“ผบ. ตร” ยันไม่มีช่วยเหลือส.ว.ทรงเอ คดีเครือข่ายยาเสพติด ยอมรับเรียกชุดทำคดีเข้ามาสอบถามรายละเอียดในคดีแล้วแต่ไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ว่าการทำคดีดังกล่าวล่าช้าเกินไปหรือไม่ เพราะเป็นการทำงานร่วมระหว่างสองฝ่าย
วันที่ 14 มีนาคม 2566 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับสมาชิกวุฒิสภาชื่อดังรายหนึ่ง หรือ สว.ทรงเอ กรณีการตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีเครือข่ายยาเสพติดทุนมินลัต หลังจากที่นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกล ไปติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าวที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดว่า
หลังจากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจและมีการเปิดเผยข้อมูลเอกสารคำชี้แจงของตำรวจที่ไปขอหมายจับในคดีดังกล่าว ได้เรียกตำรวจชุดที่ทำคดีในปัจจุบันมาสอบถามถึงข้อเท็จจริงและรายละเอียดต่างๆ ว่ามีการดำเนินการไปถึงขั้นใดอย่างไรบ้าง
พร้อมยังกำชับให้กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 และอัยการสูงสุดประสานข้อมูลการทำคดีและเปิดเผยข้อมูลเท่าที่สามารถทำได้เพื่อทำความเข้าใจให้กับประชาชนและสื่อมวลชนได้รับทราบไปในทิศทางเดียวกัน โดยยืนยันว่าคดีดังกล่าวไม่ได้มีการให้การช่วยเหลือผู้ต้องสงสัยรายดังกล่าว
ส่วนกรณีที่เมื่อวานนี้ ส.ส.รังสิมันต์ โรม ตั้งข้อสังเกตว่าคดีดังกล่าวมีการดำเนินการทางคดีโดยไม่มีการออกหมายเรียกหรือหมายจับนานจนเกินไป จนอาจทำให้มีผลต่อรูปคดี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ไม่สามารถไปวิพากษ์วิจารณ์หรือก้าวล่วงได้ว่าการทำงานของอัยการและตำรวจที่ทำคดีช้าเกินไปหรือไม่
แต่จากการตรวจสอบข้อมูลทางคดีทราบว่าคดีนี้จำเป็นต้องมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินและบัญชีทั้งในและต่างประเทศมากกว่า 500 บัญชี และต้องแปลเอกสารจำนวนมากกว่า 1000 หน้า ซึ่งเป็นของกลุ่มผู้ต้องหาพูดคุยกับผู้ต้องสงสัย ตามที่สว. คนดังกล่าวได้ร้องขอความเป็นธรรมต่อสำนักงานอัยการสูงสุดและได้รับมอบหมายให้มาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว จึงทำให้ไม่สามารถออกหมายเรียกหรือหมายจับได้ในขณะนี้ ส่วนการดำเนินการดังกล่าวจะล่าช้าเกินไปหรือไม่นั้นได้สั่งการให้ชุดจเรตำรวจและคณะกรรมการตรวจสอบดูในรายละเอียดเรื่องนี้แล้ว
สำหรับกรณีที่ส.ส.โรม กล่าวถึงกรณีที่มีตำรวจยศระดับสูง นอกราชการ ซึ่งมีชื่อขึ้นต้นด้วยส อเสือ เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการตัดข้อมูลและชื่อของสว.คนดังกล่าวออกจากสำนวนคดีนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า รายละเอียดดังกล่าวได้ให้คณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียดด้วยว่าตำรวจนายนี้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่
ถามต่อว่าจำเป็นต้องเรียกตำรวจระดับสูงเข้ามาให้ข้อมูลกับทางจเรตำรวจหรือคณะกรรมการหรือไม่ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ให้จเรตำรวจดำเนินการ