แม้ศึกลูกหนังไทยลีก 1 ฤดูกาล 2017 ยังไม่ได้รูดม่านปิดฉากลงอย่างเป็นทางการ แต่ทว่า “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่โชว์ฟอร์มได้ร้อนแรง ตลอดทั้งฤดูกาล จนคว้าแชมป์มาครองได้อีกสมัย นับเป็นสมัยที่ 5 สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับสโมสร
ส่วนทีมที่อกหักมากที่สุด ก็คงเป็น “กิเลนผยอง”เอเสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่มี “เจ้าสัวระวิ” ระวิ โหลทอง บิ๊กบอสจากสื่อสยามกีฬา เป็นเจ้าของทีม ด้วยสภาพทีมฤดูกาลนี้จะมากไปด้วยแข้งทีมชาติ ชุดใหญ่ทั้งทีม ยกเว้นแข้งต่างชาติ ซึ่งถูกยกให้เป็นเต็ง 1 ในการคว้าแชมป์ทั้ง 3 รายกาย ทั้ง ไทยลีก, เอฟเอคัพ และ ลีกคัพ แต่สุดท้ายก็ไปไม่ถึงดวงดาว ขณะนี้พลาดไปแล้ว 2 รายการ เหลือให้ลุ้นถ้วย รายการเดียวคือ ลีกคัพ
เช่นเดียวกับ “แข้งเทพ”แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่กลุ่ม “ทรู” เข้ามาเทคโอเวอร์ โดยมี “ขจร เจียรวนนท์” บอสใหญ่ค่ายบียู เป็นประธานสโมสร พร้อมประกาศศักดาจะนำพา “ดาวแชมป์ไทยลีก” มาประดับบนเสื้อแข่งขันให้สมเกียรติ หรือแม้แต่ “กระต่ายแก้ว” บางกอกกล๊าส ยักษ์ใหญ่จากค่าย “สิงห์” จัดให้เต็มพิกัด โดยเฉพาะเรื่องของงบประมาณ
ทีมเหล่านี้ มีศักยภาพสูงมาก โดยเฉพาะเรื่องของงบประมาณ สามารถซื้อนักเตะดังๆ เข้ามาเสริมทีมได้ไม่อั้น แต่อย่างว่า เรื่องอย่างนี้ มีเงินอย่างเดียว หรือมีนักเตะดาวดังแค่ไหน บางครั้งก็ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จเสมอไป ขึ้นอยู่กับวาสนาและโชคเหมือนกัน
ส่วนทีมที่มาแรงมากที่สุด ก็คงเป็น “กว่างโซ้งมหาภัย” เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ฤดูกาลนี้ ร้อนแรงเหลือเกิน เข้าชิงถึง 2 รายการ คือ เอฟเอคัพ กับ แบงค็อก ยูไนเต็ด วันที่ 25 พ.ย. และ ลีกคัพ จะชิงกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด วันที่ 22 พ.ย. ส่วนผลงานฟุตบอลไทยลีก 1 ก็ไม่ธรรมดา ลงเตะ 31 นัด มี 59 คะแนน รั้งอันดับ 4 ของตารางคะแนน อยู่ ณ ตอนนี้
ต้องแสดงความยินดีกับความสำเร็จของ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ ทีมที่กำลังจะคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยทั้ง 2 รายการ และต้องขอแสดงความเสียใจกับทีมที่ต้องตกชั้นลงไปเล่นใน ไทยลีก 2 ฤดูกาล 2018
ก็มีเรื่องทั้งน่ายินดี และน่าผิดหวัง ที่กำลังจะผ่านพ้น ฤดูกาล 2017 ไปแล้ว ขณะเดียวกันก็ยังมีเรื่องที่น่าเศร้าใจสำหรับวงการฟุตบอลเมืองไทย ซึ่งว่าไปแล้วไม่น่าจะเกิดขึ้น ในขณะที่วงการฟุตบอลไทย อยู่ในช่วงขาขึ้น ยิ่งเป็นระดับทีมชาติ ก็ไม่ควรที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้เลย
ล่าสุดมีได้รับการร้องเรียนจาก “แข้งทีมฟุตซอลทีมชาติไทย” เกี่ยวกับเรื่องของเงินเบี้ยเลี้ยง ขณะนี้ยังไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว เริ่มตั้งแต่ การแข่งขัน พีทีที ไทยแลนด์ไฟว์ อินเตอร์คอนติเนนทัล แชมเปี้ยนชิพ 2017 เมื่อวันที่ 9-12 กันยายน ,การแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์ฯ เกมส์ 2017 ที่เติร์กเมนิสถาน วันที่ 17-27 กันยายน และ การแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์อาเซียน 2017 ประเทศเวียดนาม เมื่อช่วงต้นเดือน พฤศจิกายน นี้
เชื่อว่านักกีฬาทุกคน ไม่มีใครรวย เป็นเศรษฐี และมาเล่นกีฬาอย่างแน่นอน หรือถ้ามีก็น้อยมากๆ ดังนั้นเรื่องของ “เงิน” แม้จะไม่ใช่สิ่งสำคัญสูงสุดกว่าการรับใช้ประเทศชาติ แต่ก็มีความสำคัญเช่นกัน เพื่อนำมาเลี้ยงปาก เลี้ยงท้อง และเลี้ยงครอบครัว
ถ้าจะว่าไปแล้ว เรื่องของเงินเบี้ยเลี้ยง ระดับทีมชาติ ไม่ควรที่จะปล่อยให้เกิดขึ้น เงินส่วนนี้หายไปไหน อยู่ในกระเป๋าใคร ใครที่รับผิดชอบเรื่องนี้ หรือ ข้อเท็จจริงประการใด ต้องออกมาชี้แจงให้ นักฟุตซอลทีมชาติไทย และประชาชนให้ทราบด้วย
อย่าคิดว่าเงินแค่นี้ไม่สำคัญ ให้เมื่อไหร่ก็ได้ ขออย่าได้คิดอย่างนั้น ทุกคนทุ่มเทแรงกาย แรงใจอย่างเต็มความสามารถ เพื่อนำความสำเร็จมาสู่ประเทศชาติ ที่สำคัญเงินเบี้ยเลี้ยง ก็เป็นสิ่งที่พวกเขาควรได้ไม่ใช่หรือ….
/ยันแข้ง
