เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 25 มี.ค.65พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ.พ.ต.อ.ธรรมปพน ชาวกำแพง ผกก.2 บก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร
ร่วมแถลงผลยุทธการ “สอบสวนกลาง ร่วมมือกรมสรรพากร ปราบแก๊งโกงภาษี จับผู้ต้องหาได้ 7 ราย ประกอบด้วย น.ส.กัติกา อายุ 24 ปี, น.ส.รุ่งฤดี อายุ 25 ปี, น.ส.วรรณวิสา อายุ 24 ปี , น.ส.ลีลาวดี อายุ 21 ปี, นายอริน อายุ 21 ปี และ น.ส.อัมรินทร์ อายุ 25 ปี พร้อมของกลาง สมุดบัญชีธนาคาร, โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อีกหลายรายการ
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า บก.ปอศ.ได้รับการประสานจาก กรมสรรพากร ให้สืบสวนจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตปีภาษี 2564 โดยใช้ระบบ Data Analytics ของกรมสรรรพากร โดยการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ แอบอ้างว่ามีรายได้จากการทำงานและได้มีการหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้
เนื่องจากการก่อเหตุลักษณะดังกล่าว มีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ เร่งสั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ทำให้ทราบเครือข่ายผู้ที่ร่วมกระทำความผิดในคดีนี้ จนนำไปสู่การขออนุมัติออกหมายจับ
จากนั้นได้นำกำลังกว่า 30 นายเข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายใน กทม., กำแพงเพชร, ตาก, ชลบุรี และปทุมธานี กระทั่งจับกุมผู้ต้องหาได้ ส่วนมูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการประเมินของกรมสรรรพากร
สอบสวนทั้งหมดรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา แจ้งข้อหา“นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์, ฉ้อโกง ขอคืนภาษีอากรอันเป็นเท็จ” นำส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอศ. ดำเนินคดี ในส่วนของผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีจะเร่งสืบสวนติดตามตัวต่อไป
สำหรับพฤติกรรมในการกระทำความผิดนั้น ผู้ต้องหาทั้ง 7 คน จะทำหน้าที่เป็นแม่ข่าย หาลูกค้าผ่านทางสังคมออนไลน์ อ้างว่าสามารถทำเรื่องขอคืนภาษีบุคคลธรรมดาได้ แม้ว่าจะไม่มีสิทธินั้นก็ตาม
เมื่อมีผู้สนใจติดต่อมาจะชักชวนให้ร่วมกระทำความผิด ด้วยการกรอกข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลที่จะขอคืนภาษีอันเป็นเท็จ ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลการผ่อนชำระบ้านพักอาศัย หรือประกันชีวิต โดยการยื่นผ่านระบบออนไลน์ พร้อมกับตกลงแบ่งผลประโยชน์กัน ตามสัดส่วนที่ได้รับเงินคืน
เมื่อระบบคัดกรองของกรมสรรพากรตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว ระบบจะโอนเงินคืนภาษีดังกล่าวผ่านบัญชีพร้อมเพย์ให้กับเจ้าตัวผู้ขอคืนภาษี ก่อนที่เจ้าตัวจะนำเงินมาแบ่งกับแม่ข่าย
ทั้งนี้กรมสรรพากรยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามีกลุ่มผู้ที่ยื่นขอคืนภาษีเป็นเท็จจริงรวมแล้วกี่คนและมูลค่ารวมมีความเสียหายเท่าไหร่ ขณะนี้กำลังตรวจสอบรายละเอียด
เบื้องต้นพบเพียงว่าแต่ละรายที่ร่วมกันกระทำความผิดนั้นจะได้รับเงินภาษีคืนรายละประมาณ 4,000-5,000 บาท ส่วนผู้ที่เป็นลูกข่ายจะถือว่าเป็นผู้กระทำความผิดด้วยหรือไม่นั้นขณะนี้กำลังอยุ่ในขั้นตอนการสอบสวน หากพบว่ากระทำความผิดด้วย จะเรียกตัวมาดำเนินคดีต่อไป.