 2.มีจิตวิญญาณ มีข้อมูล 3.มีกลยุทธ์ กลวิธี 4.ต้องดำเนินการภายใต้กฎหมาย ชีวิต แล้วสุดท้าย ก็กระทำการด้วยปัญญา รักษาความไม่ประมาทเสมอชีวิต
แต่ต้องอยู่ภายใต้กฏหมาย
มีน้องๆหลายคน มาบอกพี่วินัย ลำบากเรื่องนี้ทำไม แค่ปื้ดๆ 2 ปื้ดเอง ปื้ดๆคือ เอาปืนไปยิงซะ ก็บอก 1.ถ้าเราไปทำอย่างนั้นเนี่ย เราก็ผู้มีอิทธิพล ไม่ต่างกันเลย คือ ใช้ความรุนแรงในการตัดสินปัญหา เราเป็นผู้รักษากฎหมาย จะทำอย่างนั้นไม่ได้ ที่อยู่ยงคงกระพันถึงทุกวันนี้ เพราะไม่เคยละเมิดกฎหมาย เราจัดการกับผู้ที่ละเมิดกฎหมาย ถ้าเราไปทำปื้ดๆ 2-3 ปื้ด นะ จากพี่วินัย ก็เป็นป๋านัย กลายเป็นผู้มีอิทธิพล แล้วสักพักก็จะเข้าไปอยู่ในคุก ดังนั้น ตรงนี้ เน้นเลย ต้องดำเนินการภายใต้บทบัญญัติของกฎหมาย มีจิตวิญญาณ ความมุ่งมั่น มีข้อมูลรู้เขารู้เรา มีกลยุทธ์ กลวิธี สุดท้าย คือ ดำเนินการภายใต้กฎหมาย นี่ข้อสำคัญเลย
ทั้งหมดนี้คือความห่วงใยของลูกผู้ชายคนหนึ่งที่ก้าวจากเด็กวัดขึ้นมาสู่เก้าอี้ี รองผบ.ตร. ผ่านตำแหน่งสำคัญๆในอดีตอย่าง ผู้การกองปราบ อดีต ผบช.น. อดีตผบช.ภ.1 อดีต ผบช.ภ.2 เป็นเครื่องหมายการันตี กล่าวเตือนไว้
กากีกลาย17/1/60
อ่านตอน 1. He Never Die “พล.ต.อ.วินัย ทองสอง” ปรมาจารย์ตำรวจนักสืบ
อ่านตอน 2. ผมนี่แหละจับโจรได้มากที่สุดในประเทศ ” …วินัย ทองสอง
