ตามที่นายกรัฐมนตรีนายเศรษฐา ทวีสิน กำชับให้เร่งกวดขันปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อป้องกันเด็กและเยาวชน มอบหมายให้นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดกับผู้ลักลอบขาย บุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า
วันที่ 21 มี.ค. 67 นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค มอบหมายศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ อำนวยการโดย พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ รองเลขาธิการ สคบ. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ สคบ. สั่งการให้นายเลิศศักดิ์ รักธรรม ผู้อำนวยการส่วนบังคับคดี ปฏิบัติหน้าที่รองผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ นายฤทธิรอน ทวีทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายรับเรื่องราวร้องทุกข์ ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการพิเศษ สคบ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ สคบ.
สนธิกำลังร่วมกับ สภ.บางละมุง ภายใต้ข้อสั่งการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รอง ผบ.ตร. นำโดย พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุง พ.ต.ท.กรณ์พงษ์ สุขวิสิฏฐ์ รอง ผกก.สส.สภ.บางละมุง พ.ต.ท.ศุภวัฒน์ ลัทธปรีชา รอง ผกก.ป.สภ.บางละมุง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง
ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านค้ารายใหญ่ซึ่งลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าให้กับเด็กและเยาวชนมีทั้งกลุ่มเด็กนักเรียนเป็นจำนวนมาก ย่านสุขุมวิทพัทยา ซอย 51 และซอย 53 เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
พบร้าน Orderf ลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ได้ตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าทั้งหมดพร้อมนำตัวผู้ขายส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง ดำเนินคดีตามกฎหมายทุกข้อหา
จากการตรวจสอบพบหลักฐานการขายของร้าน Orderf ตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2566 ถึงวันที่ 21 มีนาคม 2567 (7 เดือน) มียอดขายบุหรี่ไฟฟ้า 281,149 รายการ
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 102,183,700 บาท หรือยอดขายเฉลี่ยวันละ 400,000 – 500,000 บาท เดือนละ 15,000,000 บาท (สิบห้าล้านบาท)
ขณะพนักงานเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการพบมีลูกค้ามาติดต่อขอซื้อบุหรี่ไฟฟ้าเป็นจำนวนมากโดยไม่ขาดสาย ในการปฏิบัติการครั้งนี้สามารถยึดของกลางได้ 11,065 ชิ้น มูลค่าโดยประมาณ 5 ล้านบาท
นายธสรณ์อัฑฒน์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการ สคบ. กล่าวว่า สืบเนื่องจากประชาชนได้ยื่นร้องเรียนแจ้งเบาะแสมาที่ สคบ. ว่ามีร้านลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าเจ้าใหญ่ในพื้นที่อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี จึงได้มอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ สคบ. ร่วมกับ สภ.บางละมุง ลงพื้นที่ตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด
ทั้งนี้ การลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า เป็นความผิดตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองที่ 8/2558 เรื่อง “ห้ามขายหรือห้ามให้บริการบารากู่ บารากู่ไฟฟ้า บุหรี่ไฟฟ้าหรือนำ้ยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า” ซึ่งหากว่าใครฝ่าฝืนเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้ใดพบเห็นการลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ หรือแจ้ง สคบ. ได้ที่สายด่วน 1166 เว็บไซต์ www.ocpb.go.th รวมทั้งศูนย์ดำรงธรรม ในทุกจังหวัด