Wednesday, October 30, 2024
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันสืบนครบาลตามล็อกลุงบ้านออมเงินซุปตาร์เฮเคียว ลวงลงทุนแลกเปลี่ยนเงินตราตปท.

    สืบนครบาลตามล็อกลุงบ้านออมเงินซุปตาร์เฮเคียว ลวงลงทุนแลกเปลี่ยนเงินตราตปท.

    สืบนครบาลรวบนายสมชาย บ้านออมเงินซุปตาร์เฮเคียว หลอกลงทุน “แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ”  ผู้เสียหายอื้อ อ้างลูกสาวขอใช้บัญชี

    วันที่ 19 ก.ค. 66 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.,พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.ฯ พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ ,พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.ฯ, พ.ต.อ.สมบูรณ์ สุขศรีดาวเดือน ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง และ พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ รอง ผกก.สส.3ฯ พ.ต.ต.สัญญลักษ์ สังขะภักดี สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 3/1

    ร่วมกันจับกุมนายสมชาย  อายุ 60 ปี ชาวจ.เชียงใหม่ ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 158/2565 ลงวันที่ 28 มิถุนายน 2565 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อประชาชน”จับกุม ได้ที่หน้า หมู่ 1 ต.บ้านแปะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่

    ตรวจสอบข้อมูลจากฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า นายสมชาย กันทะวงศ์ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับอื่นๆ อีก คือ หมายจับศาลจังหวัดสตูล ที่ 293/2565 ลงวันที่ 19 กันยายน 2565 ซึ่งกระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์”

    พฤติการณ์ เมื่อประมาณ พ.ศ.2563 นายสมชาย และ น.ส.อัจฉราพรรณ (ลูกสาว) ได้ร่วมกันเปิดกลุ่มไลน์ “บ้านออมเงินซุปตาร์เฮเคียว”  ลักษณะคล้ายกับการเล่นแชร์ทั่วไป ต่อมา น.ส.อัจฉราพรรณ ได้สร้างความสัมพันธ์กับคนในบ้านออมเงิน  ใช้ Facebook ชื่อ “Autcharaphan Kanthawong” แอดไปหาผู้ที่ร่วมลงทุนในบ้านออมเงินซุปตาร์เฮเคียว จากนั้น ได้มีการชักชวนผ่านโปรแกรมแชท Messenger ให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และ ให้ผลตอบแทนสูง

    ผู้เสียหายหลงเชื่อ  ได้ร่วมลงทุนกับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน  โอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร นายสมชาย และน.ส.อัจฉราพรรณ แต่ไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่ตกลงกัน  ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 คน อ้างกับกลุ่มผู้เสียหายว่า “เงินถูกธนาคารตรวจสอบ” ต้องเข้าไปชี้แจงที่ธนาคาร ถ้าสามารถนำเงินออกมาได้แล้ว จะนำมาให้กับกลุ่มผู้เสียหาย สุดท้าย รอมา 2 ปี ผู้เสียหายก็ไม่ได้รับเงินคืนและไม่ได้รับผลตอบแทนใดๆ กลุ่มผู้เสียหายมีทั้งคนในประเทศไทย และคนไทยที่อยู่ต่างประเทศ รวมความเสียหายทั้งหมดกว่า 20 ล้านบาท

    จากการสอบถาม นายสมชาย ผู้ต้องหา อ้างว่า น.ส.อัจฉราพรรณ (ลูกสาว) ได้ไปทำงานอยู่ต่างประเทศ ต่อมา ลูกสาวบอกว่า จะเริ่มทำธุรกิจ เป็นการประมูลสินค้า เมื่อได้มาแล้วก็จะนำออกมาขาย ซึ่งจะได้กำไรเยอะกว่าการค้าขายทั่วไป แต่ต้องหาคนมาร่วมลงทุนก่อน และขอใช้บัญชีของนายสมชาย ในการรับโอนเงินคนที่จะร่วมลงทุนและอยู่ในประเทศไทย เมื่อมีเงินโอนเข้ามาแล้ว ลูกสาวจะบอกอีกครั้งว่าให้โอนเงินไปที่ไหนต่อ ซึ่งนายสมชายจะได้ส่วนแบ่งจากเงินที่โอนเข้ามา

    ต่อมา ลูกสาวบอกว่าเงินที่จะนำมาให้ผู้เสียหาย ถูก ป.ป.ง. ตรวจสอบ  ไม่สามารถนำเงินออกมาแจกจ่ายได้ ให้รอก่อน และเมื่อนายสมชาย ทราบว่าตนเองถูกดำเนินคดี ได้หลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ที่ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ กับภรรยา ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร และไม่ออกจากบ้าน เนื่องจากกลัวว่าจะถูกจับกุมอีกครั้ง นำส่งศาลอาญาธนบุรีเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

    พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่าขอแจ้งเตือนไปยังผู้กระทำผิด ว่าท่านไม่สามารถหลบรอดกฎหมาย คนร้ายรายนี้หลบหนีโดยไม่ออกจากบ้านมาโดยตลอด ยังถูกจับกุม และประชาชนหากมีเบาะแสการกระทำความผิด โปรดแจ้งมายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments