พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ สืบสวนนครบาล สืบสวน บก.น.5 นำกำลังบุกจับกลุ่มผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นนักศึกษาอาชีวะสถาบันดัง กว่า 14 ราย ซึ่งรวมตัวกันอยู่ใน “เซฟเฮ้าส์ลับ” ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี หลังตระเวณก่อเหตุยิงคู่อริต่างสถาบันไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง
ล่าสุดก่อเหตุยิง “การ์ดปี 1” ของอริต่างสถาบันเสียชีวิตที่ ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบางขุนนนท์ ปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 37 เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 66 เวลาประมาณ 22.20 น. ควบคุมตัวมาขยายผลที่ สภ.คูคต โดยจะมีการสรุปผลให้ทราบต่อไปhttps://fb.watch/jPqLkEuPwF/
วันที่ 9 เมษายน 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.น.5 , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.ปนาถพล ปุณศรี รอง ผบก.น.5 , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.ศิรณวิชญ์ อินทร ผกก.สส.บก.น.5 , พ.ต.อ.ธรรมศักดิ์ สารบุญ ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.5 , บก.สส.บช.น. และฝ่ายสืบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ
ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหา 14 ราย ดังนี้ 1. นายเชิดชัย หรือคิว อายุ 21 ปี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.133/2566 ลงวันที่ 18 ก.พ.66 2. นายพิชชากร หรือเมฆ อายุ 21 ปี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.132/2566 ลงวันที่ 18 ก.พ.66 3. นายภัทรพล หรือเติร์ด อายุ 20 ปี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.130/2566 ลงวันที่ 18 ก.พ.66 4. นายสหรัฐ อายุ 20 ปี 5. นายรัชชานนท์ อายุ 21 ปี 6. นายอินแสง อายุ 26 ปี 7. นายสิทธิพงษ์ อายุ 21 ปี
8. นายธนพนธ์ อายุ 20 ปี 9. นายธนากร อายุ 22 ปี 10. นายฐิติวุฒิ อายุ 20 ปี
11. นายอธิชาติ อายุ 25 ปี 12. นายอุกฤษณ์ อายุ 20 13. นายกริชศยา อายุ 22
14. นายวัชรนันทน์ อายุ 26 ปี
ตรวจยึดของกลางได้ 4 รายการดังนี้
1.อาวุธปืนลูกโม่ สมิทแอนด์เวสสัน สีดำ จำนวน 3 กระบอก (ตรวจสอบไม่พบทะเบียนปืน)
2.กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 72 นัด (หัวตะกั่ว 26 , หัวทองแดง 12 ลูก , หัวระเบิด 34 ลูก)3.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 14 เครื่อง4.ไอแพด จำนวน 2 เครื่อง
โดยกล่าวหานายเชิดชัย ชาระ ว่า “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน”
โดยกล่าวหานายพิชชากร โพธิ์ดี ว่า “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน”
โดยกล่าวหานายภัทรพล พบศิลา ว่า “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน”
โดยกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 4-14 ว่า “ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยมิได้รับอนุญาต”
พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 66 เวลาประมาณ 22.20 น. เกิดเหตุคนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์และใช้ปืนยิงใส่ นายศตวรรษ (ขอสงวนนามสกุล) เสียชีวิต อยู่ที่บริเวณ ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบางขุนนนท์ ปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 37 แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย จ.กรุงเทพ
จากการตรวจสอบพบว่าผู้เสียชีวิตเป็นนักศึกษาช่างกลของสถาบันดัง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้ให้สืบสวนนครบาลวิเคราะห์ถึงมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุของคนร้ายว่าอาจเป็นเรื่องของ ความขัดแย้งต่างสถาบัน เนื่องด้วยผู้เสียชีวิตนั้นเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ซึ่งมีหน้าที่พิเศษที่ในกลุ่มเรียกกันว่า “การ์ด” ซึ่งว่ากันว่าเป็นหน้าที่สำคัญในหมู่นักศึกษาของสถาบัน
ต่อมา พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. สืบสวน บก.น.5 ลงพื้นที่สืบสวนโดยละเอียดกระทั่ง ได้ทราบถึง “แผนประทุษกรรม” ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะกลุ่มของกลุ่มผู้ต้องสงสัยซึ่งเคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง เคยเกิดเหตุลักษณะนี้มาแล้วในพื้นที่ของ สน.ทุ่งมหาเมฆ เมื่อปี 2565
ได้มีการบูรณ์ร่วมกันระหว่าง กก.สส.บก.น.5 , บก.สส.บช.น. และ ฝ่ายสืบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ สืบสวนติดตามจนกระทั่งสืบทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาแก๊งนี้จะรวมตัวกันที่ “เซฟเฮ้าส์ลับ” ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี
ต่อมาวันที่ 9 เม.ย. 66 เวลา 06.10 น. พล.ต.ท.ธิติฯ นำกำลังเจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น. 5 , บก.สส.บช.น. และ ฝ่ายสืบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ นำหมายค้นศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 243/2566 ลงวันที่ 8 เม.ย. 66 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 49/314 หมู่บ้านบุศรินทร์ ลำลูกกา คลอง 2 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ผลการตรวจค้นพบว่ากลุ่มผู้ต้องสงสัยกำลัง “รวมตัว” กันอยู่ 14 คนภายในเซฟเฮ้าส์ดังกล่าว
จากการตรวจสอบพบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับกว่า 3 ราย เคยก่อเหตุในพื้นที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ เมื่อปี พ.ศ. 2565 และจากการตรวจค้นพบอาวุธปืนเถื่อนกว่า 3 กระบอก ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาทั้ง 14 รายยังไม่ยอมให้การใดๆ และยังไม่ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ว่าปืนทั้ง 3 กระบอกนั้นเป็นของผู้ใด ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 14 คน มาที่ สภ.คูคต เพื่อขยายผลต่อไป
หลังการขยายผลผู้ต้องหา 3 รายที่ถูกจับกุมตามหมายจับ ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนอีก 11 ราย เจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.คูคต ดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยมิได้รับอนุญาต”
พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. กล่าวว่า หลังเสร็จสิ้นการขยายผลแล้ว ผลเป็นอย่างไรจะมีการสรุปและนำเสนอรายละเอียดให้ทราบต่อไป
