ปี่กลองการเมืองเริ่มเร่งทำนองกระชั้นขึ้นรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 ในวันที่ 14 พ.ค.66 ที่งวดเข้ามาทุกขณะ
ก่อนนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดกำลังตำรวจ 130,000 นาย สนับสนุนการเลือกตั้งส.ส. ปี 2566 เปิดศูนย์อำนวยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้งฯ สืบสวน ติดตามสถานการณ์ บังคับใช้กฎหมายในห้วงการเลือกตั้ง
พร้อมระดมกวาดล้างอาชญากรรมทุกประเภทระหว่างวันที่ 4 – 10 พ.ค.66 รวม7 วันเน้นกลุ่มผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง อาวุธสงคราม ตลอดจนการฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวกับเลือกตั้ง
สำคัญสุดคือกำชับให้วางตัวเป็นกลาง
ในส่วนของตำรวจภูธรภาค3 หรือพิ้นที่อีสานใต้ ประกอบไปด้วย ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ ยโสธร และอุบลราชธานี
สุระ1-พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3 หัวหน้าตำรวจทั้ง8จังหวัดบอกกับhttps://policenewsvarieties.com/ ถึงการรับมือการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า
เรื่องการเลือกตั้ง ได้สั่งการไปตามนโยบาย เป็นไปตามกฎหมาย ตำรวจจะต้องเป็นกลาง อันนี้สำคัญคือยังไม่มีผู้มีอิทธิพล ตำรวจจะสนิทกับนักการเมืองคนนี้อยู่แล้วจะเอนเอียงเข้าข้าง ไม่มี
จนเหลือไม่กี่วันจะเลือกตั้งแล้ว ในภาค3 ยังไม่มีใครถูกร้องเรียน ว่าไม่เป็นกลาง ไม่มีผู้สมัคร ว่าที่ ส.ส.ต่างๆ มาร้องเรียน จะต้องเอาคนนี้ออกนอกพื้นที่ ตำรวจคนนี้เข้าข้างคนนั้นคนนี้ ไม่มีเลย
พล.ต.ท.สมประสงค์เล่าให้ฟังต่อว่า
2-3วันที่ผ่านมา ได้ประชุมเรื่องของการวางแผนป้องปราม หากมีคนกระทำผิดในช่วงการเลือกตั้ง จะวางกำลังยังไง จะเอาตำรวจไปเฝ้าหน่วยเลือกตั้ง เข้าไปจับกุมได้ไหม ถ้าได้ แล้วใครจะมาเฝ้าดูคนอื่นต่อ ถ้ามีการกระทำผิด ก็วางเรื่องของการวางกำลัง
เรื่องการสืบสวนหาข่าวก่อนการเลือกตั้ง จะมีใครกระทำผิดกฎหมายหรือไม่ ปัจจุบันมีคนทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องป้ายหาเสียง มีโดนทำลาย คือ ต้องเรียนตามตรงว่า ตามข่าวมันเยอะ แต่พอลงไปตรวจสอบจริงๆ มันไม่ได้เยอะตามข่าว
เช่น มีการร้องเรียนว่าป้ายถูกทำลาย 100-200 ป้าย แต่พอไปตรวจสอบแล้วหลักสิบ ที่พบแค่ 6 ป้าย แล้วป้ายที่หายไป บางทีก็ปลิวหายไป เพราะลวดขาดผูกกับเสาไฟ ลมแรงก็พัดไป บางทีก็ไปผูกไว้กับที่โล่งแจ้ง ลมแรง ก็พัดพาไป ถึงเวลาเจ้าของทรัพย์มาแจ้งความ ก็เหมารวมไปก่อน เพราะเขาไม่มีเวลาไปพิสูจน์ว่าป้ายไหน ถูกทำลายเกิดจากสาเหตุอะไร
พอตำรวจไปพิสูจน์ได้ ก็แยกออกมา ที่โดนทำลายจริงๆ ก็6-7 ป้ายแต่ละหน่วยนะ จากการเช็คข้อมูลแล้ว แทบจะไม่ได้เกิดจากการทะเลาะกันว่าผู้สมัครเบอร์นี้หมั่นไส้เบอร์นี้ แล้วไปทำลาย
แต่กลายเป็นว่าน่าเชื่อว่า ไอ้พวกมือบอนที่ทำ ยังจับไม่ได้ แต่การข่าวมาอย่างนั้น
เราเช็คจากข้อมูลปัจจุบัน ต้องยอมรับว่า เขตนี้ใครมาแรง ก็จะเป็นอย่างนั้น ต่างกับเมืองที่เจริญๆ การแข่งขันจะน้อย สมมติอำเภอนี้ เบอร์ไหนมามันชัดเจนเลย
ไม่เหมือนในเมืองใหญ่ๆ ที่แข่งกันไปแข่งกันมา แล้วการขัดแย้งรุนแรง กลั่นแกล้งทำลายป้าย ก็ไม่มี ทุกวันนี้ก็เพ่งเล็ง ก็ตั้งสมมติฐานเยอะ แต่เชื่อว่าพวกมือบอน เด็กๆ วัยรุ่น ทิ่มหน้าทิ่มตา เล่น วาดรูป เขียนหนวด หรืออะไรก็แล้วแต่ ส่วนใหญ่คนที่กระทำผิดก็ไม่ค่อยปกติ
การเมืองในพื้นที่ภาค 3 ก็ไม่ค่อยห่วงนะ ที่ห่วงนิดหน่อย ก็คือเรื่องตำรวจจะปฏิบัติหน้าที่ไม่เต็มที่ เรื่องตำรวจไม่เป็นกลางก็ยังไม่มีข้อมูล อันนี้เราพูดไปแล้วให้วางตัวเป็นกลาง ทุกคนต้องมีพวก แต่ทุกคนก็ต้องรู้หน้าที่ ทุกคนทุกวันนี้รู้ตัวเอง
ในพื้นที่ตำรวจภาค 3 บางท่านเป็นลูกหลานผู้สมัคร ส.ส.แต่ทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครร้องเรียนมาถึงภาค คือเขาก็ไม่ยุ่ง เขาก็รู้ตัวเอง แล้วกฎหมายเลือกตั้ง ก็มีระบุไว้ชัดเจน คุณตกงานเลยนะ คุณออกจากราชการเลยนะ
อีกเรื่องที่สำคัญ ประชาชนเดี๋ยวนี้เขามีความรู้เยอะแล้ว ไม่ใช่ไปบอกให้เขาเลือกแล้วเขาจะเลือกให้ เขามีความรู้ พูดง่ายๆ คือบ้านเมืองมันเจริญไปเยอะแล้ว เพราะฉะนั้นประชาชนเขาตัดสินใจได้เอง มาหาเสียง เขาก็ฟัง แต่เขาจะเลือกใครจะไปบังคับขู่เข็ญเขาไม่ได้ จะเอาตังค์มาให้เลือก ไม่ใช่แล้ว สมัยก่อนเอาตังค์ให้รับรองว่าเลือกแน่นอน ถ้ารับนะ
แต่ปัจจุบันผมว่าไม่ใช่แล้ว ใครจะทำมิดีมิร้ายช่วงเลือกตั้ง เอาตังค์ไปแจก ผมก็บอก แล้วชาวบ้านเขาก็ไม่เลือก เขาก็คิดเป็น ทำเป็น เขาคิดได้ ว่าจะเลือกใคร
การข่าวเป็นอย่างนี้ เราเช็คกันทุกวัน คุยกันทุกวัน เรื่องการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ เพราะเราคุมตรึงพื้นที่ไว้ได้ดี แม้ว่ามันจะไม่มีอะไรนะ ในพื้นที่ภาค 3 เรื่องโพลใครจะมา ข้อมูลตรงนี้เราก็มี แต่พูดไม่ได้ เดี๋ยวจะกลายเป็นการชี้นำ
ส่วนกำลังตำรวจที่ใช้ทั้งหมดเลย 18,000 กว่านาย ในพื้นที่ภาค3 ก็มี 18,000 กว่าหน่วยเลือกตั้ง มากที่สุดในประเทศไทย เกือบมากที่สุด เป็นรองของภาค 4 มีหน่วยเลือกตั้งเยอะมาก กำลังตำรวจไม่พอ ต้องใช้หน่วยอื่น ก็ตำรวจมีหมื่นกว่า เกือบ19,000 หย่อนนิดหน่อย แต่หน่วยเลือกตั้ง 18,000 กว่า ถ้าหน่วยละคนก็แทบไม่พอ นับถึงตัวผมด้วยนะ
กำลังที่ต้องจัดเป็นชุดเคลื่อนที่เร็ว ในการคุมบัตรเลือกตั้ง เวลามีเหตุอะไรอีก เราก็ต้องจัดตำรวจตรงนี้ไว้ แล้วคนคุมหน่วยเลือกตั้ง ก็ขอหน่วยราชการอื่นมาร่วม ตามมาตรา 33 กรณีกำลังไม่พอ ก็ขอหน่วยงานอื่นมาร่วม ก็ดำเนินการไปแล้ว ก็แก้ปัญหานี้ไปแล้ว ไม่มีปัญหา
สำหรับคนที่จะเลือกตั้งล่วงหน้า ก่อนวันที่ 14 พ.ค.นี้ ก็เตรียมการไว้ ใช้แผนที่วางไว้ คุยกันอยู่ ให้ไปหาข้อมูลจาก กกต.ว่ามีคนขอเลือกตั้งล่วงหน้าเยอะไหม ดูว่ามีเท่าไหร่ จะได้เคลียร์ในการต้อนรับพี่น้องประชาชน ที่จะหลั่งไหลกลับมาเลือกตั้ง
ตรงนี้ คือทีมงานในการเลือกตั้ง ไม่ได้มองเรื่องการเลือกตั้งล่วงหน้า ผมเลยให้ไปถามข้อมูล ว่าการเลือกตั้งล่วงหน้าเยอะไหม จะมาเลือกในเขต หรือเลือกนอกเขต ก็ต้องไปเอาข้อมูลมาจะได้เตรียมการถูก เพราะเลือกตั้งล่วงหน้ามันวันที่ 7 พ.ค.นี้ ผมจะได้เตรียมการถูก
ถ้าคนเลือกตั้งล่วงหน้าเยอะ เป็นหมื่นเป็นแสนคนนี่ ก็เหมือนมาเที่ยวสงกรานต์เลย มันก็จะต้องจัดกำลังในเรื่องของการดูแลการจราจร เรื่องการรักษาความปลอดภัย คือในหลายๆ เรื่อง
เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็คงจะต้องไปหาข้อมูลมา สั่งการไปแล้ว คิดว่าไม่กี่วันก็คงได้ เราจะได้เตรียมการวางแผน ผมว่ามีเยอะ บางท่านก็ไม่อยากมาวันเลือกตั้ง ก็มาก่อนอะไรอย่างนี้ คาดคะเนเอา ผมคิดว่าคงต้องรอข้อมูลจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ
นี่คือส่วนหนึ่งในการเตรียมความพร้อมของตำรวจภาค3 กับการเลือกตั้งผู้แทนเมืองไทยครั้งที่27
ประชาธิปไตยอยู่ในมือคนไทยทุกคนอีกครั้ง ไปใช้สิทธิกันนะครับ
กากีกลาย29/4/66
