อดีตผมเป็นนักข่าวประจำกองปราบฯเลยได้มีโอกาสสัมผัสกับบิ๊กสีกากีมีชื่อเมื่อครั้งเคยรับราชการอยู่ที่นี่
รุ่นใหญ่ๆหลายคนเกษียณฯ หลายคนยังอยู่บนยอดปิรามิด รุ่นเล็กหลายคนกำลังเปล่งประกายแสงเป็นดาวฤกษ์ บางคนก็เป็นได้แค่ดาวเคราะห์ ดาวรุ่งก็เห็น ดาวร่วงก็ไม่ใช่น้อย
อย่างบิ๊กปู-พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล อดีตรองผบ.ตร. ก็เป็นอีก 1บิ๊กตำรวจที่ผมได้มีโอกาสวิ่งถ่ายรูปทำข่าวมาตั้งแต่สมัยเป็นรองผกก.2 ป.ใหม่ๆ
วันนี้พี่ปูเกษียณฯแล้ว ขอนำเรื่องพระเรื่องเจ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่พี่ปูนับถือ ที่ผมเคยบันทึกไว้เมื่อครั้งเป็นผบช.น.หมาดๆมาย้อนอ่านกันอีกครั้งครับ
มีพระพิฆเนศเป็นเทพคุ้มครองตระกูล
ถึงตอนนี้ เดอะปู-พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพรามหณกุล เป็น ผบช.น.แม่ทัพสีกากีเมืองหลวงคนใหม่ ดูแลทุกข์สุขประชาชนในกรุงเทพมหานคร
ประวัติคร่าวๆ เป็น นรต.35 หลังพ้นรั้วสามพราน เป็นรองสารวัตรอยู่ตำรวจทางหลวง ประตูน้ำพระอินทร์
ฝึกวิชาบู๊บุ๋นอยู่กับคนชื่อเล็กตัวโต – พล.ต.อ.อัยยรัช เวสสะโกศล อดีตรองผบ.ตร. สมัยเป็น รองผบก.ทล.
ก่อนกลายเป็นเด็กก้นกุฎินายตำรวจร่างใหญ่คนนี้ ชนิดอัยยรัช ไปไหน ศรีวราห์ตามไปเป็นขุนศึกคู่ใจด้วยตลอด
ถึงได้ชื่อว่าเป็นมือสอบสวนมือหน่ึง แต่ตำแหน่งที่ผ่านมาอยู่ในไลน์นักสืบมาตลอด
เริ่มจาก สว.ผ.2 กก.2 ปม. สารวัตรสืบสวน บช.ภ.4 สว.ผ.2 กก.5 ป. รองผกก.2 ป. ผกก.สส.ภ.3 รองผบก.อก.ภ.3 ผบก.ปม. ผบก.สปพ.หรือ 191 ก่อนขึ้นเป็นรองผบช.ก.

คดีโนแมนแลนด์ชายแดนไทย-มาเลเซีย คลี่คลายคดีรุกป่าท่าชนะ คดีสินบนป่าสาละวิน เงิน 5 ล้านบาทยัดกล่องมาม่า ฯลฯ
เขี้ยวไม่เขี้ยว สมัยก่อนนักข่าวกองปราบฯแอบเมาท์ ใครโดน ศรีวราห์จับ รับรองติดคุกไปค่อนตัว ไม่ใช่คุยไม่รู้เรื่อง แต่กฎหมายเป๊ะ…
จนเมื่อ ศรีวราห์ ขึ้นเป็น ผบช.น. ออกญาบุรีรัมย์ ไม่รอช้า รีบรุดขอสัมภาษณ์พระเครื่องในคอโดยทันที ขณะยังรักษาการ ผบช.ภ.1
ถึงแม้งานจะเยอะ แต่เมื่อรู้จุดประสงค์ ว่าที่ผบช.น.คนใหม่ให้โอกาสเข้าพบ
“ ที่ใส่ประจำมี พระพิฆเนศ โบสถ์พราหมณ์ องค์เดียว ใส่มาตั้งแต่โบร่ำโบราณ ห้อยมา 20-30 ปีแล้ว สร้างก่อน พ.ศ.2500 มั้ง

เหตุที่ห้อยบูชาเพราะสกุล “รังสิพราหมณกุล” เป็นนามสกุลพระราชทานสายพราหมณ์ ถ้าเปิดสมุดพระราชทานนามสกุลดู จะเห็นตามนั้น
อยากรู้ประวัติต้องไปดูสมุดพระราชทาน นามสกุลอยู่ลำดับที่ 200 กว่า จะมีประวัติตระกูลนี้ เป็นยังไงๆ…..”
พล.ต.ต.ศรีวราห์ ให้รายละเอียดพร้อมถอดพระพิฆเนศในคอที่คล้องออกมาให้ชม
“ออกญาบุรีรัมย์ “ ทำการบ้านมาบ้าง พอทราบว่า “รังสิพราหมณกุล” เป็นนามสกุลพระราชทานลำดับที่ 288
ผู้ทูลขอพระราชทานคือพระครูวามเทพ(หว่าง)เจ้ากรมพราหม์พิธี กระทรวงวัง ต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น พระราชครูวามเทพบดี โดยวันที่ได้รับพระราชทานวันที่13ก.ค..2456

ที่ห้อยเพราะโบราณบอกว่าตระกูลนี้คู่กับพระพิฆเนศ เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ความสำเร็จ
ท่านเป็นเทพที่ดูแลคุ้มครองคนในตระกูลนี้ ถึงเวลาคับขันก็มีคิดถึงท่านบ้าง แต่ไม่เคยบน จะคิดเอง และคิดออกทุกเรื่อง สำเร็จทุกเรื่องด้วย….”
“ พี่นับถือพุทธ แต่เมื่อเป็นตระกูลพราหมณ์ ก็นับถือพราหมณ์ด้วย ส่วนรูปปั้นพระพิฆเนศที่เห็นอันนี้ของบ้านเรา ทำเลียนแบบอินเดีย
นอกนั้นก็เป็นพระประจำวันเกิด มีทุกปาง ไปหล่อเองที่วัดยานนาวา เจ้าอาวาสให้ไปหล่อ ไปเททอง ท่านให้ไปร่วมสร้างเมื่อปี 55 ….”
ว่าที่ผบช.น.พูดดัก เพราะเห็น “ออกญาบุรีรัมย์” เหลือบมองรูปปั้นพระพิฆเนศ 3-4 องค์ที่วางเรียงอยู่ในห้อง
รวมไปถึงโต๊ะหมู่บูชาข้างโต๊ะทำงาน ที่เต็มไปด้วยพระพุทธรูปปางประจำวันเกิดต่างๆ สูงขนาด 2 ฟุต องค์เขียวสนิมหยก วางบูชาอยู่

แม่ทัพสีกากีเมืองหลวงบอกปิดท้าย
Cop’s Magazine Vol.09 No.98 2014.10
เกษียณอายุราชการ ปี62 ตำแหน่งรองผบ.ตร.ก่อนคณะรัฐมนตรี เห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่26พ.ย.62