จู้กหู้กกู้กราบสวัสดี
หลังจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปลดเทน ฮาก จู้กหู้กกู้ว่าจะเขียนบทความทันที หลังจากปลด แต่ก็ช่างใจว่าใครจะมาแทน
จนวันที่ 1 พฤศจิกายน 2024 ทางแมนยูได้ประกาศแต่งตั้งเฮดโค้ชคนใหม่ รูเบน อโมริม อย่างเป็นทางการ…
จู้กหู้กกู้ จึงขอนำบทความจากผู้สือข่าวต่างประเทศ (อาจจะช้าไปนิด)
ส่วนหนึ่งของคอลัมน์ยาวโดย Laurie Whitwell (Tier 1 , The Athletic) กล่าวถึงที่มาของการเลือกและกำลังจะแต่งตั้ง รูเบน อโมริม เป็นกุนซือคนใหม่ของแมนฯ ยูไนเต็ด
● Laurie ยืนยันว่าการประชุมประจำเดือนของบอร์ดบริหารในช่วงเบรคฟีฟ่าเดย์ที่ผ่านมา หลังเกมพบ แอสตัน วิลล่า ในวันที่ 8 ตุลาคม มีการหารือถึงการปลด อีริค เทน ฮาก จริง
● โอมาร์ เบอร์ราด้า CEO , แดน แอชเวิร์ธ ผอ.กีฬา และ เจสัน วิลค็อกซ์ ผอ.เทคนิค ให้เหตุผลทางฟุตบอลกับที่ประชุมว่า ทำไมทีมต้องเปลี่ยนผู้จัดการทีม
● ปัญหาสำคัญของการ ‘ยังปลดเทน ฮาก ไม่ได้ ในช่วงก่อนหน้านี้’ คือเรื่องปัญหาทางบัญชี ทั้งเงินชดเชยในการปลดเทน ฮาก และตั้งกุนซือใหม่ ซึ่งถูกพูดถึงมาตั้งแต่หลังจบซีซั่นก่อน (หลังเกมเอฟเอคัพที่มีการประชุม ก่อนที่จะมีการขยายสัญญาเทน ฮากออกไป) แล้วทีนี้พอขยายสัญญา ค่าชดเชยในการปลดเทน ฮากก็สูงมากขึ้น
● อย่างไรก็ตาม ปัญหาการเงินดังกล่าว (ซึ่งสโมสรอาจหนักใจหากกระทบเรื่องกฎการเงิน) ไม่ใช่เหตุผลที่สโมสรจะใช้ในการ ‘ห้ามปลดเทน ฮาก’ ตัวเลขตรงนั้นสโมสรอาจกล้ำกลืนฝืนจ่ายได้ เพราะอันดับของทีมและผลงานในด้านฟุตบอล (อันดับ 14 และการยังไม่ชนะใครในยูโรป้า ลีก) เป็นเรื่องที่น่ากังวลมากกว่า
● ในการประชุมใหญ่เมื่อเดือนตุลาคม ยังไม่มีการตัดสินใจ ‘ลงมือ’ ในการปลดเทน ฮาก แม้ในการประชุมวันนั้น จะมีการประเมินผลงานของเขาในแง่ลบ แต่ก็มีการประเมินความเป็นไปได้และการวางแผนงานหากผลการแข่งขันของทีมยังไม่ดีขึ้นหลังจากนั้น
● ทีมบริหารมีการมองหาตัวแทน โดยที่รูเบน อโมริมคือชื่อแรกๆ พวกเขาสนใจ อโมริม มาตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่หลังจากการเจรจาระหว่างทั้งสองฝ่าย ทั้งคู่รู้สึกว่ายังไม่เหมาะถ้าจะยังไม่ร่วมงานกัน และค่าฉีกสัญญาของอโมริม ณ เวลานั้นก็ยังสูงกว่านี้ และทีมบริหารของแมนฯ ยูไนเต็ดก็อยากจะให้โอกาสเทน ฮาก ลองทำงานกับ ‘โครงสร้างใหม่’ ดู
● แต่ในระยะหลังนี้ ทีมบริหารมีการเช็คข้อมูลของอโมริมบ่อยขึ้น และได้รับแจ้งว่าเขาจะย้ายจากสปอร์ติ้ง ลิสบอน และทราบว่าค่าฉีกสัญญาของอโมริมล่าสุดอยู่ที่ 8.3 ล้านปอนด์
เบอร์ราด้า ชื่นชอบอโมริม มาก และเป็นหัวใจหลักในการตัดสินใจเลือกกุนซือโปรตุกีสมาทำงานที่ยูไนเต็ด แม้ว่าท้ายที่สุดนั้นการตัดสินใจเลือก รูเบน จะเป็นความเห็นของส่วนรวมก็ตาม
● เงินค่าชดเชยการปลดเทน ฮากและตั้งอโมริม ทำให้ยูไนเต็ดใกล้กับเพดานเรื่องกฎการเงินจริง แต่เซอร์จิม แรทคลิฟฟ์ก็มองว่า ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ต้องทำ แล้วค่อยมาหาวิธีแก้เรื่องการเงินกันอีกที
เซอร์จิม อาจให้สัมภาษณ์ว่าเขาไม่เกี่ยวกับเรื่องเทน ฮาก ทุกอย่างอยู่ที่เบอร์ราด้าและแอชเวิร์ธ แต่การตัดสินใจขั้นสูงสุดแน่นอนว่าเขาก็มีส่วนด้วย เทน ฮาก อาจจะไปตั้งแต่ซัมเมอร์ที่แล้วแล้วก็ได้ ถ้าเซอร์จิมสั่งคำเดียว แต่บอร์ดก็โน้มน้าวเขาให้ยังไม่เปลี่ยน หลังจากการเจรจากับโธมัส ทูเคิ่ล และโรแบร์โต้ เดอ แชร์บี้ ล้มเหลว
● อโมริม ถือเป็นกุนซือที่เป็นสเปคของเซอร์จิม บุคลิกที่ชัดเจน , ฟุตบอลเกมรุก คือปัจจัยสำคัญที่รูเบนได้คะแนนบวก ส่วนการเล่นหลังสาม ไม่ใช่ปัจจัยที่น่ากังวล
● อันที่จริง ยูไนเต็ดมองมักซ์ อัลเลกรี เอาไว้ด้วย แต่สโมสรมองว่า อัลเลกรี ไม่ใช่คำตอบในการทำทีมระยะยาวเหมือนกับ อโมริม มีการหารือเกี่ยวกับเอดิน เทอร์ซิชเช่นกัน
ส่วนโธมัส ทูเคิ่ล ไม่ได้มีการพิจารณาเมื่อเดือนที่ผ่านมา และนั่นทำให้เขารับงานกับการคุมทีมชาติอังกฤษ
● มีการหารือเรื่องชาบี้ เอร์นานเดซด้วย แต่ไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น ท้ายที่สุดทีมบริหารกลับมาโฟกัสที่อโมริม พวกเขาต้องการจัดการเรื่องนี้ภายใน (เดินเกมกับอโมริม) ให้เสร็จเรียบร้อย จึงค่อยทำการเปลี่ยนแปลง (ปลดเทน ฮาก) นั่นจึงทำให้ไม่มีชื่อแคนดิเดตมากมายออกสื่อในช่วงเวลาที่ผ่านมา
● เบอร์ราด้าและแอชเวิร์ธ บินไปลิสบอนในวันจันทร์ เพื่อเร่งเจรจากับอโมริม หลังจากที่พวกเขาแจ้งข่าวร้ายให้กับเทน ฮากได้ทราบในช่วงเช้า
● กระทั่งวันอังคารที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา สโมสรตัดสินใจที่จะจ่ายค่าฉีกสัญญาให้กับสปอร์ติ้ง เพื่อดึง อโมริม มาทำทีมในที่สุด
● ยูไนเต็ดต้องการจัดการขั้นตอนการย้ายสังกัดของอโมริมให้ลุล่วงโดยเร็ว แต่เงื่อนไขต่างๆ ในสัญญาอาจทำให้ต้องมีการต่อรองก่อนที่อโมริมจะย้ายทีมได้ และนั่นอาจทำให้รุด ฟาน นิสเตลรอย ได้คุมทีมรักษาการนานกว่าที่คิด ซึ่งอาจรวมถึงเกมพบเชลซี สุดสัปดาห์นี้ และเกมพบ พีเอโอเค ในศึกยูโรป้า ลีก ก
● วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน อโมริม เซ็นสัญญากับ แมนยู ถึงเดือนมิถุนายน ปี 2027 พร้อมออปชั่นขยายได้อีกหนึ่งปี ขณะเดียวกัน “ปีศาจแดง” ต้องจ่ายค่าฉีกสัญญาให้ สปอร์ติ้ง ลิสบอน จำนวน 10 ล้านยูโร (ประมาณ 360 ล้านบาท) และค่าชดเชยทีมงานอีก 1 ล้านยูโร (ประมาณ 36 ล้านบาท) ด้วย
สำหรับ อโมริม เข้ามาคุม สปอร์ติ้ง ลิสบอน ตั้งแต่ปี 2020 โดยพาทีมคว้าแชมป์ลีกโปรตุเกส สองสมัยในซีซั่น 2020/21 และ 2023/24 ขณะที่ฤดูกาลนี้ชนะทั้ง 9 นัดในลีก ส่วนผลงานใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ลงเล่นไป 3 เกม ชนะ 2 เสมอ 1
เขาจะเข้ามาทำงานในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 11 พ.ย. และจะประเดิมคุม แมนยู นัดแรกในเกมออกไปเยือน อิปสวิช ทาวน์ วันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้
จากอดีต สู่ปัจจุบัน และอนาคต
จู้กหู้กกู้ กราบลาพบกันใหม่สัปดาห์หน้า