Police News Varietes can I show วันนี้ พามาทำความรู้จักกับ “ตำรวจสมองเพชร” เก่งงานสืบสวนมืออันดับต้นๆของกองปราปราม – ความหล่อยังกะดารานักแสดง ความไวไหวพริบดีการันตรีจากแชมป์อันดับ 1 จากรายการอัจฉริยะข้ามคืนตอนที่ 52 พ.ต.ท.ดร.ธราดล เหมพัฒน์ ตำแหน่ง รอง ผกก. (สอบสวน) กก.6 บก.ป. จบปริญญาตรี นิติศาสตร์บัณฑิต จาก มหาวิทยาลัยรามคำแหง สอบเข้ารับราชการเป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตร สายสอบสวน นบ.รบ.รุ่นที่ 18. บรรจุเข้ารับราชการเป็น ร.ต.ต. เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2538 ตำแหน่ง รอง สว.ประจำ บช.น. ปฏิบัติราชการ ที่ สน.พญาไท ฝึกงานสอบสวน
จากจุดเริ่มต้นตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งพนักงานสินเชื่อ ธนาคารกรุงเทพ ตัดสินใจ กระโดดลงสนามสอบเข้าเป็นตำรวจ ผลงานดีเด่นเข้าตา ผู้บังคับบัญชาไว้วางใจให้ทำคดีระดับประเทศ จนถึงวันนี้ผ่านมากว่า 21 ปี ก่อร่างสร้างเป็น พ.ต.ท.ดร.ธราด นายตำรวจน้ำดี สู่กำลังสำคัญทำประโยชน์ให้ประชาชน เสริมทัพสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับบทสัมภาษณ์ที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน
กับบทบาทผู้ชายมาดนิ่มทะเล้น “บอกรักผู้หญิงครั้งสุดท้ายเมื่อวานนี้ “เรารักเค้าก็ต้องบอกรักเค้าสิครับ” มุมมองชีวิตที่คิดไม่เหมือนใคร ยืนยันจากใจ “ผมไม่ใช่ตำรวจที่ชอบถือเตารีดนะครับ”
ประวัติรับราชการ สร้างผลงานพนักงานสอบสวนดีเด่น ทำคดีปล้นปืน 3 จว. ,คดีดังระดับประเทศมากมาย
ชื่อ พ.ต.ท.ดร.ธราดล เหมพัฒน์ ปัจจุบัน ตำแหน่ง รอง ผกก. (สอบสวน) กก.6 บก.ป. ครับ จบปริญญาตรี นิติศาสตร์บัณฑิต จาก มหาวิทยาลัยรามคำแหง สอบเข้ารับราชการเป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตร สายสอบสวน นบ.รบ.รุ่นที่ 18 บรรจุเข้ารับราชการเป็น ร.ต.ต. เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2538 ตำแหน่ง รอง สว.ประจำ บช.น. ปฏิบัติราชการ ที่ สน.พญาไท ฝึกงานสอบสวน กับ พ.ต.อ.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบก.ป. , พ.ต.อ.สหัสชัย โลจายะ รอง ผบก.ตท. , พ.ต.อ.อรรถพร สุริยเลิศ ผกก.ฝอ.ภ.จว.ปทุมธานี , พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พี่ๆฝึกงานซึ่งตอนนั้นเป็น รอง สวส.สน.พญาไท
ต่อมาวันที่ 16 ธันวาคม 2538 ได้รับแต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่ง รอง สวส.สภ.ป่าโมก ภ.จว.อ่างทอง ระหว่างนั้นเรียนต่อ ปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ด้านการบริหารงานยุติธรรม เรียนจบรับปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (รัฐศาสตร์) เมื่อปี 2540 ปีเดียวกันได้รับการคัดเลือกให้ พนักงานสอบสวนดีเด่นของ ภ.จว.อ่างทอง ของ ภ.1 และ ของ ตร. ปลายปี 2540 ไปช่วยราชการที่ สภ.เมืองอ่างทอง
จากนั้น ย้ายเข้ากองปราบปราม เมื่อ กันยายน 2541 ดำรงตำแหน่ง พงส.(สบ 1) ผ.3 กก.3 ป. ดูแลรับผิดชอบ ภ.1 , 5 , 6 อยู่ กก.3 ป. ได้ 3 ปี ปี 2544 ย้ายไป ดำรงตำแหน่ง พงส.(สบ 1) ผ.3 กก.5 บก.ป. รับผิดชอบ ภ.7 , 8 , 9 กลางปี 2546 ย้ายไป ดำรงตำแหน่ง พงส.(สบ 2) ผ.3 กก.1 บก.ป. รับผิดชอบ พื้นที่กรุงเทพมหานคร ปลายปี 2546 ไปช่วยราชการ กก.5 บก.ป.
วันที่ 4 มกราคม 2547 เกิดคดีคนร้ายปล้นปืน-เผาโรงเรียน ที่ จว.นราธิวาส ได้รับแต่งตั้งเป็นพนักงานสืบสวนสอบสวน ลงไปทำคดีอยู่ในพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2547 กลางปี 2547 กลับมาทำงานที่ กก.1 บก.ป. ปี 2548 ปรับโครงสร้าง เป็น กองบังคับการปราบปราม ย้ายไปเป็น พงส.(สบ 2) กลุ่มงานสอบสวน บก.ป. ปฏิบัติราชการ กก.2 บก.ป. ปี 2552 ย้ายไปดำรงตำแหน่ง พงส.(สบ 3) กก.6 บก.ป. รับผิดชอบ พื้นที่ ภ.9 และ ศชต. จนถึงปัจจุบัน
เล่าย้อนที่มา กว่าจะเป็นตำรวจ
จริงๆลืมไปแล้วนะครับว่า เพราะอะไรถึงอยากเป็นตำรวจ 555 พอมานึกๆดู ถึงจำได้ว่าตอนเป็นเด็กชอบอ่านหนังสือครับ อ่านทุกอย่างครับ ไม่ว่าจะเป็นการ์ตูน หรือ นิยาย อ่านเยอะมากครับ นิยายที่อ่านแล้วเป็นแรงบันดาลใจให้อยากเป็นตำรวจชื่อ “ปุลากง” ครับ โสภาค สุวรรณ เป็นผู้แต่ง
ตัวเอกเป็นเด็กผู้ชายสอบเข้าเรียน โรงเรียนนายร้อยตำรวจได้ และไปรับราชการอยู่ที่ ต.ปุลากง อ.ยะหริ่ง จว.ปัตตานี ลองหาอ่านกันดูนะครับ เรื่องนี้ขออนุญาตแนะนำครับ
ทางบ้านค่อนข้างสนับสนุนในการเป็นตำรวจ?
น่าจะใช่นะครับ เพราะในหน้าที่ของตำรวจกองปราบฯ เป็นอะไรที่เราต้องเดินทางไปทำคดีตามต่างจังหวัด บางคดีก็มีความเสี่ยงต้องลงไปในพื้นที่ที่ค่อนข้างอันตราย ครอบครัวเราไม่เคยทำให้เราต้องเป็นห่วง แค่นั้นก็เพียงพอแล้วครับ สำหรับการ Support งานของเรา
คดีสำคัญสุดภาคภูมิใจในชีวิตข้าราชการตำรวจ
ผมได้มีโอกาส ทำคดีใหญ่ๆที่เป็นข่าวใหญ่ระดับประเทศ ตั้งแต่อยู่ที่ ภ.จว.อ่างทอง ครับ ถือสำนวนตั้งแต่ยังเป็น ร.ต.ท. เช่นคดีตำรวจ 191 ถูกยิงตายขณะถูกสวมกุญแจมือในรถเบนซ์ ท้องที่ สภ.เมืองอ่างทอง , คดีตำรวจทางหลวงถูกฆ่าตายริมถนนสายเอเชีย ท้องที่ สภ.เมืองอ่างทอง ก็ภูมิใจนะครับ แม้ว่าในทางคดีจะไม่ได้ตัวคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมาย แต่ก็เป็นคดีที่ผู้บังคับบัญชาไว้วางใจให้เราเป็นคนถือสำนวนทำให้เราได้เห็นการบริหารงานสืบสวนสอบสวน ในภาพรวม โดยมีนักสืบมือดี จาก กองปราบปราม จำได้ว่ามี พ.ต.อ.ภาณุพงษ์ สิงหรา ณ อยุธยา รอง ผบก.ป. (ยศตำแหน่งขณะนั้น) และพ.ต.อ.สมพงษ์ คงเพชรศักดิ์ ผกก.3 บก.ป. (ยศตำแหน่งขณะนั้น)มาร่วมสืบสวนสอบสวนด้วย
กระทั่งย้ายมาอยู่ กองปราบปราม งานสืบสวนสอบสวนที่ภาคภูมิใจขณะที่อยู่กองปราบปราม คือ ทำการสอบสวนคดีอาญาเรื่องร่วมกันฆ่าผู้อื่นฯ จนศาลจังหวัดชุมพร มีคำพิพากษาให้ประหารชีวิตผู้ต้องหาซึ่งเป็นผู้ใช้จ้างวานกับพวกรวม 3 คน ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 คน พิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต เนื่องจากให้การรับสารภาพ ผู้ต้องหา 2 คน เป็น ตำรวจ ส่วนผู้ใช้จ้างวาน เป็นนักการเมืองท้องถิ่น ระดับ นายก อบต. คดีนี้เป็นคดีที่พี่สาวคนตาย (คนตายเป็นนักการเมืองท้องถิ่นฝ่ายค้าน พบเห็นการทุจริตจึงโวยวายเลยถูกสั่งฆ่า) มาร้องเรียนเนื่องจาก เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากพนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุ จึงขออนุญาต ตร.สอบสวนฝ่ายเดียว รับสำนวนมาทำ เมื่อครั้งเป็น ร.ต.อ. ร่วมกับ พ.ต.อ.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผกก.สส.ภ.8 (ยศตำแหน่งขณะนั้น)
สืบสวนสอบสวนหาพยานหลักฐานรวมไว้ในสำนวนจนศาลพิพากษาดังกล่าว บ้านพี่สาวคนตายและญาติค่อนข้างขัดสน ที่บ้านไม่มีน้ำประปา ไม่มีไฟฟ้าใช้ ขณะที่พาผู้ต้องหาซึ่งเป็นตำรวจที่เป็นมือปืนซึ่งจับได้รายสุดท้าย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ หาดทุ่งวัวแล่น อ.ปะทิว จว.ชุมพร ประชาชนพากันมาดูไม่ต่ำกว่า 500 คน พี่สาวคนตายเดินมาก้มกราบเท้าต่อหน้าประชาชนไม่ต่ำกว่า 500 คน แล้วบอกว่า “ฉันไม่มีอะไรจะให้ ฉันขอกราบเท้าตอบแทนพระคุณท่านที่ท่านช่วยทำคดีให้” ความรู้สึกที่เราตำรวจกองปราบได้ทำให้กับผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมและไม่รู้จักกับใครไม่รู้จะไปพึ่งพาใครนั้น เป็นความรู้สึกปิติที่ทุกวันนี้เมื่อคิดถึงวันนั้นก็ยังรู้สึกปิติเช่นนั้นอยู่…
อีกคดีล่าสุด เป็นคดีที่สื่อมวลชนให้ความสนใจนำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ กองบังคับการปราบปราม โดยการนำของ พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงษ์ ผกก.6 บก.ป. ได้เข้าไปรื้อคดีที่ นางจุรี จันทร์งาม จำเลยในคดีอาญาคดีจ้างวานฆ่าฯ ลูกสะใภ้ ที่ต้องคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ลงโทษประหารชีวิต
ระหว่างที่รอคำพิพากษาศาลฎีกา ได้แกล้งแจ้งตายอันเป็นเท็จ เพื่อหลบหนีไม่ไปฟังคำพิพากษาศาลของศาลฎีกา จนสามารถจับกุมตัวจำเลยที่แกล้งแจ้งตาย ตามหมายจับของศาล หลังจากนั้นได้ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องกับการแจ้งตายอันเป็นเท็จ ซึ่งเหตุเกิดหลายกรรม หลายท้องที่เกี่ยวพันกัน จนศาลออกหมายจับผู้ต้องหา ซึ่งร่วมกระทำความผิด ได้อีก 8 คน และสามารถสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีได้ทั้ง 7 คน
ในส่วนของนางจุรีฯ ได้ทำการจับกุมไปก่อนหน้าแล้ว นำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบในการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอ ให้เห็นว่า ผู้กระทำความผิดไม่ว่าจะมีแผนประทุษกรรมแบบใหม่แนวใด กองบังคับการปราบปราม สามารถสืบสวนสอบสวนจับกุมมาดำเนินคดีได้ทุกคดี
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกคดีที่ทำนั้น เป็นการปฏิบัติงานกันเป็นทีมที่ทุกท่านในทีมมีส่วนร่วมในการทำงานจนบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล จึงขออนุญาตให้ Cr. กับทุกท่านในทีมที่ไม่ได้เอ่ยนาม มา ณ ที่นี้ด้วยครับ
“พูดถึงตำรวจนักสืบในดวงใจ”
มีหลายท่านเลยครับ 5555 อาจจะเคยทำงานสืบสวนสอบสวนกับหลายๆท่านนะครับ ประกอบกับเป็นคนชอบสังเกตุมั้งครับ ก็เลยนำเอาจุดเด่นของแต่ละท่านที่เป็นผู้บริหารงานสืบสวนสอบสวน การวินิจฉัยสั่งการ ในคดีนั้นๆหรือเรื่องนั้นๆ มาปรับใช้ครับ ที่เป็นตำนานนักสืบที่เคยร่วมงานด้วย ก็มี พล.ต.อ.ภาณุพงษ์ สิงหรา ณ อยุธยา อดีต รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สมพงษ์ คงเพชรศักดิ์ อดีต ผบช.ภ.4 , พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. , พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ อดีต ผบก.สส.บช.น. , พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป. , พ.ต.อ.วีระพันธ์ ทันใจ รอง ผบก.สส.ภ.4 , พ.ต.อ.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบก.ปส.
ความยากลำบากของการเป็นตำรวจในความคิด
ถ้าเป็นเรื่องของการทำงานในหน้าที่ ไม่มีนะครับ อาจจะเป็นคนเรียนรู้เร็วมั้งครับ งานนอกเหนือหน้าที่ก็ทำครับ ทำได้ทุกเรื่องที่ผู้บังคับบัญชาไว้วางใจมอบหมายให้ทำ ครับ
ความแตกต่างระหว่างตำรวจกองปราบกับตำรวจกองบัญชาการอื่นๆ
ตำรวจกองปราบปราม ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อ “สนับสนุน” การทำงานของตำรวจท้องที่กรณีที่ศักยภาพของตำรวจท้องที่ไม่เพียงพอ อาจจะเนื่องจากเกิดเหตุหลายท้องที่เกี่ยวพันกัน หรือเป็นคดีที่ค่อนข้างสลับซับซ้อน และเพื่อ “ถ่วงดุลย์” กรณีที่ผู้เสียหายเชื่อว่าหรือเกรงว่า จะไม่ได้รับความเป็นธรรม จากตำรวจท้องที่ ก็จะมาที่ กองปราบปราม ซึ่งก็คือ “ที่พึ่งสุดท้ายที่หมายพึ่ง” ของประชาชน กองปราบปราม มีอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบเกี่ยวกับการรักษาความสงบเรียบร้อย ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม สืบสวนสอบสวนการกระทำผิดที่มีโทษทางอาญาเกี่ยวกับ ชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน ผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง อาวุธสงคราม และความผิดอันเกี่ยวกับการก่อความไม่สงบสุขแก่ประชาชน ในเขตพื้นที่รับผิดชอบทั่วราชอาณาจักร รวมทั้งปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมาย
ชีวิตรับราชการตำรวจที่ผ่านมา กับการทำประประโยชน์เพื่อสังคม
“การอำนวยความยุติธรรม” ให้บังเกิดกับประชาชนทุกชนชั้น โดยไม่เลือกปฏิบัติครับ
ทุกครั้งเวลาที่มีคนมาด่าหรือโจมตี วงการตำรวจเรา
เราทำให้เค้าด่าเราหรือเปล่าละครับ เราต้องยอมรับในข้อเท็จจริงตรงนี้ก่อน ถ้าใช่เราก็ต้องไปแก้ไขปัญหาตรงนั้น ให้ตรงจุดครับ
ถ้าไม่ได้เป็นตำรวจคุณจะทำอาชีพอะไร
ถ้าตอนนั้นไม่ได้ลาออกจากการเป็นพนักงานสินเชื่อ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด เพื่อมาเป็นตำรวจ ณ ปัจจุบัน ก็คงจะเป็น ผู้จัดการธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาไหน สักแห่งละครับ
เล่าถึงคืนวันที่ไปร่วมแข่งขัน รายการอัจฉริยะข้ามคืนจนคว้าแชมป์อันดับ 1
เคยดูรายการนี้ สัก 2-3 ครั้งมั้ง ก่อนที่จะมีคนใน Work Point ซึ่งรู้จักกันมาก่อนโทรศัพท์มาชวนให้ไปร่วมแข่งขัน ก็รู้สึกว่า ยากมากเลย เพราะปริศนาคำทายของรายการนี้ เราดูแล้วมันไม่มีตรรกะนะครับ ปฏิเสธคำแรกเลยครับว่า “ไม่ไป” เหตุผลคือ “ไม่อยากไปโง่ออกอากาศ” ครับ 5555 แล้วเราก็วางสายไป อีกสักชั่วโมง โทรศัพท์ก็เข้ามาอีกรอบนึง คงหาคนไปออกเทปนี้ไม่ได้มั้ง 5555 อันนี้คิดเอาเองนะ เพราะแบบว่ามันต้องมีโปรไฟล์ของผู้เข้าร่วมแข่งขันไปนำเสนอตอนเปิดตัวนิดนึงอะนะครับ บอกว่า “ขำๆนะ ไปออกทีวีขำๆ ไม่ต้องไปซีเรียส”
ก็เลยตอบตกลงไป ไปแบบไม่หวังอะไรเลยนะครับ ก็เลยไม่เครียด ไปแบบฮาๆ แซวคนนู้นที คนนี้ที แต่คนอื่นทุกคนอีก 8 คนดูเครียดกันมาก พกพาเครื่องรางมากันเต็มที่ ตั้งใจเต็มที่กันทุกคน แต่เราก็แบบว่าไม่หวังก็เลยไม่เครียด ก็อยู่กับปัจจุบันทำ ณ ขณะนั้นให้ดีที่สุด ทีมงานให้ทำอะไรก็ทำ
กว่าจะกลับถึง สตูดิโอ ที่ ปทุมธานี เพื่อตอบปัญหาสุดท้าย นี่คือ ไม่ได้นอนมา 42 ชั่วโมงแล้ว เบลอสิครับ คิดอะไรไม่ออกแล้วครับ แต่ตอนจบเราได้เป็น เดอะวินเนอร์ ก็ดีใจครับ
ขณะนั้นคุณสังกัดอยู่หน่วยงานไหน เมื่อชนะการแข่งขันผู้บังคับบัญชาว่าอย่างไรบ้าง
อยู่ กองปราบฯ ครับ เทปนั้นไปถ่ายทำที่ แหลมฉบัง เดือนกันยายน แต่กว่าเทปจะออกอากาศก็เดือนตุลาคม ยังไม่มีใครรู้ผลครับ แต่ก็บอกกับผู้บังคับบัญชา ผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงานที่สนิทๆกันนะครับว่า อย่าลืมดูนะ ออกอากาศวันนี้นะไปร่วมแข่งขันรายการนี้นะ แต่ไม่ได้บอกใครเลยนะครับว่า เราชนะการแข่งขัน ใครถามเราก็บอกว่าดูเอง พอเค้าดูเองเค้ารู้ว่าเราชนะได้เงินมา 1 ล้าน เวลาเค้าเจอเราเค้าก็แสดงความยินดีด้วยครับ
อยากให้บุคลากรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความภูมิใจในการปฎิบัติหน้าที่
พัฒนาด้านบุคลากรครับ ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ให้เค้ามีความภูมิใจที่ได้ปฏิบัติหน้าที่รับใช้พี่น้องประชาชนในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายครับ ต้องให้เค้าได้พักบ้างครับ ตำรวจไม่ใช่เครื่องจักรนะครับ ทำงาน 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุดราชการ
ความแตกต่างระหว่างตำรวจสมัยนี้กับสมัยก่อน
ไม่แตกต่างกันครับ ตำรวจที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ในหน้าที่ของตนเองยังมีอยู่ครับ
เค้าบอกว่าตำรวจไทยชอบรีดไถแถมเจ้าชู้?
“ตำรวจเจ้าชู้มาก” หรือป่าว? โดยส่วนตัว เมื่อก่อนก็มีบ้างนะครับ แต่ตอนนี้ถ้าจะใช้คำจำกัดความสำหรับตัวเองว่า “เจ้าชู้” ก็ไม่น่าจะใช่แล้วนะครับ ส่วน“คบไม่ได้ แถมชอบรีดไถ” อันนี้ต้องลองหาข้อมูลดูนะครับว่า ผมคบได้หรือป่าว หรือ เป็นพวกชอบถือเตารีด หรือป่าวนะครับ 5555 ผมเชื่อว่า คำตอบที่ได้น่าจะออกไปในทางบวกนะครับ 5555
ตำรวจอย่างคุณบอกรักผู้หญิงครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
5555 คำถามนี้มีนัยยะอะไรหรือป่าวครับ? เมื่อวานหรือวันนี้ดี คือผมจะบอกรักผู้หญิงทุกวันครับ เรารักเค้าเราก็ต้องบอกรักเค้าทุกวันสิครับ
การปกครองประเทศไทยโดยทหาร มีผลกระทบกับชีวิตตำรวจมั้ย
ถ้าส่วนตัว ไม่มีผลกระทบกับชีวิตผมเลยครับ
ไม่เคยคิดฝันเจาะจงว่าตัวเองจะเกษียณอายุราชการตำแหน่งใดหน่วยไหน
ไม่เคยคิดเลยครับ ว่าจะเกษียณอายุราชการที่สัดกัดใด เกษียณตำแหน่งไหน ยศอะไร จะถูกย้ายไปอยู่ที่ไหน ก็ยอมรับการเปลี่ยนแปลงครับ ไม่ยึดติด คิดแต่ว่าวันนี้เรามีความสุขรึยัง ถ้ามีก็พอแล้ว อยู่กับปัจจุบัน พยายามไม่เครียดครับ ทำงานในหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด ทำในสิ่งที่ตำรวจกองปราบฯ ต้องทำ ในการอำนวยความยุติธรรมให้กับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน ที่เค้าไม่มีที่พึ่งพิง จนต้องดั้นด้นเดินทางมาหาเรา
ไม่เคยคิดจะมีอาชีพเสริมกระทั่งเรียนจบปริญาเอก
เมื่อก่อนไม่เคยคิดนะครับ แต่หลังจากที่เรียนจบปริญญาเอก รัฐประศาสนศาสตร์ ด้านนโยบายสาธารณะ จาก โครงการปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (รัฐประศาสนศาสตร์) คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ รองศาสตราจารย์ ดร.อุทัย เลาหวิเชียร เป็นผู้อำนวยการโครงการแล้ว ก็คิดว่าน่าจะไปเป็นอาจารย์สอนหนังสือตามสถาบันการศึกษานะครับ เป็นการถ่ายทอดความรู้กับประสบการณ์ครับ
ฝากถึงเพื่อนตำรวจ สื่อมวลชนทั่วประเทศค่ะ
เคารพในหน้าที่ของตนเองและผู้อื่นครับ ไม่ว่าจะเป็นในหน้าที่ของตำรวจ สื่อมวลชน หน้าที่ของพลเมืองให้เกียรติยอมรับในความคิดเห็นของกันและกันครับ..
