อย่าเล่นกับระบบ…สืบนครบาลรวบหมวดเจมส์สืบนครบาลเก๊ กรรโชกทรัพย์ พร้อมอาวุธปืน 9 มม. ลูกปืน 12 นัด
สืบนครบาลเก๊ เหลนเจ้าพระยา” แสบ ก่อตั้งกลุ่มเฉพาะกิจ ปะฉะดะ ปลอมตัวเป็นสายสืบอ้างอยู่ชุดสารวัตรแจ๊ะ บุกร้านกระท่อม ย่านบางมด ก่อนกรรโชกเงิน 3,000บาท พร้อมไถค่าคุ้มครอง 500/เดือน
ล่าสุด “ผู้การจ๋อ” ใช้มุขคลาสสิคล่อเข้มารวบได้ที่ร้านไอศรีมย่านตลาดพลู จับกุมได้พร้อมอาวุธปืน 9 มม ที่ขึ้นลำพร้อมปะทะกับทีมสารวัตรแจ๊ะ ค้นบ้านพบบัตรตำรวจปลอม และเครื่องแบบเก๊อีกหลายรายการ เจ้าตัวคอตกสารภาพ “เป็นเหลนเจ้าพระยา สายเลือดตำรวจเข้มข้น แต่ตอนเด็กไม่ได้ตั้งใจเรียน”
วันที่ 31 ต.ค. 67 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการพล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส. บช.น. , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว รอง ผกก.กก.สส.บก.น.5 , พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น.
พ.ต.ต.วศิน อินทร์แก้ว สว.ฝอ.บก.สส.บช.น. , ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น รอง สว.กก.สส.4 บก.สส.บช.น. , ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพร รอง สว.กก.2 บก.สส.ภ.2 , ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา รอง สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. , ร.ต.อ.หญิง ณิชญากาญจน์ เปสลาพันธ์ รอง สว.ฝอ.บก.สส.บช.น.
ร.ต.ท.เลิศวริศเลิศวรปรีชา รอง สว.ฝทว.7 ทว. ร.ต.ท.ณัฐวุฒิ อันชูฤทธิ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.ดินแดง , ร.ต.ท.อนันตชัย สัจจพงษ์ รอง สว.ฝอ.2 บก.อก.สทส. , จ.ส.ต.สรศักดิ์ ด้วงชู ผบ.หมู่ กก.สส.บก.น.4 , ส.ต.ท.จิรวัฒน์ ศรีมั่นมีชัยผบ.หมู่ กก.3 บก.ปส.3 , ส.ต.ต.เมธิชัย คำดี ผบ.หมู่ กก.สส.1 บก.สส.บช.น. และเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น.
ร่วมกันจับกุมนายชลทิศ หรือ “หมวดเจมส์” อายุ 34ปีตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ จ.825/2567 ลงวันที่ 16 ก.ย. 67 ข้อหา “ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ , ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น
และร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น”
และถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเติมว่า “พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต”
ตรวจยึดของกลาง 4 รายการ
1.อาวุธปืน SIG SAUER ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก (ขึ้นลำพร้อมใช้)
2.กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 12 นัด
3.บัตรเจ้าหน้าที่ตำรวจ (ปลอม) ปรากฏชื่อและใบหน้าของคนร้าย จำนวน 1 ใบ
4.เครื่องแบบตำรวจ จำนวน 2 ชุด
5.เสื้อเกราะกันกระสุด จำนวน 1 ชุด
พฤติการณ์กล่าวคือ “สืบนครบาลเก๊” อดีต รปภ. หนุ่มวัย 34 ปี ใฝ่ฝันอยากเป็นชายในเครื่องแบบ ตระเวนหาซื้อเครื่องแบบตำรวจมาสวม ตัดผมสั้นเกรียน แล้วมักทำทีสวมเสื้อเกราะ สวมอุปกรณ์ยุทธวิธี ให้เหมือนตำรวจ อุปโลกสร้างโปรไฟล์ว่าตนเป็นชุด “เฉพาะกิจ ปะฉะดะ”ปัจจุบันปลอมตัวเป็นสายสืบตระเวนกรรโชกทรัพย์
ล่าสุดมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.บางมด พร้อมกับมอบหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกพฤติกรรมกรรโชกทรัพย์
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 67 เวลาประมาณ 16.00 น. ขณะที่ผู้เสียหายอยู่ในบ้านพักได้มีชายแต่งกายคล้ายสายสืบ (ทราบภายหลังคือ นายชลทิศฯ) อ้างเป็นเจ้าหน้าที่จาก “สืบนครบาล” ชื่อว่า “หมวดเจมส์” เข้าไปจับกุมผู้เสียหายที่อยู่ในบ้านพัก อ้างว่ามีน้ำกระท่อม 3 ขวด ก่อนจะเรียกเงิน3,000 บาท จากผู้เสียหาย โดยข่มขู่ว่าหากไม่จ่ายจะถูกจับกุมดำเนินคดี ผู้เสียหายจึงยอมจ่ายเงินสดให้กับคนร้ายไป 3,000 บาท
แต่ยังไม่จบแค่นั้นเมื่อคนร้ายข่มขู่ให้จ่ายค่าคุ้มครองแบบรายเดือนอีก 500 บาทต่อเดือน ก่อนจะออกจากบ้านผู้เสียหายไป ซึ่งต่อมาก็ได้มีการออกหมายจับสายสืบเก๊รายนี้ แต่การจับกุมไม่สามารถทำได้ง่าย
จากการสืบสวนติดตามคนร้ายหลบหนีไปกบดานตามแหล่งชุมชนในพื้นที่ฝั่งธนบุรีพร้อมกับสั่งให้ลูกสมุนคอยสังเกตการณ์ดูตำรวจเข้าออกชุมชนตลอดเวลา ด้วยสมรภูมิสุดได้เปรียบของคนร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ได้พยายามเข้าไปจับกุมกว่าหลายครั้ง แต่ก็คว้าน้ำเหลวร่ำไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ผบก.สส.บช.น. งัดแผนคลาสสิค “ล่อเสือออกจากถ้ำ” เนียนปลอมคูปองส่วนลดร้านไอศรีมชื่อดังร้านโปรดของคนร้ายส่งไปให้ ปลากินเบ็ดหรือเปล่าไม่รู้ แต่เหลือเพียงหนทางเดียวที่จะเจอคนร้ายได้
กว่า 7 วันที่ชุดสืบสวนไม่ต่างจากสัมภเวสีเฝ้าร้านไอศรีม กระทั่งช่วงหัวค่ำของวันที่ 30 ต.ค. 67 คนร้ายได้ปรากฏตัวที่ร้านไอศรีมด้วยท่าทีระแวงรอบทิศ พล.ต.ต.ธีรเดชฯ สั่งการให้ตะครุบตัวในทันที
หลังจับกุมชุดสืบสวนตรวจค้นพบปืน 1 กระบอก “ขึ้นลำ” พร้อมปะทะ และยังพบบัตรเจ้าหน้าที่ตำรวจ (ปลอม) ปรากฏชื่อและใบหน้าของคนร้ายซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าคาดเอว จึงได้ยึดไว้เป็นของกลางก่อน ขยายผลการจับกุมเข้าตรวจค้นบ้านพักของคนร้ายในชุมชนย่านวัดหงส์รัตนาราม พบเครื่องแบบตำรวจและเสื้อเกราะกันกระสุนอีกหลายรายการ
ชั้นจับกุม หมวดเจมส์ รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ เป็นเหลนเจ้าพระยาท่านหนึ่ง และตระกูลตนเป็นตระกูลชื่อดังมาตั้งแต่สมัยอยุธยา มีสายเลือดเจ้าหน้าที่ของบรรพบุรุษเข้มข้น ทำให้ตนเองอยากเป็นตำรวจ
แต่ด้วยวัยเด็กตนเกิดมีลูกก่อนวัยอันควรทำให้ไม่ได้เรียนหนังสือ ต้องออกมาทำงานหาเงิน จนในปัจจุบันตนเองไม่สามารถสอบเข้าตำรวจได้แล้วแต่ก็ยังมีความอยากเป็นตำรวจอยู่ดี จึงสมัครเป็น อปพร. อยู่สักพักหนึ่ง กระทั่งได้เรียนรู้การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ในคดีนี้ตนเองได้เบาะแสจุดร้านกระท่อมของผู้เสียหาย จึงเห็นช่องทางในการจะตบทรัพย์จึงปลอมตัวเป็นสืบนครบาล อ้างว่าชื่อ “หมวดเจมส์” ทำทีเข้าไปจับกุม ก่อนจะเรียกรับเงินเป็นจำนวน 3,000 บาท แต่หลังก่อเหตุก็เกิดเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นตนจึงหลบหนีโดยยืนยันว่าเคยก่อเหตุมาแค่ครั้งเดียวจริงๆ ไม่เคยก่อเหตุเช่นนี้มาก่อน”
หลังจับกุมขยายผลได้นำตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.บุคคโล ดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “จากการขยายผลเราได้ข้อมูลว่าคนร้ายรายนี้เคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง มักอ้างว่าตนเองเป็นสืบนครบาล เชื่อว่าเคยมีผู้ตกเป็นเหยื่ออีกไม่น้อย หลังจากนี้เราจะขยายผลโดยละเอียด และขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน ผู้ใดเคยถูกผู้ต้องหารายนี้กระทำการอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจข่มขู่ตบทรัพย์สามารถแจ้งเบาะแสมาได้ที่เพจ สืบนครบาล IDMB เราจะมีการขยายผลให้ถึงที่สุด
แม้ว่าจะไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.