ป.จับแอบอ้างเป็นทหารเรือยศพล.ร.อ. ผตห.สารภาพมีความใฝ่ฝันอยากเป็นทหารเรือตั้งแต่เด็ก เพื่อนสนิทรู้ดีจึงซื้อชุดให้ ไม่เคยหยิมาใส่เลยกระทั่งวันโดนจับ อ้าง เป็นงานรับปริญญาเพื่อนจึงสวมใส่ครั้งแรกเพื่อไปร่วมงาน
เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 30 ส.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.วิระชาญ ขุนชายแก้ว พ.ต.ท.เผด็จ งามละม่อม พ.ต.ท.รัชภูมิ กุสุมาลย์ รอง ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.มนูญ แก้วก่ำ พ.ต.ต.ก่อเกียรติ วุฒิจำนง สว.กก.1 บก.ป.ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายณัฐพงษ์ รัตนเกียรติวงศ์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 ซอยรามอินทรา 37 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.ตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน ที่ 614/2559 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2559 ข้อหาแต่งเครื่องแบบทหารที่ใช้ในราชการอยู่โดยไม่มีสิทธิแต่งโดยชอบด้วยกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.เครื่องแบบทหาร 2477 มาตรา 6 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 146 พร้อมของกลาง เสื้อผ้า เครื่องแบบ และเครื่องหมายนายทหารเรือยศ พล.ร.อ.แหวนสีเหลือง 2 วง นาฬิกาข้อมือ 3 เรือน รองเท้าคัทชูสีขาว และรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีดำ ทะเบียน 4 กท 9003 กรุงเทพมหานคร ที่มีตราสัญลักษณ์สำนักพระราชวังติดที่กระจกหน้าและหลังรถ จับกุมได้ที่บ้านพักของผู้ต้องหา
พ.ต.อ.จิรภพ กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจาก ร.อ.พิพัฒน์ เกสรบัว (ร.น.) นายทหารพระธรรมนูญ ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน บก.ป.เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ที่ใช้เฟซบุ๊กในชื่อ “Nattapong Ratanakietwong” ซึ่งมีพฤติกรรมสวมใส่เครื่องแบบนายทหารเรือยศ พล.ร.อ.โดยไม่มีสิทธิ และมีการนำภาพแต่งเครื่องแบบดังกล่าวโพสต์ในเฟซบุ๊ก ภายหลังได้รับแจ้ง ชุดสืบสวน กก.1 บก.ป.ได้รวบรวมพยานหลักฐานสืบสวนติดตาม จนกระทั่งทราบว่าผู้ที่กระทำความผิดดังกล่าว คือ นายณัฐพงษ์ จึงขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาเอาไว้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ขอหมายค้นศาลอาญา ที่ 286/2559 ลงวันที่ 30 สิงหาคม 2559 เข้าตรวจค้นบ้านพักหลังดังกล่าว และพบตัวผู้ต้องหาอาศัยอยู่ภายใน พร้อมเสื้อผ้า เครื่องแบบและเครื่องหมายของนายทหารเรือ จึงจับกุมตัวมาสอบสวนดำเนินคดีดังกล่าว
ซึ่งจากการสอบถามนายณัฐพงษ์ ให้การว่าเคยสวมชุดเครื่องแบบดังกล่าวเพียงครั้งเดียวเท่านั้น แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากการสืบสวนได้รับแจ้งจากสายว่า นายณัฐพงษ์เคยแต่งกายดังกล่าวไปหลอกลวงและหาประโยชน์จากผู้อื่น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวน
สอบสวนนายณัฐพงษ์ รับสารภาพว่า มีอาชีพค้าขาย แต่ชื่นชอบและมีความฝันตั้งแต่เด็กว่าอยากเป็นทหารเรือ ซึ่งเพื่อนก็ทราบดี จึงซื้อชุดเครื่องแบบนายทหารเรือดังกล่าวมาให้ตนนานแล้ว แต่ยืนยันว่าไม่เคยนำมาใส่อวดอ้างหรือหลอกลวงหาผลประโยชน์ใคร กระทั่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เพื่อนของเพื่อนตนรับปริญญาบัตร จึงได้นำเครื่องแบบดังกล่าวมาสวมใส่เพื่อร่วมถ่ายรูปตามคำขอของเพื่อน ก่อนจะนำไปโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งเป็นการสวมใส่เครื่องแบบนายทหารเรือเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ส่วนเรื่องรถยนต์ของตนที่มีตราของสำนักพระราชวัง นั้น เป็นเพราะน้องชายทำงานเป็นเสมียนอยู่ในสำนักพระราชวัง และมักจะมายืมรถตนเพื่อขับไปทำงานบ่อยครั้ง จึงมีการติดตราดังกล่าวไว้เพื่อความสะดวกในการขับผ่านเข้า-ออกสถานที่
