เป็นตำรวจ จะทำงานได้ดีไม่ดีส่วนหนึ่งอยู่ที่ขวัญกำลังใจ
สะเทือนใจกับคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายวงการสีกากี ตำรวจกองปราบหอบเอกสารขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน เมื่อ ร.ต.ท.ศรีสรรเพชญ์ กมลศรี รองสารวัตรปราบปราม กองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม ซึ่งเหลืออายุราชการอีกเพียง 1 เดือน จะเกษียณ ถูกย้ายข้ามห้วยจาก กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก) ไปสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เป็น รองสารวัตรปราบปราม สน.พระราชวัง ตามคำสั่ง ตร.ที่ 599/2559 ลงวันที่ 13 สิงหาคม 2559
26 ปี ที่อยู่กองปราบมา มีความผูกพันและอยากจะยุติอาชีพรับราชการให้เป็นเกียรติกับวงศ์ตระกูล
เมื่อถูกย้าย ย่อมมีผลกระทบกับเงินบำเหน็จบำนาญ
“เรื่องนี้ส่งผลกระทบกับผมทั้งในด้านขวัญกำลังใจและเกียรติยศตลอดชีวิตที่รับราชการมากว่า 30 ปี เพราะผมตั้งใจเป็นอย่างยิ่งที่จะเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ร่วมพิธีเกษียณอายุราชการของกองบังคับการปราบปราม เพื่อเป็นเกียรติประวัติในชีวิต สำหรับหน่วยงานแห่งนี้แล้วผมได้รับราชการมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ตั้งแต่เป็นตำรวจชั้นประทวน กระทั่งได้เป็นนายตำรวจสัญญาบัตรแบบเลื่อนไหลเมื่ออายุครบ 53 ปี ตามเกณฑ์”
หมวดศรีสรรเพชญ์ เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชนกองปราบ การรับอาชีพราชการตำรวจ ของหมวดศรีสรรเพชญ์ ยังได้รับเครื่องราชย์ จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย (จ.ม.) เมื่อปีที่2548 ที่ผ่านมา
“การพิจารณาเสนอชื่อผมออกจากตำแหน่งครั้งนี้ เหมือนให้ผมเกษียณลอย เพราะมีผลต่อเรื่องบำเหน็จบำนาญ และสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับภายหลังเกษียณอายุราชการไปแล้ว เนื่องจากระยะเวลา 1 เดือน กับต้นสังกัดใหม่ของคงไม่สามารถจัดทำเอกสารและเดินเรื่องให้ทันอย่างแน่นอน”
หมวดศรีสรรเพชญ์ อธิบาย ที่ผ่านมา มักไม่ค่อยมีใครถูกย้ายเมื่ออายุราชการเหลือเพียงเดือนสุดท้าย “เรื่องนี้ถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี แล้ว” ความอัดอั้นตันใจพรั่งพรู เนื่องจากได้รู้ล่วงหน้ามาแล้วว่าจะถูกย้าย เขาเดินเรื่องขอความเป็นธรรมมาอย่างต่อเนื่อง
“ก่อนหน้านี้ผมได้ขอเข้าพบ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.เพื่อสอบถามกรณีที่เกิดขึ้นกับผมแล้ว แต่ก็ได้รับคำตอบเพียงว่าเรื่องนี้เป็นการพิจารณาจากต้นสังกัดของผม เป็นผู้เสนอรายชื่อ ส่วนวิธีการที่พอดำเนินการได้คือการทำเรื่องให้มาช่วยราชการที่กองบังคับการปราบปราม ซึ่งผมยืนยันว่าจะขอให้ถอนคำสั่งเท่านั้น เพราะการช่วยราชการก็ไม่มีผลแต่อย่างใด เป็นเรื่องที่กระทบต่อทั้งเกียรติประวัติ และเรื่องของบำเหน็จบำนาญที่ตนควรได้รับเพื่อวางแผนชีวิตหลังเกษียณ”
อีกด้านหนึ่ง เมื่อสอบถามไปยัง พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ผู้กำกับการ 6 บก.ป.ซึ่งถือว่าเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของ หมวดศรีสรรเพชญ์ ได้รับคำตอบกลับมาสั้นๆว่า “เขาไม่ค่อยทำงาน”
เรื่องเล็กจะเป็นเรื่องใหญ่ หรือเรื่องราวจะบานปลาย ต้องจับตาหลังจากนี้ว่าจะมีคำสั่งให้ยกเลิกหรือไม่ แต่แน่นอนว่า เดือนสุดท้ายในชีวิตราชการของหมวดศรีสรรเพชญ์ ได้เปลี่ยนไปแล้วจะมองหน้าผู้บังคับบัญชา “ติด” สนิทเหมือนเดิมหรือไม่ คือคำถาม ความเป็นธรรมที่ต้องการจะมีผลลัพธ์อย่างไร ขวัญกำลังจะสำคัญหรือไม่ โปรดรอรับชมด้วยความระทึกยิ่ง
