Saturday, July 27, 2024
More
    Homeข่าวเด่นรอบวัน“บิ๊กเต่า”กัดไม่ปล่อย ร่วม ศปนม.ตร.ค้น8จุดแก๊งน้ำมันเถื่อนสนิทบิ๊กสรรพสามิต

    “บิ๊กเต่า”กัดไม่ปล่อย ร่วม ศปนม.ตร.ค้น8จุดแก๊งน้ำมันเถื่อนสนิทบิ๊กสรรพสามิต

    ตำรวจทางหลวงร่วม ปปป.ปปท.ปนม.ตร.ลุยค้น 8 จุด หาหลักฐานเอาผิดขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนเครือข่ายเจ๊หมง เชื่อมโยงบิ๊กสรรพสามิต

    เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 29 มิ.ย.66พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการ พล.ต.ต. จรูญเกียรติปานแก้ว รรท.ผบก.ทล. พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รรท.ผบก.ปปป. พ.ต.อ. บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป. ปฏิบัติราชการ บก.ทล. พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย รองผบก.สส.บช.ภ.4. หัวหน้าชุด ศปนม.ตร.

    นำกำลังร่วมกับนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการ ป.ป.ท. เปิดปฏิบัติการ กวาดล้างขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนเครือข่ายเจ๊หมง เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวน 8 จุด แบ่งเป็นในพื้นที่ จ.ปทุมธานี 3 จุด นครปฐม 1 จุดสมุทรสงคราม 4 จุด

    ปฏิบัติการครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจทางหลวง  ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต สกัดจับกุมขบวนการค้าน้ำมันเถื่อน พร้อมของกลาง กว่า 4 หมื่น ลิตร ได้ที่ริมถนนเพชรเกษม ทล.4 กม.308 ขาเข้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ หลังทราบว่าจะมีการขนลำเลียงน้ำมันเถื่อนจากภาคใต้ มุ่งหน้าเข้าสู่พื้นที่ กทม. เพื่อนำมาส่งต่อปั้มน้ามันในพื้นที่ กทม. และเขตปริมณฑล

    อีกทั้งในขณะจับกุมยังมีบุคคลอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมสรรพสามิตโทรศัพท์มาเจรจาขอให้ปล่อยรถของกลาง แต่ไม่เป็นผล จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์

    หลังเกิดเรื่อง ตำรวจทางหลวง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ได้เร่งขยายผลตรวจสอบ เพราะเชื่อว่าน่าจะมีการทำกันเป็นขบวนการใหญ่ และอาจมีข้าราชการสรรพสามิตระดับสูงเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยง ก่อนพบว่า เจ้าของรถบรรทุกคันดังกล่าวคือ น.ส.รติรส หรือ เจ๊หมง ส่วนผู้รับซื้อคือ น.ส.ศิริกร หรือ เจ๊บีม  เร่งรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย  8 จุด ส่วนใหญ่เป็นสำนักงานที่ตั้งบริษัทของทั้งสอง และ จุดที่เชื่อว่าถูกใช้เป็นสถานที่ในการซื้อขายน้ำมันเถื่อน


    สำหรับเป้าหมายสำคัญจุดแรกที่เข้าตรวจสอบเป็น สำนักงานบริษัท ของ น.ส.ศิริกร หรือ เจ๊บีม ตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.5 ต.ลาดหลุมแก้ว อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี พบบริเวณด้านหน้าติดริมถนนเปิดเป็นปั้มน้ำมัน ส่วนด้านหลังเป็นสำนักงานมีเนื้อที่ 25 ไร่ รั้วรอบขอบชิด ใช้เป็นลานจอดรถบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่  เจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างน้ำมัน พร้อมกับเอกสารเกี่ยวกับที่ไปที่มาของรถน้ำมันไว้ตรวจสอบ

    พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า หลังจากนี้จะนำเอกสารต่างๆ รวมถึงตัวอย่างน้ำมันไปตรวจสอบ ถึงที่มาที่ไป เพื่อพิสูจน์ทราบให้แน่ชัดว่าน้ำมันดังกล่าวนั้นเกี่ยวข้องกับขบวนการน้ำมันเถื่อนที่จับกุมได้ในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ หรือไม่ หากพบว่าเกี่ยวข้องกันจริง จะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย เพราะขบวนการน้ำมันเถื่อนดังกล่าวสร้างความเสียหายให้กับประเทศเป็นอย่างมาก

    “ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตระดับสูงโทรมาเจรจาขอให้ปล่อยรถบรรทุกของกลางที่จับกุมได้ในพื้นที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมานั้น ยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจ ยังมีการขยายผลตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง  ประสานข้อมูลสืบสวนร่วมกับทางอธิบดีกรมสรรพสามิต  เท่าที่ทราบขณะนี้มีการสั่งพักราชการระดับสูงไปแล้ว 1 ราย และขอให้ประชาชนเชื่อใจว่าหลังจากนี้จะยังคงขยายผลต่อเนื่อง

    สำหรับการสืบสวนเรื่องน้ำมันเถื่อนขบวนการนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.ที่ ซึ่งหากมีพยานหลักฐานแน่ชัดว่ากระทำผิดเมื่อใด ก็จะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว

    ขณะที่ นายภูมิวิศาล กล่าวว่า ขณะนี้พอมีข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่รัฐที่มีพฤติกรรมเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการจับกุม หรือ หยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานคดีรถบรรทุกน้ำมันเถื่อน ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ บ้างแล้ว อยู่ระหว่างเร่งขยายผลสืบหาพยานหลักฐานให้แน่ชัด

    ด้านพ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย รองผบก.สส.บช.ภ.4. หัวหน้าชุด ศปนม.ตร. กล่าวว่า ขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนนี้ จากแนวทางการสืบสวนพบว่าทำมาได้ประมาณ 1 ปี แล้ว โดยต้นทางอยู่ที่จ.สงขลา มาส่งภาคกลาง พฤติการณ์จะขนน้ำมันเถื่อนจากต้นทางมาถ่ายใส่รถน้ำมันอีกคัน ตามสถานที่นัดหมาย ก่อนจะนำไปถ่ายน้ำมันลงตามปั๊มที่ตกลงรับซื้อกันอีกที สำหรับการตรวจค้นครั้งนี้พบความผิดปกติชัดเจน แต่ทั้งนี้จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานก่อน จากนั้นจะเรียกตัวมาแจ้งข้อหา หรือแจ้งความดำเนินคดีต่อไป

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments