ใครแพะ ใครแกะ คดีครูจอมทรัพย์
กับคำถาม “ใครฆ่าเชอรี่ แอน….”
คอลัมน์ อาชญา(ลง)กลอน
โดย…ธนก บังผล
โบราณว่าไว้ น้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือไปขวาง ผมรอให้กระแสคดี ครูจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 54 ปี อดีตครูโรงเรียนบ้านม่วงไข่ประชาราษฎร์สงเคราะห์ ต.ด่านม่วงคำ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร อ้างว่าเป็นแพะในคดีถูกกล่าวหาขับรถชนคนตาย
มีคนถามผมมาเยอะครับ ตกลงแพะไม่แพะ มีความคิดเห็น หรือรู้มาอย่างไรบ้าง สงสัยจะเห็นผมเป็นคนชอบเผือก (ฮา)
คดีนี้ต้องแยกแยะก่อนครับว่า ครูจอมทรัพย์ ภายหลังได้รับพระราชทานอภัยโทษจำคุกไป 1 ปี 6 เดือนแล้วก็ออกมาร้องขอความช่วยเหลือ ซึ่งทาง พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้รับเรื่องไว้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมาครูจอมทรัพย์ ก็ได้เดินทางเข้าขอบคุณที่ทางกระทรวงยุติธรรมให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมาย ในขณะที่อีกด้านหนึ่ง ครูจอมทรัพย์ ก็ได้ขอให้มีการรื้อฟื้นคดีขึ้นมาด้วยเช่นกัน
ส่วนคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ซึ่งผมเคยเจอและได้ฟังคำปรึกษาระหว่างนำแพะจากคดียิงคนตายพื้นที่ จ.นครสวรรค์ เข้าพบรองปลัดดุษฎีในห้องทำงาน ก็ดูคุณอัจฉริยะเป็นคนขึงขังและแม่นกฎหมาย มีจิตใจเมตตาที่จะช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน อีกทั้งเฟซบุ๊คของชมรมนี้ ก็มักจะนำชื่อของ พ.ต.อ.ดุษฎี ระหว่างลงพื้นที่ทำงานมาโพสต์อยู่บ่อยๆ
ดังนั้นมันจึงค่อนข้างสร้างความสับสนให้กับสังคมอยู่มาก ที่ พ.ต.อ.ดุษฎี พร้อมด้วยนิติกรสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม เดินทางไปศาล จ.นครพนม หลังศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำสั่งขอให้รื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ แต่ตัวคุณอัจฉริยะเองกลับออกมาสวนแบบไม่เกรงใจว่างานนี้ ครูจอมทรัพย์เป็นแกะ มีขบวนการจ้างให้ติดคุก โดยเอาชมรมเป็นเดิมพันหากครูจอมทรัพย์เป็นแพะจริง
ประเด็นนี้เป็นประเด็นที่น่าสนใจนะครับ เพราะเมื่อปี 2558 ผมได้มีโอกาสสัมภาษณ์โชเฟอร์แท็กซี่รายหนึ่งออกอากาศทางสถานีข่าว TNN24 หลังจากตกเป็นแพะเช่นกัน เขาอ้างว่าถูกกล่าวหาเป็นคนร้ายคดีปล้น ทรัพย์ซึ่งระหว่างที่เกิดเหตุเขาขับรถอยู่ในอีกพื้นที่หนึ่งย่านบางเขน รายละเอียดของคดีคล้ายๆกับครูจอมทรัพย์คือ ผู้เสียหายจดจำป้ายทะเบียนและสีรถได้ เขาถูกศาลฎีกาตัดสินจำคุก โดยศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง หลังจากได้รับพระราชทานอภัยโทษออกมาจากเรือนจำ เขาออกมาขับรถให้ คุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ โดยยังยึดอาชีพขับแท็กซี่ด้วยเช่นกัน
มาว่าถึงเรื่องครูจอมทรัพย์ที่เราๆท่านๆได้เสพข่าวมาระยะหนึ่ง ผมอยากจะให้แยกกระบวนการสืบสวนสอบสวนออกจากกระบวนการรื้อฟื้นคดีในปัจจุบัน เพื่อความชัดเจนนะครับ เดี๋ยวจะสับสนเอามาปนกันแล้วจะงง
อย่างแรกที่ผิดปกติในการสอบสวน ตามคำให้สัมภาษณ์ของทนายวันชัย สอนศิริ ผู้เป็นทนายความให้ครูจอมทรัพย์ในชั้นอุทธรณ์ คือ รถครูจอมทรัพย์ไม่ใช่สีเขียว ไม่มีร่องรอยการชน และระหว่างที่เกิดเหตุครูจอมทรัพย์มีพยานยืนยันว่าไม่ได้ขับรถในที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ยังมีพยานเห็นว่าคนที่ขับรถกระบะสีเขียวชนคนตายนั้นเป็นผู้ชายที่เดินเปิดประตูด้านขวาลงมาจากรถ
เราจะไม่ก้าวล่วงลงไปในสำนวนต่างๆ เนื่องจากศาลได้มีการพิจารณาเป็นสิ้นสุดแล้วครับ แต่ที่ต้องยกคำสัมภาษณ์ของทนายวันชัยมาเพราะ หลักฐานพยานดังกล่าวนี้ทำให้ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องคดีครูจอมทรัพย์
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้รับพระราชทานอภัยโทษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราถือว่าได้ชดใช้ความผิด (ไม่ว่าจะที่ก่อหรือไม่ได้ก่อ) เสร็จสิ้น ส่วนการจะไปรื้อคดีนั้นเป็นหน้าที่ของกระทรวงยุติธรรม
ผมเคยถาม พ.ต.อ.ดุษฎี ระหว่างจัดรายการทอล์ค ของช่อง NOW26 ว่า เมื่อทราบว่าเป็นแพะแล้ว ใครควรต้องรับผิดชอบ
ท่านรองปลัด ซึ่งเป็นแหล่งข่าวที่ผมให้ความเคารพอย่างสูง หัวเราะและบอกว่าคำถามนี้เป็นคำถามยอดฮิต ก่อนที่ พ.ต.อ.ดุษฎี จะสรุปให้เข้าใจว่า ทางกระบวนการยุติธรรมจะไม่มีการติดตามไปหาคนผิดมาลงโทษ แต่จะเป็นการให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายในคดีมากกว่า
ผมเข้าใจเองว่า กระบวนการรื้อฟื้นคดี ก็เพื่อล้างมลทินคำพิพากษาจากผู้ที่กระทำความผิดเป็นผู้บริสุทธิ์ เจตนาสำคัญก็เพื่อให้แพะได้กลับเข้าสู่สังคมมีอาชีพหน้าที่การงานอีกครั้งโดยไม่ถูกตราหน้าว่าเป็นคนขี้คุก ทั้งนี้กระทรวงยุติธรรมก็จะยังจ่ายค่าชดเชยเป็นรายวันให้กับแพะด้วย
พอจะเห็นภาพกว้างๆของเรื่องนี้แล้วนะครับ ดังนั้นตำรวจเจ้าของคดีนี้ที่ออกมาวิงวอนว่าจะเกษียณแล้วไม่อยากมีคดีติดตัว ก็ควรจะยึดมั่นในขั้นตอนการทำงานหาหลักฐานพยานมาจนอัยการส่งเรื่องให้ศาลนะครับ ไม่ใช่มากังวลว่าจะมีคดีความติดตัวหรือไม่ เช่นเดียวกับศาลท่านที่เป็นผู้ลงดาบพิพากษาซึ่งไม่ออกมาตอบโต้กรณีแพะใดๆทั้งสิ้น
สังคมไทยเคยกระฉ่อนเรื่องแพะมาแล้วจากคดี “เชอรี่ แอน ดันแคน” ในคราวนั้นมีคนติดคุกอยู่หลายคน บางคนตายระหว่างถูกจองจำทั้งๆที่ไม่ได้เป็นคนฆ่า จนนำมาซึ่งประโยคที่ว่า แล้วตกลงใครฆ่าเชอรี่ แอนน์
ครูจอมทรัพย์ยังโชคดีที่ได้ออกมาสู้ และมีคนรับลูก อยากจะฝากไปบอกคุณครูด้วยครับว่า น้อยคนนักที่ทาง พ.ต.อ.ดุษฎี จะรับช่วยเหลือ และน้อยคดีนักที่จะผ่านการกลั่นกรองจนการรื้อฟื้นคดีเกิดขึ้นจริง ถ้ามั่นใจว่าบริสุทธิ์ก็เดินหน้าเต็มตัวอย่าไปกลับว่าจะเป็นแพะหรือแกะ
เพราะตอนนี้จริงๆแล้ว ตำรวจต่างหากที่กำลังจะเป็นแพะ
