ตร.บางเลน รวบ “ตี๋ หนองเสือ” อ้างเป็นผู้กอง ปพ. พร้อมปืน 2 กระบอก เสื้อเกราะกันสุน 2 ตัว กระสุนกว่า 200 นัด ยาเสพติดยาบ้า,ยาไอซ์,ยาอี เคตามีน และอื่นๆอีกรายรายการหลังเช่ารถแล้วเชิด
วันที่ 19 กรกฎาคม 2567 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.วันชัย ธารณธรรม รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินขวัช ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม (ปป.)
พ.ต.อ.อภิศักดิ์ กำเนิด ผกก.สภ.บางเลน พ.ต.ท.อุทัย สุมาลัย รอง ผกก.ป.สภ.บางเลน พ.ต.ท.ไชยรัตน์ อุทสาร สวป.สภ.บางเลน ร.ต.ต.ธวลิต เต้าสูงเนิน รอง สว.(ป.)สภ.บางเลน จ.ส.ต.เหมรัศมิ์ กล้าหาญ จ.ส.ต.ณรงค์ยุทธ สืบพันธ์โกย ส.ต.อ.เอกลักษณ์ ณ ไทร ส.ต.อ.ธีรภัทร เหล่าหา ส.ต.ต.ปัณณฑัตถ์ เจริญวรรณ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ปะ ฉะ ดะ
ร่วมกันจับกุมนายธนกร หรือ ตี๋ อายุ 43 ปี และน.ส.จีรนันท์ หรือ มิน อายุ 29 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อ GLOCK 19 ขนาด 9 มม.1 กระบอก แม๊กกาซีน GLOCK 19 จำนวน 2 อันซองพกหนัง สีดำ 1 ซอง ปืนพกสั้น ยี่ห้อ CZ 75 B 9 มม.1 กระบอก แม๊กกาซีน CZ 75 B 4 อัน กระสุนปืน 9 มม.214 นัด ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ยาบ้า 3 เม็ด ยาไอซ์ 5.79 กรัม ยาอี 5 เม็ด เคตามีน 0.55 กรัม เสื้อเกราะกันกระสุน 2 ตัว พร้อมแผ่นเหล็กกันกระสุน 4 แผ่น กระเป๋าลายพราง ตราตำรวจ commando 1 ใบ
เครื่องแบบข้าราชการตำรวจปกติคอพับแขนยาว ติดเครื่องหมาย ยศ ร้อยตำรวจเอก 1 ตัว หมวกแก๊ป สีดำ ตราแผ่นดิน 1 ใบ ป้ายห้อยคอ สีดำ มีตราประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1 อัน เสื้อกั๊ก สีดำ มีตรา POLICE โลโก้ตำรวจภูธรภาค 1 จำนวน 1 ตัว แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ 2 แผ่น รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมาสด้า รุ่น มาสด้า 2 สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ล-0485 กทม.1 คัน รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมาสด้า รุ่นมาสด้า 2 สีดำ ทะเบียนป้ายแดง อ-9998 กทม.1 คัน โทรศัพท์มือถือ3 เครื่อง
พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 ก.ค.67 เวลาประมาณ 15.30 น.ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.บางเลน ว่าได้รับการประสานจากทางเจ้าของเต็นท์รถเช่าแห่งหนึ่งย่านปทุมธานี ให้เข้าร่วมตรวจสอบที่บริเวณห้องเช่าเลขที่ 20 ม.3 ต.บางเลน อ.บางเลน จว.นครปฐม พบ นายธนกร หรือ ตี๋ อายุ 43 ปีและน.ส.จีรนันท์ หรือ มิน อายุ 29 ปี โดยนายธนกรกล่าวอ้างกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เป็นร้อยตำรวจเอกสังกัด บก.ปพ.แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เชื่อจึงขอตรวจค้นพบของกลางทั้งหมดจึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม (ปป.) จากการสอบสวนเบื้องต้น นายธนกร หรือ ตี๋ รับสารภาพว่า ได้ล่อลวงหญิงสาวชื่อ น.ส.จ.(นามสมมติ) อ้างตนเป็นนายตำรวจยศร้อยเอก จนกระทั่งหลงเชื่อจากนั้นได้ให้ไปติดต่อเต็นท์เช่าเพื่อขอเช่ารถยนต์เก๋ง มาสด้า 2 สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ล-0485 กทม. 1 คัน จากนั้นได้ทำลาย GPS ทิ้งเพื่อป้องกันไม่ให้ทางเจ้าของติดตามหารถเจอ และจะตระเวนขับออกล่าเหยื่อไปตามสถานที่ต่างๆและนึกไม่ถึงว่าภายในรถคันนี้ยังมี GPS อยู่อีก 1 ตัวจนกระทั่งเจ้าของเต็นท์รถตามมาเจอรถและถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ดังกล่าว
จากการตรวจสอบประวัติของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า นายธนกร หรือ ตี๋ มีหมายจับจำนวน 2 หมายสถานีตำรวจภูธร ห้วยไร่ จังหวัดแพร่ หมายจับของศาลจังหวัดแพร่ ที่ 318 /2565 ลงวันที่ 19 สิงหาคม 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท (เมทแอมเฟตามิน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อการค้า และเป็นการก่อให้การแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลออดภัยของประชาชนโดยไม่ได้รับอนุญาต และสมคบคบกับตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และได้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน ”
และหมายจับกองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 หมายจับศาลอาญา ที่ 279 / 2565 ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดในลักษณะกระทำการเป็นองค์กรอาชญากรรม ”
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางเลนได้ประสานยังพนักงานสอบสวนสภ.ห้วยไร่ จ.แพร่ และกองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 ทั้ง 2 พื้นที่ ให้อายัดตัวผู้ต้องหาแล้วโดยกล่าวหาว่า ผู้ต้องหาที่ 1-2 ว่า “ ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันครองครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า,ยาไอซ์,ยาอี)ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
,ร่วมกันครอบครองยุทธภัทฑ์เสื้อเกราะไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงกลาโหม,เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้ายาไอซ์)โดยผิดกฎหมาย และแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมผู้ต้องหาที่ 1 ว่า”แต่งเครื่องแบบตำรวจโดยไม่มีสิทธิ และเป็นผู้ที่ไม่มีสิทธิสวมเครื่องแบบประดับเครื่องหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจ “
จากนั้นควบคุมตัวผู้ต้องพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน.สภ.บางเลน สอบสวนขยายผลถึงกลุ่มขบวนการเพื่อออกหมายจับและติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป