4 ชั่วโมงสุดระทึก สืบนครบาลไล่ล่าทักษิณ หรือตั้ม แก๊งทวงหนี้ขาโหดย่านหนองแขม หลังก่อเหตุกระทืบผู้เสียหายยับเกือบเป็นผู้พิการตลอดชีวิต หลังถูกออกหมายจับ พล.ต.ต.ธีรเดชฯ ส่งชุดสืบนครบาล กับ สืบ 111 ไล่ล่า คราแรกรอดเงื้อมมือได้หวุดหวิดหันมา “แสยะยิ้มเย้ย” ชุดจับกุมไม่ท้อไล่ล่าจับได้ในที่สุด
วันที่ 22 สิงหาคม 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.ทศรัสมิ์ กิติธารา สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น , พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ , ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น ร่วมกับเจ้าหน้าที่ สืบนครบาล และเหล่านักเรียนอบรมหลักสูตรสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 111
ร่วมกันติดตามจับกุมนายทักษิณ หรือตั้ม อายุ 38 ปีตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.409/2566 ลง 10 ส.ค. 2566 ฐานความผิด “ทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส” (สน.ค้างพลู) พบประวัติต้องโทษเกี่ยวกับยาเสพติด และพกพาอาวุธปืน
พฤติการณ์กล่าวคือ นายทักษิณ หรือตั้ม แก๊งทวงหนี้ขาโหดย่านหนองแขม ประวัติโชกโชน ยาเสพติด และอาวุธปืน เมื่ กลางปี 65 สร้างวีรกรรมสุดเหี้ยมกระทืบผู้เสียหายเกือบกลายเป็นผู้พิการไปตลอดชีวิต ซ้ำหลังที่ผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังตำรวจเรียกเจ้าตัวมาขึ้นโรงพักทำที “เต๊ะจุ้ย” วาดมาดพร้อมเคลียร์ ผู้เสียหายรู้สึกหวาดผวาไม่เป็นอันทำมาหากิน ขอความช่วยเหลือมาที่ เพจสืบนครบาล
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ส่งชุดแฝงตัวย่าน ซ.สุขสวัสดิ์ 26 กระทั่งพบเจ้าตัวขี่รถมารวมก๊วนกับพลพรรค แต่ไหวตัวทันควบรถหนีขณะที่ชุดสืบสวนไล่ควบมาติดๆจนถึง ถ.เจริญกรุง ละแวกสาธร หวังตะครุบกลางสี่แยกไฟแดง ขาโหดไม่ยอมจำนนบิดรถหนีไปได้อย่างหวุดหวิด ก่อนหันมา “แสยะยิ้ม” ให้เจ้าหน้าที่อย่างสุดกวน
แม้จะคว้าน้ำเหลวในรอบแรก ซ้ำกระต่ายยังตื่นตูม แต่ไม่อาจสั่นคลอนจิตวิญญาณ “หมาล่าเนื้อ” ของชุดไล่ล่าได้ โดดลงรถกระบะก่อนควบจักรยานยนต์ของเหล่าพลเมืองดีติดตามไป ไล่กวดไปกว่า 4 ชั่วโมงอย่างสุดระทึก เจ้าตัวต่อสู้ขัดขืนเจ้าหน้าที่พยายามจะกระโดดลงน้ำหลบหนีเจ้าหน้าที่แต่สุดท้าย ถูกรวบตัวได้ที่บริเวณ สะพานข้ามคลอง ซอยสุขสวัสดิ์ 26 แขวงบางมด เขตจอมทอง จ.กรุงเทพฯ
ในชั้นจับกุมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเคยถูกจำคุกในคดียาเสพติด เมื่อประมาณปี 2550 ,ปี 2559 ,ปี 2562 และคดีพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
ในคดีนี้ เมื่อประมาณปี 2565 ได้มีปากเสียงกับเพื่อนร่วมงานซึ่งได้ขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง จนได้ลงมือทำร้ายร่างกายเพื่อนร่วมงานคนดังกล่าว โดยการเตะไปที่ใบหน้าจากนั้นก็ได้กระทืบซ้ำไปหลายครั้ง ทำให้ผู้เสียหายล้มลงและสลบไป หลังจากก่อเหตุก็ติดต่อขอเคลียร์กับคู่กรณีหลายครั้งแต่ตกลงไม่ได้ จึงหลบหนีโดยยืนยันว่าที่ทำไปไม่ได้เกี่ยวกับแก๊งเงินกู้ หรือการทวงหนี้ และที่หลบหนีไม่ยอมเจ้าหน้าที่แต่โดยดีเพราะคิดว่าเป็นเด็กช่าง”
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “เราไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของคนร้ายรายนี้ ผู้ต้องหามีประวัติต้องคดียาเสพติดและพกอาวุธปืนไปที่สาธารณะ การลงมือก่อเหตุมีลักษณะของจิตใจที่อำมหิต จากการสืบสวนยังพบพฤติกรรมทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล เก็บเงินกู้ ซ่องสุมกำลัง ใช้ความรุนแรง เราจะมีการขยายผลไปถึงเครือข่ายเงินกู้เถื่อนพวกนี้จนถึงที่สุด และขอเตือนผู้ที่คิดจะทำธุรกิจสีเทาในลักษณะนี้ว่า จะผู้มีอิธิพลใดๆ ผมไม่กลัว ตามนโบบาย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.”
