อาชญา(ลง)กลอน
ธนก บังผล
หายไปนานด้วยอุปสรรคหลายอย่างครับ แต่ก็คิดว่าถึงปีใหม่แล้วน่าจะมีอะไรมาเขียนสักหน่อย รับรองได้ว่าคดีนี้สนุกครับ
เรื่องเกิดที่ลำปาง คือหลายเดือนมานี้คนลำปางต้องเบื่อๆเซ็งๆเพราะถูกมิจฉาชีพรายหนึ่งตระเวนก่อเหตุทำทีเป็นยืมเงินชาวบ้านไปทั่ว
อ้างว่าเป็นลูกตำรวจบ้าง เป็นลูก สจ.คนดังบ้าง อ้างว่าทำงานที่คลังน้ำมันบ้าง หรือแม้กระทั่งอ้างรอเพื่อน
จุดประสงค์ของมิจฉาชีพรายนี้คือหลอกเอาเงินแบบเนียนๆ บางคนโดนไป300 บาท บางคน 600 บาท บางคนก็หมดไปเป็นพันบาท
บางวันเที่ยวหลอกอยู่ในพื้นที่3-4ราย ได้เงินไป3-4พันบาทก็มี จนชื่อเสียงเป็นที่กล่าวขวัญกันในเพจ Lampang City มีลูกเพจมากกว่า 2 แสนคน
แม้ชื่อเสียงจะเลื่องลือแต่หลายคนที่ไม่มีเฟซบุ๊กก็มักจะตกเป็นเหยื่อให้หลอกได้เสมอ
มิจฉาชีพนายนี้ชื่อ วิทยา อายุ 37 ปี สืบค้นประวัติอาชญากรแล้วก็พบว่าก่อเหตุมาอย่างโชกโชน
ก่อนหน้านี้เคยถูกจับที่ กทม. ข้อหาฉ้อโกงตั้งแต่ปี 2558 พอออกจากคุกกลับมาอยู่ลำปาง ก็เริ่มอาละวาดอีกครั้ง
สาเหตุที่นายวิทยา หรือฉายา “หนุ่มแห้ง” หลอกชาวบ้านได้อยู่เรื่อยๆโดยไม่มีใครไปแจ้งความ
เพราะบางครั้งเหยื่อถูกหลอกแค่ 300 บาท บางทีไปหลอกกินฟรีตามร้านลาบข้างทาง ค่าอาหารค่าเบียร์ 280 บาท เจ้าทุกข์ถือว่าทำบุญ ไม่อยากเสียเวลาขึ้นโรงพักดำเนินคดี
นั่นยิ่งทำให้มันได้ใจ
ไอ้หนุ่มแห้งคนนี้ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะในการก่อเหตุ หนักเข้าเริ่มขยายวงจาก อ.สบปราบ มาก่อเหตุ อ.เมือง และ อ.เกาะคา เหยื่อบางรายอยู่ไกลถึง จ.ลำพูน
ผู้เสียหายส่วนมากเป็นผู้สูงอายุ หรือไม่ก็ผู้หญิง มันตั้งใจหลอกคนบ้านๆซื่อๆ
หลายรายยืนยันว่าคำพูดคำจาของมันนั้นลื่นน้ำไหลไฟดับลิงหลับได้เลยละกัน สารพัดจะอ้างจนควักเงินที่อยู่ในกระเป๋าให้ไปอย่างงงๆ
ทีแรกผมตามคดีนี้ด้วยคิดว่าง่าย หมายความว่าดูจากพฤติกรรมและที่อยู่แล้ว ตำรวจจับไม่ยากแน่นอน
ตามถึงบ้านใน อ.สบปราบ จ.ลำปาง ก็พบว่ามันอยู่กับแม่ และแม่เองก็เหมือนจะให้ความร่วมมือแบบขอไปที เราก็เข้าใจได้
ไอ้หนุ่มแห้งเหิมเกริมหนักข้อขึ้นทุกวัน มีผู้เสียหายถูกหลอกวันละ 1,000บาทเป็นอย่างน้อย
อย่างที่ผมบอกนั่นละครับ ผมมันน่าจะจับยาก แต่ทำยังไงก็จับไม่ได้สักทีจนชาวบ้านเอือมระอา ถ้าใครอยู่ในเพจ Lampang City ได้อ่านเตือนภัยก็คงพอจะรู้ทันบ้าง
แต่สำหรับชาวบ้านทั่วๆไปแล้ว มันมองเป็นเหยื่ออันโอชะเลยทีเดียว
เรื่องดังไปเข้าหูนายตำรวจระดับ รองผู้บังคับการ จ.ลำปาง ลงมากำชับให้ สภ.สบปราบ เร่งรัดดำเนินคดี มีเจ้าทุกข์เข้าร้องเรียนเพียง 3-4 ราย เท่านั้น
เพราะเหยื่อที่ถูกหลอกเป็นเงินไม่มากแต่หลายคน มันจึงลอยนวลไปเรื่อยๆ
ในที่สุดเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา สภ.สบปราบ ก็ออกหมายเรียกครั้งแรก โดยรอ 14 วันเพื่อจะออกหมายเรียกอีกครั้ง
ระหว่างนั้นผมได้ข้อมูลจากเหยื่อที่ถูกมันหลอกหลายคน จำนวนเงินมันเริ่มมากขึ้น จากเดิมแค่ 300 บาท หาเหยื่อสัก 2-3 คนต่อวัน มันเริ่มหลอกทีละ 1,000บาท เอาแค่วันละ 1-2 รายพอ
ด้วยกระบวนการทางกฎหมายมันค่อนข้างชักช้า ไอ้หนุ่มแห้งย่ามใจเข้ามาในเมืองในช่วงปีใหม่
คราวนี้มีเบาะแสจากเหยื่อเพิ่มมากขึ้น แต่ก็เหมือนมันดวงดีรอดไปได้ทุกราย เพราะหมายจับยังไม่ออก
วันที่ 3 ม.ค. ช่วงเช้า มันออกก่อเหตุอีกครั้ง เจอนักท่องเที่ยวกำลังรอขึ้นรถ มันรีบอาสาไปส่งที่สถานีรถไฟลำปาง เหยื่อหลงคิดว่าเจอคนดีศรีล้านนา เห็นน้ำมันรถจักรยานยนต์น้ำมันใกล้หมดเลยเติมให้ก่อนเป็นสินน้ำใจ
แต่คราวนี้มันไม่ได้หวังเงิน
ไอ้หนุ่มแห้งไปส่งที่สถานีรถไฟแล้วทำทีว่านัดแฟนไว้ ขอยืมมือถือโทรหาแฟน นักท่องเที่ยวตายใจยื่นให้
มันบึ่งรถออกไปทันที จนนักท่องเที่ยวรายนั้นตะโกนโวยวายเรียกให้ชาวบ้านช่วย
เช้าๆของวันที่ 3 ม.ค. ในเมืองลำปาง เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่งประจำการเลยครับ เขาจำเลขทะเบียนรถได้ จึงดักสกัดจับทันที
ดูสิครับ หลอกเขามาได้ทั้งอำเภอเพื่อมาเจอมือถือนักท่องเที่ยวแค่เครื่องเดียว
ในที่สุดไอ้หนุ่มแห้งเกมแบบตำรวจ สภ.สบปราบ ไม่ต้องออกแรงอะไรให้เหนื่อย
พนักงานสอบสวน สภ.สบปราบ บอกว่า พอถูกจับก็ส่งเข้าเรือนจำทันที ต่อจากนี้ก็เตรียมสำนวนยื่นให้ศาลพิจารณาทีละคดี เพื่อมันจะได้โดนลงโทษแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย
ผมตามคดีนี้มาสรุปได้ว่า คนเหนือนั้นใจดีเกินไปครับ หลายครั้งเขาคิดว่าให้ๆมันไป ขี้เกียจขึ้นโรงขึ้นศาล
เงินแค่นี้(ให้หมามันกิน) และเพราะเงินมันน้อยบางทีตำรวจก็ไม่อยากจะเสียเวลาเช่นกัน
แต่มิจฉาชีพซึ่งเป็นคนลำปางนี่ละครับที่ผมเห็นผมเจอมาแล้ว แสบมาก เอาความใจดีของคนอื่นมาเป็นจุดอ่อนเที่ยวหลอกจนน่ารำคาญ
ทีแรกคิดว่าจะได้ลงพื้นที่ร่วมจับไอ้หนุ่มแห้งเองสักหน่อย มาเจอมันตายน้ำตื้นอย่างนี้ วัยรุ่นเซ็งเลยครับ