เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 26 มี.ค.67 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รองผบช.น. พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.น.8 พ.ต.อ.โชติช่วง รัศมี ผกก.สส.บก.น.8
แถลงข่าวจับกุมนายกิตติธัช หรือเน็ต อายุ 33 ปี น.ส.ชญาภา หรือริน อายุ 32 ปี นายกิตติศักดิ์ หรือจอน อายุ 24 ปี นายทวีศักดิ์ หรือปอน อายุ 33 ปี นายอนุสรณ์ หรือเณร อายุ 31 ปี น.ส.วิไลวรรณ หรือนก อายุ 35 ปี
ของกลาง ยาบ้า 5,600,000 เม็ด คีตามีน 200 กก. รถกระบะตู้ทึบ 1 คัน และรถเก๋ง 3 คัน จับกุมได้ที่บ้านเลขที่ xx/179 ซอย 11 หมู่บ้านณัฐนันทโฮม ต.คูขวาง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าตำรวจสืบสวนนครบาล 8 สืบสวนจากกลุ่มผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่ฝั่งธนบุรี จนสามารถจับกุมผู้ค้ารายใหญ่ที่เป็นผู้กระจายยาเสพติดได้ ที่พื้นที่รามอินทรา เมื่อช่วงต้นเดือนมี.ค.67 จากการขยายผลถึงต้นทางยาเสพติดดังกล่าว ทราบว่ามีเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ที่ลักลอบกระจายเสพติดในพื้นที่ภาคกลาง
เป็นแก๊งที่รวมตัวมั่วสุมเสพยาเสพติดกันที่อู่ซ่อมรถ บริเวณถนนพุทธมณฑลสาย 1 ย่านภาษีเจริญ กทม. ลักลอบไปรับยาเสพติดจำนวนมากมาเก็บซุกซ่อนไว้ที่ บ้านเลขที่ xx/179 หมู่บ้านณัฐนันท์โฮม อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี จากนั้นจะใช้รถยนต์หลายคันนำยาเสพติดออกมาทยอยส่งต่อให้กับลูกค้าในช่วงเวลาค่ำและดึก เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกุม
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้สืบสวนเฝ้าติดตามพฤติการณ์เรื่อยมา จนเชื่อว่ามีการใช้รถยนต์กระบะตู้บรรทุกไปรับยาเสพติด และใช้รถยนต์นำระวังเส้นทาง จากพื้นที่ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี แล้วนำยาเสพติดเก็บซุกซ่อนไว้เพื่อรอกระจายยาเสพติดจึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมไปเฝ้าจุดสังเกตการณ์ ที่บ้านเช่าหลังดังกล่าว
ต่อมาวันที่ 24 มี.ค.เวลา 23.00 น. พบกลุ่มผู้ต้องหามาอยู่รวมกันเพื่อจะนำยาเสพติดออกไปกระจายต่อให้กับลูกค้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าไปแสดงตัวและขอตรวจค้น พบยาบ้า 5,600,000 เม็ด และ เคตามีน 200 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์กระบะตู้บรรทุกและภายในบ้านหลังดังกล่าว
สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพ รู้จักกันมานานและรวมตัวกับอยู่ที่อู่ซ่อมรถของนายพงศ์ศักดิ์ หรือเณร เพื่อมั่วสุมเสพยาเสพติด และเริ่มผันตัวเป็นผู้จำหน่ายรายย่อยจนกระทั่งมารับจ้างจากผู้สั่งการ ให้ไปรับยาเสพติดติดจำนวนมากมาเก็บซุกซ่อนไว้ก่อนนำออกกระจายให้กับลูกค้า โดยทำตามคำสั่งผู้ว่าจ้างว่าจะไปรับยาเสพติดที่ใด เมื่อใด และจะต้องส่งยาเสพติดให้กับลูกค้าโดยที่ไม่รู้จักทั้งผู้ส่งและมารับยาเสพติดได้เพียงค่าจ้างเป็นรอบๆเท่านั้น
รรท.ผบ.ตร. กล่าวว่า ยาเสพติดที่จับกุมได้เป็นเครือข่าย “เจ้าเณร” ยาเสพติดมาจากทางภาคเหนือลักลอบนำเข้ามาทาง อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี เช่าบ้านที่อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ซุกซ่อนพักยาเสพติดก่อนกระจายส่งให้ลูกค้าในกรุงเทพฯ พระนครศรีอยุธยา และปริมณฑล
ผู้ต้องหาที่จับกุมได้ทั้ง 6 คน เป็นแฟนกัน 2 คู่ ทุกคนมีประวัติถูกจับยาเสพติด 1 ใน 6 ผู้ต้องหามีหมายจับท้องที่ จ.ระนอง ฐานสมคบฯและสนับสนุน แต่ละคนแบ่งหน้าที่กันทำลำเลียง ส่งยาเสพติด นำยาเสพติดมาเก็บ ได้รับค่าจ้างส่งยาเสพติดลอตละ 2 แสนบาท จากนั้นนำไปแบ่งกัน
เจ้าหน้าที่ต้องขยายผลอายัดทรัพย์สิน และฟ้องผู้ต้องหาเพิ่มโทษเนื่องจากมีประวัติเคยถูกจับคดียาเสพติดมาแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลจับกุมผู้จ้างวาน และผู้ร่วมขบวนการต่อไป
เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน ,ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (คีตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน” ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวนบช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมาย