เดอะแซ๊ก-พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร รองผบช.น.
ว.0 พิทักษ์1 สงขลามาเมืองชล ก่อนขึ้นฝั่งนครบาล
มีโอกาสไปร่วมงานกลุ่มเพื่อนเรารักกัน เลี้ยงต้อนรับ ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ กลับคืนสู่อ้อมกอดเพื่อนๆอีกครั้ง ที่สโมสรทหารบก เมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา มีรุ่นพี่ชื่อ ขิงแก่ มาถาม นายตำรวจคนที่นั่งอยู่โต๊ะใหญ่วีไอพี คนนี้เป็นใคร หันไปมองนึกได้ คนนี้ล่ะอดีตคนดัง ภาค 9 เดอะแซ๊ก- พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร สายตรง บิ๊กแป๊ะ-พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ที่ตอนนี้มาเป็น รองผบช.น. ส่วนตัว กากีกลาย ไม่รู้จัก แต่เคยให้เดอะชัด- พ.ต.อ.นภัณฑ์วุฒิ เลี่ยมสงวน นักสืบคนดังต่อสายสัมภาษณ์งานให้cop’s magazine เมื่อครั้งนายพลคนนี้เป็นผบก.ภ.จว.ชลบุรี และยังมีเนื้อหาส่วนใหญ่ที่ไม่ได้ตีพิมพ์เก็บไว้ เมื่อ ขิงแก่ ไม่รู้จักมาซักถาม ก็คิดเองว่า หลายคนคงไม่รู้จักเช่นกัน เลยขออนุญาตนำเนื้อหาเส้นทางสีกากีของพี่เขา ที่ยังไม่ได้ตีพิมพ์ที่ไหนมาก่อนมาบันทึกไว้ จะได้รู้ว่านายพลคนนี้ที่มาที่ไปอย่างไร
เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) รุ่น 38 บ้านเดิมเป็นคน อ.บางเลน จ.นครปฐม ก็เรียนหนังสือที่นั่นถึง ป.6 พอ ป.7 ก็เข้ามาอยู่กรุงเทพฯ มาเรียนที่โรงเรียนวัดปริวาส แถวสาธุประดิษฐ์ จบจากวัดปริวาส ก็ไปเรียนวัดมกุฎ แล้วไปเรียนเตรียมทหาร รุ่น 22 นักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 38 ที่ไปเข้าตำรวจ มีที่มาเพราะเดิมที ไม่ได้ชอบตำรวจแต่แรก เดิมที่บ้านมีรถบรรทุกทราย ที่สาธุประดิษฐ์ ถูกตำรวจจับอยู่เรื่อย เลยคิดว่าวันหลังจะไปเป็นนายร้อยบ้าง อันนั้นเป็นความคิดตอนเด็กๆ แต่จริงๆ ก็ชอบเพราะเห็นตำรวจออกข่าว ออกทีวี แล้วก็ช่วยเหลือประชาชน เป็นความใฝ่ฝัน ได้เห็นตำรวจจราจรโบกรถ ก็อยากทำงานตรงนั้น แล้วก็ชอบดูหนังเกี่ยวกับสืบสวนสอบสวนด้วย พวกหนังฝรั่ง เจมส์บอนด์ อะไรพวกนี้
พอเรียนจบมาก็ลงไปที่โรงพักหาดใหญ่ เป็น รอง สว.สส.โรงพักหาดใหญ่ เป็นหัวหน้าสายสืบ หลังจากนั้นพอปี 2534 ไปเป็น สวป.อยู่ที่โรงพักสะเดา เป็นสารวัตรหัวหน้าที่ปาดังเบซาร์ หลังจากนั้น ไปเป็น รอง ผกก.ป. โรงพักสะเดา ไปเป็น เป็นรองผกก.สืบภาค9 ก่อนจะขึ้นเป็น ผกก.สะเดา ผกก.อำนวยการ ผกก.สืบ จ.สงขลา รู้สึกจะปี 2550 แล้วพอปี 2551เป็นรองผู้การสืบภาค9 เป็นหัวหน้าศูนย์สืบภาค9 เป็นผู้การสงขลา ปี 57 ชีวิตก็อยู่สืบสวนมาตลอด ไอดอลนักสืบจริงๆ ก็ตั้งแต่สมัยที่พี่มาทำงานกับผู้ใหญ่มาทำคดีศักดิ์ ปากรอ ฆ่า 5 ศพตระกูลบุญทวี ตอนนั้นยังเป็นสารวัตรสืบภาค 9 อยู่ ผ.3 คดีฆาตกรรม กก.สส.ภ.9 เห็นท่านวรรณรัตน์ คชรัตน์ เป็นครู เป็นตัวอย่างในการวางแผนสืบสวน ซึ่งก่อนหน้านั้นก็ไปตามหน้างานเฉยๆ
ตอนเป็นรอง สว.สส.ทำคดีสอบสวนแล้วก็สืบสวนจับกุมไปด้วย ชอบบู๊อยู่แล้ว สอบเอง สืบเอง จับเอง กระทั่งมาเห็นท่านวรรณรัตน์ ที่มาสอนแล้วเป็นหลักการ เป็นวิชาการมากขึ้นเลยชอบ หลังจากนั้นจะอยู่สืบมาตลอด นอกจากท่านวรรณรัตน์ ก็มีท่านภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา พี่อ๊อด แกเป็นสุภาพบุรุษ ชอบเพราะรุ่นพี่ๆ จะพูดถึงตลอด ผมได้สัมผัสตอนที่ได้ไปอยู่ที่ จ.น่าน ตอนนั้นย้ายจากสะเดาไป ท่านโกวิท บอกว่าอยากให้ไปสัมผัสชีวิตทางภาคเหนือบ้าง ก็ไปเจอพี่ภาณุพงศ์ พี่เขาเป็น ผบช.ภ.5 ท่านก็เมตตากรุณาตลอด แต่ก็สืบมันอยู่ในสายเลือด ตอนเด็กๆ จะมีก็พี่คัชชา ธาตุศาสตร์ พี่แอ้ด ตอนเป็นรอง สว.คุมสายสืบ โรงพักหาดใหญ่ ผมเป็น รอง สว.สืบสวนสอบสวน แกก็เป็น สวป.คุมสายตรวจ สายสืบ หลังจากแกย้ายไป ผมก็ได้ขึ้นเป็นหัวหน้าสายสืบหัวหน้าโรงพักหาดใหญ่ คดียิงอาบู โจรมาเลย์ปล้นแบงก์หาดใหญ่ที่พี่คัชชา วิสามัญฯผมก็อยู่ด้วย เป็นพนักงานสอบสวน ตอนนั้น ทำคดีอุกฉกรรจ์เยอะมาก คดีปล้น ฆ่า คดีสำคัญ ก็ทำเยอะมากเลยสมัยก่อน
แต่หลังๆ ก็จะเป็นคดีระเบิดหาดใหญ่ ระเบิด 7 จุด เป็นคดีความมั่นคง ผมเป็น ผกก.สืบ แล้วก็มีคดีที่ขับรถเอาศพเอกยุทธ ไปฝังที่พัทลุง ก็เป็นจุดที่เราได้ข้อมูล เลยได้ตัวพวกที่เอาไปฝัง คดีนี้ ประสานกับ ชัช พ.ต.อ.นภันฑฺวุฒิ เลี่ยมสงวน เพื่อนร่วมรุ่น ก็หลายๆ เรื่องนะ เอาเท่าที่นึกออก คดีปล้นทอง คดีจับเรียกค่าไถ่ คดีฆ่านักการเมือง ท่านพีระ นายก อบจ.สมัยที่พี่ต้อย-พล.ต.ท.พิสิฎฐ์ พิสุทธิศักดิ์ เป็นผบช.ภ.9 อยู่ที่ใต้นักเลงเยอะ แต่ต้องรู้ทัน เอาให้อยู่ จริงๆไม่มีอะไร แต่เขาชอบยิงด้วยอาวุธสงคราม แล้วก็มีขัดกันเรื่องการเมืองท้องถิ่น มีบ้าง ส่วนใหญ่จะรู้ตัว เพราะมีประวัติ หรือคลุกอยู่กับพวกนี้อยู่แล้ว และจะรู้ว่าพวกนี้มีใครเป็นลูกน้องบ้าง เราจะศึกษาอยู่แล้ว และมีประวัติพวกมือปืนรับจ้างที่เราทำไว้ที่ภาค แล้วจะโยงกับภาค 8 มันก็เลยรู้หมด ส่วนที่ไม่รู้เป็นมือปืนเด็กๆ ก็อาจจะเฉพาะหน้า ส่วนใหญ่ถ้าอยู่กับคนดังๆจะรู้ ไม่ยาก ส่วนใหญ่จะตามจับได้หมด หรือถ้าจับไม่ได้แต่ก็จะรู้ว่าเป็นใคร
มาอยู่เมืองชล เป็นเมืองที่มีความเจริญ มีความหนาแน่นด้านเศรษฐกิจ นักท่องเที่ยวจะเยอะ สถานบันเทิงค่อนข้างเยอะ พี่แป๊ะ จักรทิพย์ ชัยจินดา ให้มาก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่อาจคิดว่าให้ผมมาช่วยด้านอาชญากรรม อะไรอย่างนี้ ที่เป็นห่วงก็เรื่องยาเสพติด จับ 6 แสน 5 แสน 5 หมื่น 3 หมื่น 2 หมื่น มันเยอะ เป็นห่วงอนาคตเยาวชน มันแพร่ระบาดเยอะ ผมก็เอาโครงการของพี่แป๊ะ สมัยเป็นผบช.ภ.9 เอามาทำต่อ ก็มีโครงการปักกลด คือ หมู่บ้านปลอดยาเสพติด หมู่บ้านละเดือน ทุกโรงพักให้เอาหมู่บ้านที่มียาเสพติด แล้วลงไป เหมือนปักกลด ไม่ใช่พระลงไปแผ่เมตตา เหมือนล้อเลียน จริงๆ คือ ลงไปทำให้เป็นหมู่บ้านสีขาว ปลอดยาเสพติดตามนโยบาย ให้คิดว่า ผู้เสพ เป็นผู้ป่วย ก็เอาไปบำบัดให้หมด ค้ารายย่อย ก็ล่อจากรายเล็กไปรายใหญ่ ไม่มีที่ไหนผลิตมาเม็ดเดียวหรอก ก็ต้องอาศัยความขยัน อดทน แล้วก็การข่าว ก็ต้องขอบคุณผู้ใต้บังคับบัญชาทุกโรงพักเลย คนชลบุรีก็น่ารัก ให้ความร่วมมือช่วยเหลือตำรวจดีมาก เพราะพี่ๆ รุ่นก่อนสร้างไว้เยอะตั้งแต่พี่อัศวิน ขวัญเมือง พี่วินัย ทองสอง พี่คัชชา ธาตุศาสตร์ ผู้ใหญ่เก่าๆ ทำไว้ดี ความร่วมมือดี เขาเลยแฮปปี้กับตำรวจ ไปขอความร่วมมือที่ไหน เขาจะช่วยเหลือ ประกอบกับที่นี่เศรษฐกิจดีด้วยอะไรที่ช่วยสังคมได้ เขาจะมาเลย ต้องขอบคุณมากๆ
ก็มีโครงการหลายโครงการที่จะประชาสัมพันธ์ เช่น โครงการตำรวจมาแล้ว ผมจะใส่เสียงประชาสัมพันธ์ การดูแลบ้านตัวเอง ต้องปิดไฟ ปิดบ้าน อย่าเอาของมีค่าไว้ในรถ การโจรกรรมรถจักรยานยนต์ ดูแลหน้าบ้านตนเอง การจราจร จอดรถ ก็เอารถแดง เหมือนรถขายยา อัดสปอร์ตเทปไว้ วิ่งเหมือนรถเร่ ก็จะทำให้ประชาชนเขาก็มองเห็นแล้วก็คิดว่าแปลกดี เหมือนตำรวจไปเตือน ตามที่ชุมชน ตามหมู่บ้าน ช่วยประชาสัมพันธ์ มันก็จะช่วยได้เยอะ อยากให้ดูเป็นตัวอย่าง ทำให้ชาวบ้านเขามองเห็นว่า ตำรวจเอาใจใส่ ก็ทำให้ประชาชนมองว่าเราสนใจ ผมก็คิดอะไรใหม่ๆ มาเรื่อย แม้แต่รูปภาพของผมข้างล่าง ก็ไหว้พี่น้องประชาชน เราไปธนาคาร ไปจ่ายค่าโทรศัพท์ เขายังไหว้เราก่อน แล้วถามว่าตำรวจเรา ถ้าคนที่เขามาเดือดร้อนมา แล้วเราไหว้เขาตลอด เชิญเขานั่ง มันเป็นตัวอย่างว่า คุณไหว้ชาวบ้านบ้าง ให้ตำรวจดูว่าผมก็ทำ แล้วคุณอยู่บนโรงพัก คุณไม่ได้ใส่หมวกอยู่แล้ว มันเสียหายตรงไหน มันเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ตามนโยบายของ ผบ.จักรทิพย์
ถือว่าเป็นไกด์ไลน์ให้รู้จักเดอะแซ๊ก –พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร รองผบช.น.ให้ตำรวจนครบาลและคนกรุงเทพฯได้รู้จักนายพลสายตรงบิ๊กแป๊ะคนนี้มากขึ้น
กากีกลาย 31/1/60
