เตรียมปิดคดี “ผิดเป็นครู”
ผลกระทบที่มากกว่า 30 ล้านบาท
คอลัมน์ อาชญา (ลง) กลอน
โดย…ธนก บังผล
เคยสงสัยกันหรือไม่ครับว่านักข่าวรู้ได้อย่างไรใครถูกล็อตเตอรี่ในแต่ละงวด ถูกเท่าไหร่ ถูกที่ไหน ซื้อกับใคร ผมเองก็เพิ่งจะมารู้ไม่นานนี้เองว่าเขาทำงานกันอย่างไร
เมื่อมีการถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 เป็นจำนวนหลายล้านบาท ผู้ที่ถูกรางวัลส่วนมากจะรีบไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับตำรวจ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุไม่คาดคิด เช่น หวยหาย หรือถูกขโมย แต่ก็มีบ้างที่บางคนไปแจ้งตำรวจเพื่ออยากประกาศให้โลกรู้ ซึ่งอย่างหลังนี้เมื่อนำไปขึ้นเงินรางวัลแล้ว ก็มักจะมีญาติที่พลัดพรากออกมาเยอะแยะมากมายด้วยเช่นกัน
มีคำกล่าวว่า หากถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 แล้วไม่อยากให้รู้ ห้ามไปแจ้งตำรวจเด็ดขาด เพราะโดยปกติแล้ว ก็สามารถนำไปขึ้นเงินได้ทันที แต่คนไทยเป็นชนชาติเดียวในโลกครับ ที่เมื่อมีคนไปขึ้นเงินเงียบๆแล้ว สามารถมีใครก็ไม่รู้ออกมาประกาศว่าล็อตเตอรี่ถูกขโมยไปขึ้นเงิน จนทำให้เรื่องราวมันบานปลาย
ผมเชื่อว่าหลายคนติดตามข่าวนี้มามากกว่าผมแน่นอน เพราะเป็นมหากาพย์ที่คอหวยให้ความสนใจกันถ้วนหน้า ประเด็นข่าวมันก็พลิกไป พลิกมา ส่วนการสอบสวนสืบสวนก็เปลี่ยนมือจากตำรวจภูธรภาค 7 มาเป็นกองบังคับการปราบปราม อะไรๆก็ค่อนข้างชัดเจนขึ้นตามลำดับ
ล่าสุด ลือกันสะพัดว่า “เจ๊ บ.” แม่ค้าหวยคนดัง เปิดปากรับสารภาพกับ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ว่าไม่ได้จำหน่ายล็อตเตอรี่ใบที่ถูกรางวัลที่ 1 ให้กับ “ครู ป.” หลังถูกตำรวจนำเข้าเครื่องจับเท็จ และสอบสวนอย่างหนักก่อนหน้านี้
ท่าทีของเจ๊ บ. นั้น เปลี่ยนไปเยอะครับ ถ้าวิชานักสืบก็จะใช้ภาษาว่าเข้าข่าย “หาทางลง” คือ หายไปพักหนึ่ง แล้วกลับมาสวดมนต์แผ่เมตตา นัยว่าเมื่อเจอธรรมะเข้าไปอะไรๆก็ทำให้ใจมืดๆค่อยๆ เห็นความจริงที่ว่า คนเราเกิดมาแล้วตาย ตอนตายก็เอาอะไรไปไม่ได้แม้แต่อย่างเดียว
ประกอบการสืบสวนที่เน้นการใช้นิติวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ให้น้ำหนักกับพยานบุคคลที่สามารถสร้างขึ้นได้ นี่ลือกันไปถึงขนาดที่ว่า เจ๊ บ. ไม่ผ่านการจับเท็จด้วยนะครับ พอผลออกมาว่าไม่ผ่านเรื่องมันก็เลยยิ่งยาวไปกันใหญ่ จนในที่สุดข่าวก็แว่วออกมาว่าแกรับสารภาพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ประเด็นที่น่าสนใจคือ ไม่มีชาวบ้านคนไหนเลยที่เชื่อว่า ครู ป. เป็นเจ้าของล็อตเตอรี่ 30 ล้านบาท อย่าว่าแต่กระแสสังคมโซเชียลที่กระหน่ำครู ป. เลยครับ แม่ค้าแผงล็อตเตอรี่หลายคนในตลาดวันที่ตำรวจพาครู ป. ไปทำแผน ยังไม่เชื่อเลย
แต่ ครู ป. ก็เก็บอะไรไว้เยอะเช่นกัน เพราะมีข้อสังเกตจากตำรวจชั้นผู้ใหญ่ส่งลงมาให้นักข่าวระหว่างสัมภาษณ์ว่า “มีขบวนการสร้างพยานเท็จ และมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง”
เพราะฉะนั้น เมื่อยืนยันมาแต่ต้นแล้วว่าเป็นของตัวเอง ครู ป. ก็ถอยไม่ได้ครับ หัวเด็ดตีนขาดก็ต้องกระต่ายขาเดียว ถึงตอนนี้ผมเชื่อว่า ถ้าไม่ฟลุ๊ก…เข้าคุกก็ยังดีกว่าโดนฆ่าตัดตอน
ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ ก็เพียงจะบอกว่าวิธีการสอบสวนคดีนี้ เปรียบไปแล้วก็เหมือนกับคำถามที่ผมเคยสงสัยว่า นักข่าวรู้ได้อย่างไรใครถูกหวย เริ่มตั้งแต่คนถูกหวย ไปแจ้งความตำรวจในท้องที่ ตำรวจแจ้งนักข่าวในจังหวัด ส่งมาเป็นทอดๆ
คดีหวย 30 ล้านบาทนี้ก็เช่นกันครับ แม้ว่า หมวด จ. จะไม่สามารถจำคนขายได้ แต่ คนขายต้องจำได้ว่ารับมาจากแผงไหน ใครเป็นเอเย่นต์ เมื่อหลักฐานมาตันอยู่ที่ว่า แม่ค้าบนแผงขายให้ใคร มันก็สามารถปิดคดีได้ไม่ยาก แม้จะมีการสร้างหลักฐานต่างๆขึ้นมาปลอมแปลงในขั้นตอนนี้
ก็เหมือนกับคนถูกหวยแล้วไม่บอกใครนั่นละครับ ไปขึ้นเงินเงียบๆ ก็ไม่มีใครรู้ แต่เมื่อความโลภมาทำให้มันเสียงดังก็เข้าข่าย “อาชญากรย่อมทิ้งร่องรอย”
ไม่เกินสิ้นเดือนนี้ก็คงปิดมหากาพย์หวย 30 ล้านบาทได้สักที ขืนช้าไปกว่านี้ รัฐบาลนั่นละครับจะเจ๊งเพราะไม่มีคนซื้อหวย