Monday, November 11, 2024
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันเอาจริงแก๊งหลอกขายรางวัลที่1

    เอาจริงแก๊งหลอกขายรางวัลที่1

    กองปราบฯร่วม ปปง. เปิดปฏิบัติการตรวจค้นยึดทรัพย์ 10 จุด แก๊ง 3 พี่น้องพุ่มกระจันทร์ หลอกขายล็อตเตอรี่ รางวัลที่ 1 พบทำมาตั้งแต่ปี 42 ถูกจับแล้วประกันตัวออกมาทำซ้ำ ผลการตรวจยึดได้ทรัพย์ล้านกว่าบาท รวมทั้งบ้านและรถยนต์อีก 5 คัน ยังเหลือหัวโจกพี่ชายแก๊งพุ่มกระจันทร์ อีกคนยังหลบหนี


    เมื่อเวลา 05.00 น.วันที่ 25 ม.ค.ที่ กองปราบปราม พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. สั่งการ พล.ต.ต.ชาญ พิมลศรี รองผบช.ก. พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป.พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย รองผบก.ป.พ.ต.อ.นิรันดร์ ปิตะกาศ ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.วิวัฒน์ จิตโสภากุล พ.ต.ท.อนุชา ธนอุดม รองผกก.3 บก.ป.  พร้อมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ง. รวม 60 นาย  บุกเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 10 จุดในพื้นที่ กทม. นนทบุรี และสมุทรปราการ  อยู่ในเครือข่ายของแก๊งพี่น้องพุ่มกระจันทร์ คือนายเสนาะ พุ่มกระจันทร์ อายุ 51 ปี นายโกวิท พุ่มกระจันทร์ อายุ 48 ปี และนายฉัตรเกียรติ พุ่มกระจันทร์ อายุ 52 ปี แก๊งปลอมลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 หลอกขายเหยื่อ เพื่อตรวจยึดทรัพย์สินที่ได้จากการหลอกผู้เสียหายในคดีดังกล่าว


    พ.ต.ท.วิวัฒน์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหากลุ่มนี้กองปราบปราม ใช้เวลา 5 เดือน ออกสืบสวนหาเบาะแส จนสามารถจับกุม นายเสนาะ และนายโกวิท พุ่มกระจันทร์ ได้ที่ห้องแบ่งเช่า ในจ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 11 ม.ค. ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังจับกุมนายสุรพล เสือพาย นายสุทธิศักดิ์ ธรรมสังวาล ที่อยู่ในเครือข่าย  ขณะนี้ยังเหลือเพียงนายฉัตรเกียรติ พุ่มกระจันทร์ อายุ 52 ปี หนึ่งในสามพี่น้อง ที่ยังหลบหนี โดยผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นพี่น้องกัน ที่ร่วมกับเครือข่ายที่มีอยู่ประมาณ 20 คน ออกตระเวนหลอกเหยื่อไปทั่วประเทศ เท่าที่ตรวจสอบพบเริ่มก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2542 มูลค่าความเสียหายประมาณ 100 ล้านบาท


    พ.ต.ท.วิวัฒน์ กล่าวอีกด้วยว่า ที่ผ่านมากลุ่มผู้ต้องหาถูกจับกุมมาแล้วหลายครั้ง แต่ขณะนั้นยังเป็นความผิดเพียงฐานฉ้อโกง  บางครั้งยอมความกันได้  หลังจากประกันตัวออกมาแล้วจะร่วมกันก่อเหตุอีก เมื่อถูกจับกุมไม่เคยเข็ดหลาบ พล.ต.ท.ฐิติราช สั่งการให้ประสานเจ้าหน้าที่ ป.ป.ง. แจ้งความผิดฐาน  “ฉ้อโกงจนเป็นกิจธุระ” เข้าข่ายฐานมูลความผิดตามพรบ.ฟอกเงิน  เพื่อจะได้ยึดทรัพย์สินผู้ต้องหา พร้อมกับเอาผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงและความผิดร่วมกันฟอกเงิน จึงได้ส่งกำลังติดตามตรวจ ยึดทรัพย์สินต่างๆ ที่เชื่อได้ว่าน่าจะได้มาจากการทำความผิดดังกล่าวด้วย

    สำหรับผลปฏิบัติการครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยึดของกลางทรัพย์สินชนิดต่างๆ เช่น สร้อยคอทองคำ พระเลี่ยมทอง แหวนทองคำ นาฬิกา มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท นอกจากนี้ยังตรวจยึดบ้านและ รถยนต์ อีก 5 คัน รวมทั้งสมุดบัญชีเงินฝากของกลุ่มผู้ต้องหามาตรวจสอบ พร้อมกับแจ้งข้อหาร่วมกันฟอกเงินกับกลุ่มผู้ต้องหาด้วย

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments