สายวันที่ 20 ม.ค. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน)กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.สส.สตม. ร่วมกับ บช.ทท. และ ศปอส.ตร.
นำหมายค้นของศาลแขวงพระนครใต้ ลงวันที่ 19 ม.ค. 65 เข้าตรวจค้นอาคารชุด รอยัล คาสเทิล สุขุมวิท เลขที่ 30 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.หลังสืบทราบมีชาวจีนแก๊งคอลเซ็นเตอร์มากบดาน
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารชุดความสูง 24 ชั้น เจ้าหน้าที่บุกเข้าตรวจค้นที่ห้อง 302 ชั้น 3 พบชาวจีน 7 คน ชาย 4 หญิง 3 แต่ละคนนั่งอยู่หน้าจอโน้ตบุ๊ก นอกจากนี้ยังเข้าค้นห้อง 2003 ชั้น 20 พบอุปกรณ์ต่างๆใช้กระทำความผิด และทำเป็นห้องพัก
นอกจากนี้ยังเข้าตรวจค้นแหล่งกบดาน อีก 2 จุด รวมตรวจค้น 4 จุด จับกุมผู้ต้องหารวม 10 คน อายุระหว่าง 20-35 ปี เป็นบุคคลตามหมายจับจีน 6 คน
ของกลางประกอบด้วย โน้ตบุ๊ก 19 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 79 เครื่อง ซิมการ์ดโทรศัพท์ 167 อัน อุปกรณ์กระจายสัญญาน เครื่องส่งโอที อุปกรณ์ Token ที่ใช้ทำเว็บพนันออนไลน์กว่า 300 รายการ นาฬิกาหรู 20 เรือน สมุดบัญชี 10 เล่ม รถยนต์ 3 คัน จยย. 1 คัน
พล.ต.ต.พันธนะเผยว่า การจับกุมครั้งนี้ตำรวจจีนให้ข้อมูลและเบาะแส มีแก๊งคอลเซนเตอร์ชาวจีน กระจายกันทำออฟฟิศอยู่ 4 จุด ในกทม. ได้ขอหมายศาลเข้าตรวจค้น โดย พล.ต.อ ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. สั่งการให้ขยายผล เบื้องต้น พบว่า เป็นผู้ต้องหาที่มีหมายจับตามที่ทางการจีนต้องการตัว 6 คน
นอกจากเข้ามาใช้ที่เกิดเหตุเป็นฐานในการโทรศัพท์ไปหลอกลวงคนจีนที่อยู่ในประเทศจีนแล้ว ยังพบว่ามีการเปิดเว็บไซต์พนันออนไลน์ 6 เว็บและพบว่ามีผู้ต้องหาตามหมายจับหลบหนีออกนอกประเทศไปก่อนหน้านี้แล้ว 2 คน
มีเว็บสาขาอีกหลายเว็บผู้เสียหายที่ถูกหลอกทั้งหมดเป็นคนจีนจำนวนหลายร้อยคนโดยพบหลักฐานซากโทเค่น ที่ใช้ในการหลอกโอนเงินสำเร็จแล้ว และผู้ต้องหาทำลายทิ้งในที่เกิดเหตุจำนวนมาก
สำหรับห้องที่เกิดเหตุ พบว่ามีคนไทยเป็นนอมินีมาเช่าเดือนละ 50,000 บาท กำลังสืบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการทำผิดครั้งนี้หรือไม่ ผู้ต้องหาบางส่วนมาอยู่แล้วประมาณ 1 ปีบางคนมาอยู่ 5-6 เดือน ใช้ที่เกิดเหตุเป็นฐานในการทำผิดมาแล้วประมาณ 1 ปี ไม่ออกนอกห้อง จะสั่งอาหารเดลิเวอรี่เข้ามารับประทานเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต นำผู้ต้องหาไปที่ สตม. ขยายผลต่อไป