สืบจากปกเพจ ประจำเดือนเมษายน 2560
5 นักเรียนนายร้อย รุ่น 50 กับผลงานชีวัด ขับเคลื่อน เลื่อนตำแหน่ง
“คนเก่งจริงไม่ต้องพูดเยอะ” คำนิยามสั้นๆที่ถูกหยิบยกไปใช้ทุกวงการ …สำหรับที่มาของปก Police News Varieties ต้อนรับเดือนเมษายน ที่กำลังจะมาถึง ทางทีมงามขอนำเสนอ 5 นรต.รุ่น 50 ที่มีความโดดเด่นในแต่ละด้าน มีหน้าที่รับผิดชอบกันคนละมุมของประเทศ ทั้งนี้ทั้งนั้น
“ตำแหน่งชั้นยศ ไม่ใช่สิ่งบ่งชี้ ว่าใครเจ๋งกว่าใคร”
การเติบโตไว – ก้าวกระโดดไกล อาจไร้ค่าโดยสิ้นเชิง เพราะแท้จริงแล้วตัวแปลสำคัญอยู่ที่ผลงาน , ความตั้งใจ ,ความพยายาม เพื่อเดินไปสู่เป้าหมายเดียวกัน คือ “บำบัดทุกข์-บำรุงสุข เป็นที่พึ่งของประชาชนทุกระดับอย่างเท่าเทียม
เริ่มต้นกันด้วย…
-พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ ผู้กำกับการ สภ.ระแงะ จังหวัดนราธิวาส
“ผู้กำกับเอ๋” จากตำแหน่งรองสารวัตรสืบสวน กก.สส.บก.น.1 หรือผู้กองเอ๋ เมื่อสมัย 10 กว่าปีก่อน เพื่อนซี้ “ผู้กองพัฒน์” ร.ต.อ.พัฒนภัค อินทรียานนท์ รองสารวัตรสืบสวน กก.สส.บก.น.1 ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2550 ในวัยวันที่กำลังร่วมทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้กองเอ๋ สร้างความเศร้าใจ ให้ นรต.ร่วมรุ่น กับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของตำรวจอนาคตไกล เฉกเช่นเค้า
เกือบ 11 ปี ที่ทำงานหัวหกก้นขวิดงานสืบสวนในนครบาล ทั้ง สน.ดุสิต,กก.สส.บก.น.1 และ ศส.บช.น. ไล่ล่าจับเป็น จับตาย ยาเสพติด มีผลงานเป็นรางวัลปราบรามยาเสพติด ของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 2 ปี การันตี
หลังจากนั้นไม่นาน ผู้กองเอ๋ ติดยศ พ.ต.ต. ย้ายออกนอกนครบาลไปตั้งแต่วัย 30 ต้นๆ ก่อนจะอาสาสมัครใจไปเป็นตำรวจอยู่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ติดตาม พล.ต.ท.สฤษฎ์ชัย อเนกเวียง อดีต ผู้ช่วย ผบ.ตร. บุกเบิกงานด้านสืบสวน หลังเหตุระเบิด เป็นหัวหน้างานติดตามขยายผลจากเหตุระเบิด ( Evidence Developting Investication Team, E.D.I.T) เป็นทีมรวบรวมข้อมูลและการสืบสวนเหตุระเบิดที่ดีที่สุดทีมหนึ่งของประเทศไทย
กระทั่งได้รับความไว้วางใจจาก ผู้บังคับบัญชาระดับสูง แต่งตั้งให้เค้าเป็น ผู้กำกับ สภ.ตันหยง จังหวัดนราธิวาส เมื่อเกิดเหตุวิกฤตขึ้นในพื้นทีผู้กำกับเอ๋ จะได้รับความไว้ใจเสนอชื่อ นำทีมลงพื้นที่ ควบคุมสถานการณ ทั้งในเขต สภ.สุไหงปาดี สภ.เมืองนราธิวาส และล่าสุด รับตำแหน่ง ผกก. สภ.ระแงะ โชว์ผลงานควบคุมไม่ให้คนร้ายเข้ามาก่อเหตุในเขตเทศบาล ครบ 1 ปีเต็ม
ด้วยความตั้งใจพลิกฟื้นแผ่นดินที่เคยลุกเป็นไฟให้สงบร่มเย็น ในทุกพื้นที่ๆได้ไปรับตำแหน่ง ใช้หลักเกณฑ์เข้าถึง เข้าใจ พัฒนา เอาใจใส่ประชาชนไทยพุทธ-ไทยมุสลิม มองทุกศาสนาเป็นสิ่งสวยงาม กลมเกลียว ช่วยเหลือ เอื้อเฟื้อและเป็นผู้ให้ จัดกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ วัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ของคนในพื้นที่ ควบคู่กับการป้องปรามเหตุร้าย เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
บ่อยครั้งที่ครอบครัว รวมไปถึงเพื่อนสนิทมิตรสหายในนครบาลรู้สึกเป็นห่วงเป็นใย กลัวว่าสิ่งที่เค้าทำอยู่จะกลายเป็นเป้าให้ผู้ไม่ปรารถนาดีจ้องโจมตี แต่คำติเตือนเหล่านั่นหาสร้างความกังวลใจให้กับเค้า …ปัจจุบันผู้กำกับเอ๋ประสานงานทุกภาคส่วน สร้างแลนด์มาร์กสำคัญในพื้นที่ พยายามพลิกฟื้นให้กลับมาปลอดภัยน่าอยู่ ภายใต้สโลแกน “ไม่เอาเปรียบใคร และไม่สบายใจที่เห็นใครเอาเปรียบกัน”
ทางทีมงาน Police News Varieties ขอชื่นชมในความเสียสละ รวมถึงอวยพรให้ตำรวจน้ำดีนายนี้ รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 จังหวัดชายแดนใต้ทุกๆนาย แคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวง
############
-พ.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบก.สปพ.
บุคลิกง่ายๆเป็นกันเอง สมัยเด็กๆ เคยเป็น “เด็กวัด” คอยเดินตามพระวัดโตนดหลวง จ.เพชรบุรี แล้วกินข้าวก้นบาตรทุกวัน จึงปลูกฝังนิสัยอ่อนน้อมถ่อมตน ด้วยความมุ่งมั่น สอบเข้าเรียนต่อ เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 34 นักเรียนนายร้อยตำรวจสามพรานรุ่น 50
จบมารับตำแหน่ง พนักงานสอบสวน สน.พระโขนง อยู่ 3 ปี ได้รับรางวัลพนักงานสอบสวนดีเด่น จาก พล.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรักษ์ผบช.น. (ขณะนั้น) ก่อนจะย้ายไปอยู่งานทะเบียนพล คอยติดตาม “พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์” ผบ.ตร.(ขณะนั้น)
หลังจากที่ทางทีมงาน Police News Varieties ได้ยกให้ พ.ต.อ.สำราญ เป็น นรต.50 ที่สายแข็งที่สุดในรุ่น ก้าวกระโดดโตไว แซงหน้าเพื่อนๆ ส่วนเบื้องหลังความสำเร็จที่ได้มา อาจเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ แรงสมอง แรงกาย เชื่อว่ามีสารพัดปัญหาที่หลายคนอาจคิดไปเองว่า “ก้าวมายืนตรงจุดนี้ได้อย่างเรียบง่ายสวยหรู” ทุกอย่างล้วนแล้วแลกมาด้วยผลงานที่ออกสู่สายตาประชาชนเป็นระยะๆ
“ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ” ถ้าตำรวจมีเส้นสายแต่ไร้ความสารถ วันหนึ่งโลกก็ต้องรู้ จากนั้นแรงโน้มถ่วงสารพัดจะผลักออกไปสู่จุดที่เหมาะสม
พ.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบก.สปพ. ที่หลายคนเชื่อกันว่า เป็นหนึ่งในตำรวจที่ “สายแข็ง-มีพลัง ที่สุดในรุ่น 50 ” เคยดำรงตำแหน่งสำคัญในหน่วยงาน 191 ตั้งแต่เป็น สว.งานสายตรวจ 2 รอง ผกก.สายตรวจ เป็น ผกก.สายตรวจ กระทั่งขึ้น รอง ผบก.สปพ.
เค้าจึงถือเป็นความภาคภูมิใจของเพื่อนร่วมรุ่นเพราะนำความรู้ความสามารถจากการเล่าเรียน และประสบการณ์การทำงานด้วยความขยันตั้งใจ พาชื่อชั้น นรต.50 ก้าวไกล มาจนทุกวันนี้
ทางทีมงาน Police News Varieties ขอแสดงความชื่นชมในผลงาน และเป็นกำลังใจให้ทำประโยชน์เพื่อประชาชน รวมถึงร่วมพัฒนาสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้มีประสิทธิภาพยิ่งๆขึ้นไป
#############
-พ.ต.อ.อุเทน นุ้ยพิน ผกก.ศฝร.บช.น.
ไม่พูดถึงคงไม่ได้! สำหรับตำรวจสมองเพชร นรต.รุ่น 50 สร้างชื่อตัวเองขึ้นมาอีกครั้งเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา คดีดัง“โกงสอบนายสิบ” การทุจริตสอบคัดเลือกบุคคลภายนอกเข้ารับราชการเป็นนายสิบตำรวจซึ่งศูนย์ฝึกอบรม กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศฝร.บช.น.) พบพิรุธ ก่อนสืบสวนจนทราบว่ามีนักศึกษาแพทย์-วิศวะ นับร้อยๆ รายเป็น “มือปืนรับจ้าง” โกงสอบประเด็นดังกล่าวถูกเปิดโปงโดย “เดอะนุ้ย” และทีมงาน
เดอะนุ้ย ใฝ่ฝันอยากเป็นตำรวจมาตั้งแต่เด็ก เพราะ “หลงใหล” ในเครื่องแบบสีกากีที่รู้สึกว่าเท่ “น่าเกรงขาม” อีกทั้งมี “ปมในใจ” สมัยเป็นนักเรียนชั้นประถม ที่ครั้งหนึ่งทำสมุดบัญชีธนาคารหาย ต้องไปแจ้งความโรงพัก “นายดาบ” ที่รับแจ้งจะคิดเงินค่าพิมพ์เอกสาร 2 บาท แต่มีนายตำรวจติด “ดาวบนบ่า” เดินมาพบ พอรู้ความก็รีบห้ามปรามไม่ให้นายดาบเรียกเก็บเงิน จึงคิดว่านายตำรวจคนนั้นมี “อำนาจ”อยากเป็นแบบนั้นบ้าง จึงมุ่งมั่นสอบเข้าเป็นนายร้อยตำรวจ และ “สานฝัน” สำเร็จ ก่อนจะจบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน นรต.50 ( บทสัมภาษณ์จาก นสพ.แนวหน้า )
เดอะนุ้ย 1 ในลูกหม้อกองปราบปราม สร้างผลงานการจับกุมคดีสำคัญ รวมไปถึงคดีดัง คดีแปลกเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอยู่กองปราบ ใครสนใจประวัติความเป็นมาของเค้า พิมพ์ชื่อค้นหาในกูเกิ้ล สื่อกระแสหลักสัมภาษณ์เจาะลึกนำเสนอให้อ่าน
กระทั่งตำแหน่งโยกมาเป็น ผกก.ศฝร.บช.น. มีแนวคิด ใช้หมายจับคดียาเสพติดและคดีค้างเก่าเป็นบททดสอบตำรวจใหม่ตาม “โครงการครูต้นแบบ : เทคนิคการสืบจับตามหมายจับคดีค้างเก่า” เพื่อสร้าง “นักสืบพันธุ์ใหม่” จนกลายเป็นกำลังสำคัญของการสืบสวน “เปิดโปง” คดีโกงสอบนายสิบตำรวจ เรียกได้ว่าอยู่ที่ไหนก็สามารถทำประโยชน์ให้ตรงนั้น ไม่เสียแรงที่เลือกมาเป็นตำรวจของประชาชน
#######
–พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1.บก.ป.
1 ใน 5 นายตำรวจ นรต.50 ที่เรานำเสนอในครั้งนี้ ดูเหมือนว่าคำนิยาม “คนเก่งจริง ไม่ต้องพูดเยอะ” เหมาะสมกับเค้าคนนนี้มากที่สุด พลาดไม่ได้สักโผเลยจริงๆ สำหรับตำรวจมากฝีมืออย่าง “ผู้กำกับก้อง” เจ้าของความเชื่อทฤษฎี “ลมใต้ปีก” ผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นกำลังหลักขับเคลื่อนภาระกิจให้สำเร็จ การคัดเลือกคนดี คนเก่ง คนขยัน และคนซื่อสัตย์มาทำงาน ถือเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง เพราะภารกิจเบื้องหน้าคือความปลอดภัยของประชาชน
ชีวิตราชการของ “ผู้กำกับก้อง” เริ่มต้นในตำแหน่งรองสารวัตรฝ่ายปฏิบัติการที่ 3 กองบังคับการป้องกันและปราบปรามประพฤติมิชอบในวงราชการ(บก.ปปป.) จากนั้นปี 2544 ดำรงตำแหน่งรองสารวัตร ช่วยราชการที่แผนก 2 กก.1 บก.ป. ก่อนจะขยับไปทำงานอีกหลายสังกัด กระทั่งดำรงตำแหน่ง ผกก. กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว (บก.ทท.) จวบจนโยกกลับมานั่งเก้าอี้ ” ผกก.1 บก.ป. “
ความสารถที่โดดเด่น ผลงานที่ปรากฎสู่สายตาประชาชน เป็นเกราะป้องกันตัวเอง ตำแหน่งนี้ไม่ได้มาเพราะมีเส้นสาย ….หากแต่ว่า “ผู้กำกับก้อง” สามารถนำทีมผู้ใต้บังคับบัญชา ลุยไขคดีสำคัญระดับประเทศนับไม่ถ้วน สิ่งที่ถูกเสนอสู่สายตาสาธารณชนมีเพียงผลงานการจับกุมล้วนๆ น้อยครั้งที่จะมีข่าวพีอาร์ โปรโมทตัวเอง ด้วยหลักการ ยึดมั่นในคติ “ภาพไม่สร้าง ” ใช้ผลงานตัดสินตัวตน
ต้องยอมรับว่าการกลับมานั่งเก้าอี้ ผกก.1 บก.ป. ครั้งนี้ ดูเหมาะสม – สมศักดิ์ศรี ทำได้ดีกว่าทุกยุกต์ทุกสมัย ซ้ำยังให้ความร่วมมือกับแหล่งข่าวเว้นระยะห่างเหมาะสม กลายเป็นขวัญใจสื่อมวลชนไปโดยปริยาย
ย้อนไปสมัยที่ “ผู้กำกับก้อง” ยังเป็นนักเรียนนายร้อยรุ่น 50 ถือเป็นนักเรียนที่มีความประพฤติดี ผลการเรียนไม่ขี้เหร่ และยังเป็นสมาชิกชมรมดาบสากล มีเพื่อนสนิทร่วมชมรมทั้งรุ่นพี่-รุ่นน้อง ซึ่งปัจจุบันโลดแล่นอยู่บนถนนสีกากีมีอนาคตเคียงบ่า เคียงไหล่กันมาจวบจนทุกวันนี้
ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆสำหรับความเพียบพร้อมสมบูรณ์แบบของ “ผู้กำกับก้อง” ผลผลิต นักเรียนเตรียมทหารรุ่น34 นักเรียนนายร้อยรุ่น 50 กลายเป็นข้าวหุงขึ้นหม้อ ถูกหยิบยกตำแหน่ง “ผู้กำกับไฟแรง เก่งโดดเด่นเป็นที่ 1” ในสังกัด บชก. เชื่อว่าสายตาหลายคู่กำลังจับจ้องเฝ้ามองเส้นทางรับราชการของเค้า “พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช” ว่าที่ ผู้บังคับการกองปราบ ในอนาคตอันใกล้นี้
############
-ร.ต.อ.เขมชาติ ประกายหงษ์มณี รองผู้บัญชาการสำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ (DSI)
จากตำแหน่ง ผู้กองสืบสวนตำรวจนครบาล 4 มีความชำนาญด้านสืบสวนจับกุมคดีอาชญากรรมระดับชาติ ผลงานจับกุมโดดเด่น ในช่วงปี 2547-2548 ก่อนจะตัดสินใจโบกมือลาระบบแต่งตั้งตำรวจ ติดตามผู้บังคับบัญชามาทำงานในสังกัด DSI (กรมสอบสวนคดีพิเศษ) อย่างเต็มรูปแบบบ เมื่อช่วงปี 2548
ร.ต.อ.เขมชาติ ได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชา ให้ดูแลคดีดังระหว่างประเทศ ,คดีเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน ระหว่างต่างประเทศ ได้รับรางวัลข้าราชการดีเด่นของ DSI ในปี พ.ศ.2552 ร.ต.อ.เขมชาติ ใช้ไหวพริบปฏิภาณด้านการสืบสวน ไขปมคดีระดับชาติ กว่า 10 ปี ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่ง รองผู้บัญชาการสำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ (DSI)
นอกจากนี้ ร.ต.อ.เขมชาติ ยังมีความความถนันคดีความผิดเกี่ยวกับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยี และที่ตัดสินใจโอนมาอยู่ดีเอสไอ เพราะสนใจงานด้านสืบสวน ข้อกฎหมายในดีเอสไอ เอื้อประโยชน์ต่อการสืบสวนเต็มที่
ร.ต.อ.เขมชาติ ถือเป็น นรต.รุ่น 50 สร้างชื่อเสียงและความภาคภูมิใจมายังเพื่อนตำรวจในรุ่น กลายเป็นกำลังหลัก กำลังสำคัญของหน่วยงาน DSI ไปโดยปริยาย และทุกครั้งที่มีงานเลี้ยงสังสรรค์รวมรุ่น นรต.50 ร.ต.อ.เขมชาติ ยังคงแวะเวียนร่วมสังสรรค์กับเพื่อนอยู่สม่ำเสมอ
ต้องยอมรับว่า มีนายตำรวจมากมาย หลายต่อหลายรุ่น ที่ถอดใจ ไม่โอเคกับระบบการแต่งตั้ง อกหักผิดหวังกับการเลื่อนตำแหน่ง เซตัวเองไปซบอกหน่วยงานที่เล็งเห็นความสำคัญ นำบุคลากรเหล่านี้ไปทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติในด้านอื่นๆ โดยเฉพาะหน่วยงาน DSI หรือกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตำรวจระดับหัวกระทิ ตัดขาดจากตำแหน่งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปรวมตัวกันอยู่ที่นั่นไม่น้อยเลย
และทั้งหมดนี้คือ 5 นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 50 ที่ทางทีมงาน Police News Varieties ได้คัดเลือกมานำเสนอขึ้นปกเว็บไซต์ประจำเดือนเมษายน ต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ ปีใหม่ไทย อย่างไรก็ตาม ยังมี นรต.50 อีกหลายนาย ปัจจุบันเติบโตอยู่ในสายงานต่างๆ ฝีมือ – ความสามรถเรียกได้ว่าไม่มีใครเป็นรองใคร ในวันนี้ทางทีมงานได้นำคลิปวีดีโอที่จัดทำโดยเพื่อนนักเรียนนายร้อยรุ่น 50 รวมภาพเหล่าเพื่อนร่วมรุ่นไว้ด้วยกัน นำเสนอสู่สายตาทุกๆท่าน ณ โอกาส นี้
