วันหยุดยาวต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา บ้านอิต่อง ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ดินแดน 399 โค้ง เนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวที่เอาร่างกายมาสัมผัสความหนาวเย็นในหุบเขา รวมทั้งท่องไปตามจุดท่องเที่ยวต่างๆ อาทิ จุดชมวิว เนินช้างศึก ฐานปฏิบัติการ ตชด.135 น้ำตกจ๊อกกระดิ่ง
แต่ที่พักกลับไม่เพียงพอต่อจำนวนนักท่องเที่ยวที่เริ่มเข้ามา และไม่สามารถสร้างเพิ่มเติมได้ เพราะอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ ทองผาภูมิ
ปิล็อก1-พ.ต.ท.ชยุตม์ พิพัฒน์ทวีกุล สว.สภ.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส ใช้สื่อโซเชี่ยลประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวเข้ามานอนที่โรงพัก กางเต๊นท์ที่สนามหญ้าหน้าแฟลตตำรวจ ได้ฟรี
สะดวกสบายเพราะมี ห้องน้ำรวมของโรงพัก ทำเป็นห้องน้ำเพื่อประชาชน สะอาดสะอ้านและมีทางลาดสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ บริการฟรี แต่จะมีกล่องบริจาคแล้วแต่นักท่องเที่ยวจะศรัทธา
ไม่เท่านั้น พ.ต.ท.ชยุตม์ ยังปรับภูมิทัศน์ด้วยการนำพันธ์ดอกไม้เมืองหนาว อาทิ ลิลลี่ มาปลูกทั่วบริเวณโรงพัก กลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของ ปิล็อก
“ปิล็อก นี่เป็นโรงพักเล็กที่สุด มี 4 หมู่ คือบ้านอีต่อง อีก 3 หมู่อยู่ในเขื่อนวชิราลงกรณ์ ลำบากมาก ต้องเอาสิ่งที่คนบริจาคไปมอบให้
ตำรวจโรงพักนี้มีทั้งหมด 26 คน มาใหม่ทีแรก ผมคุยกับตำรวจว่า รัฐบาลให้งบเรามาเดือนละเกือบล้าน คนละ 3-4 หมื่น แต่ปีหนึ่งมีคดี 2 คดี คือคดีป่าไม้ ถ้ามาคิดเป็นบริษัทเอกชนโดนยุบแล้ว ต้องปรับ ตอนนี้ ตร.เน้นเรื่องภาพลักษณ์บริการประชาชน….”พ.ต.ท.ชยุตม์เริ่ม
ผมก็คิดว่า อากาศที่นี่เหมือนเชียงใหม่ แต่ใกล้มากกว่า หนาวทั้งปี เย็นทั้งปี ทำไมไม่พัฒนาตรงนี้ เป็นแหล่งท่องเที่ยว ก็คิดตั้งแต่ผมขึ้นมาครั้งแรกปี 2535 เป็น ร.ต.ต.ใหม่ๆ อยู่ทองผาภูมิ
สมัยก่อน ปิล็อก ขึ้นกับทองผาภูมิ ยังไม่มีพนักงานสอบสวน ก็แค่คิดเฉยๆ พอปี 2554 เป็น พ.ต.ท.แล้วเป็นหัวหน้าสถานีที่นี่ ก็มาคิดตรงนี้อากาศมันดี ทำไมเราไม่พัฒนาให้ชาวบ้านมีรายได้ ไม่ใช่เหลือแค่คนแก่เฝ้าหมู่บ้าน หนุ่มสาว เข้าไปอยู่กรุงเทพฯ หมด
เลยทดลองว่า น่าจะปลูกดอกไม้เมืองหนาวได้ ก็ไปลองจากศูนย์เพาะพันธุ์พืช ไปหาซื้อดอกไม้ พันธุ์ดอกไม้เมืองหนาว ไปทั้งจตุจักร ไปทั้งเมืองทอง บางใหญ่ ไปหาหมด จนกระทั่งมาเจอที่ศูนย์เพาะพันธุ์ไม้เลี้ยง เขาสั่งมาจากฮอลแลนด์
อยากให้บูมเหมือนเชียงใหม่
ผมก็ไปบอกเขาว่า อยากทำปิล็อกให้เป็นเมืองท่องเที่ยว อยากทำให้บ้านเกิดผม เหมือนเชียงใหม่ ก็ซื้อดอกไม้เมืองหนาว พวกลิลลี่ แกนคูรัส สั่งจากฮอลแลนด์ สั่งเผื่อผมหน่อย ตอนนั้นลิลลี่ 35 บาท แกนคูรัส 10 บาท ผมก็ทดลองสั่งมาก่อน ปีแรกผมสั่งมาใช้เงินไป 2 หมื่นกว่าบาท สั่งไป 2,000 หัว ทดลองก่อน ปรากฏว่า ดอกใหญ่มาก ลิลลี่ นี่ ต้นละ 4 ดอกๆ ใหญ่มาก
นทท.เริ่มรู้จักมากางเต๊นท์นอน
แล้วตั้งเพจตำรวจ นักท่องเที่ยวก็เริ่มรู้จัก มากางเต็นท์หน้าโรงพัก เริ่มปี 2554 จากที่คนไม่รู้ว่าปิล็อก อยู่ตรงไหนของประเทศไทย ผมก็มาปลุกระดมลูกน้อง เราต้องสร้างจุดขาย ยิ่งตอนนี้ ตร.มีนโยบายยกระดับการบริการประชาชน สร้างภาพลักษณ์ที่ดีของตำรวจ พื้นที่เราไม่มีคดีทำไมเราไม่พัฒนาเรื่องแหล่งท่องเที่ยว ดึงชาวบ้านเข้ามาสัมผัสสิ่งที่ดีๆ ของตำรวจ มาสัมผัสดอกไม้เมืองหนาว
พยายามดึงดูดให้เขาเข้ามา ต้องทำยังไงให้เขารู้ ก็เริ่มให้เขามากางเต็นท์ พอลองมากางเต็นท์ เออ เข้าท่า คนเริ่มรู้จัก ปี 2555 ก็สั่งดอกไม้เมืองหนาวมาปลูกเต็มพื้นที่
ขอเป็นหินก้อนเล็กถูกเขวี้ยงลงในน้ำ
ถือว่าครั้งหนึ่งในชีวิต เราเป็นคนเมืองกาญจน์ ทำไมเราไม่พัฒนาตรงนี้ ถ้าชาวบ้านเขามีรายได้ คดีก็ไม่เกิด เราจะอยู่เย็นเป็นสุข แล้วอีกอย่างเราต้องการสร้างภาพลักษณ์ตำรวจเราให้ดีด้วย ในเมื่อทุกวันนี้ภาพลักษณ์ตำรวจเราแย่ แม้จะแก้ไม่ได้ แต่เราก็อาจเป็นก้อนหินก้อนหนึ่ง ที่ขว้างไปในบ่อน้ำ มันก็กระเพื่อม แม้จะเป็นจุดเล็กๆ แต่เราก็สามารถจะทำให้มันดีขึ้นได้บ้าง ถึงแม้จะแก้โดยภาพรวมไม่ได้
ถูกย้าย3ปีครึ่ง ต้องกลับมาเริ่มใหม่ปี59
ปลายปี 2555 โดนย้ายไปเป็นสารวัตรสืบ อยู่หนองขาว 3 ปีครึ่ง มีช่วงจังหวะที่ผมรู้จักนาย ผมขอกลับไปอยู่ปิล็อกอีกครั้ง เพราะอยากทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้คนรู้จักทั่วประเทศ เพราะเคยทำไว้ครึ่งๆ กลางๆ กลับมาอีกที จะทำให้มันดังให้ได้
กลับมาอีกทีปี 2559 มาทำสิ่งที่ได้ทำครึ่งๆ กลางๆ ไว้ แล้วมาดังเต็มที่ปี 2559-2560 ไม่เกี่ยวกับทำเพราะชอบหรืออยากมีธุรกิจ แต่ทำเพื่อบ้านเกิด เราเป็นคนเมืองกาญจนครั้งหนึ่งในชีวิตเราขึ้นมาอยู่ในจุดที่สามารถทำคุณประโยชน์ให้บ้านเกิด ก็จะทำ ผมใช้ทุนส่วนตัวนะ หมดไป 4-5 แสนแล้ว ที่บ้านผมมีธุรกิจบ้านเช่าในเมือง แล้วก็มีบริษัท รปภ.
ให้คนเห็นมุมดีๆของตำรวจ
คราวนี้ผมปรับปรุงโรงพัก เริ่มปลูกดอกไม้เมืองหนาว เน้นเรื่องการท่องเที่ยว ให้คนเข้ามาสัมผัสมุมดีๆ ของตำรวจเรา เพราะธรรมดาคน ไม่อยากเข้าโรงพัก แต่เราจะทำให้เขาเข้ามาเห็นมุมดีๆ ของตำรวจ ถ้าไม่ดึงเขาเข้ามา เขาจะมีอคติกับตำรวจตลอด
ก็พยายามปรับตรงนี้ จนกระทั่งชาวบ้านเขาเข้ามา เห็นห้องน้ำบริการประชาชนที่สะอาด แล้วก็มีที่พักที่นอน รถเสีย หรืออะไร เราดูแลให้หมด บ้านผมให้เข้าได้หมด พักที่นี่ได้เลย บ้านหลังใหญ่ มีห้องน้ำ เราก็บริการ บางครั้ง หน้าระเบียงบ้านพัก หน้าฝน กางเต็นท์ไม่ได้ มีทากเยอะ
แนะอยากเห็นหมอก ต้องมาหน้าฝน
ที่นี่จะเที่ยวได้ที่เป็นไฮไลท์ คือหน้าหนาวกับหน้าฝน ใหม่ๆ หน้าหนาวเป็นไฮไลท์ แต่ตอนนี้ผมมาโปรโมทให้หน้าฝน เป็นช่วงเวลาท่องเที่ยวอีก ผมพยายามจะลงเพจของโรงพักตลอด เพราะประชาชนเข้าใจผิด คิดว่าปิล็อก หน้าหนาวจะมีหมอก แต่ที่นี่ หน้าหนาวไม่มีหมอก จะมีเฉพาะหน้าฝน เพราะที่นี่ลมแรง อยู่ที่สูง
จ่อบูมแหล่งเที่ยวใหม่อีก 3 หมู่อยู่ในเขื่อน
แล้วนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นคนไทย มาจากทั่วประเทศ จากอีสาน เหนือ ใต้ ตะวันออก มาชมธรรมชาติ อากาศที่นี่ดีมาก ธรรมชาติยังบริสุทธิ์ แม้ทางยังมาลำบาก แต่เขาก็ดั้นด้นมากัน ผมสงสารเขา เวลาเขาไม่มีที่พัก ที่พักไม่พอ ที่มันขยายไม่ได้เพราะตรงนี้ ป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ คือให้เช่าอะไรก็ไม่ได้ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว
ตอนนี้ผมจะไปโปรโมททางนั้น ในน้ำด้วย เพื่อกระจายรายได้ให้อีก 3 หมู่ที่อยู่ในอ่างเก็บน้ำ ผมกำลังโปรโมท มีพระธาตุกลางน้ำ ทำเป็นแหล่งท่องเที่ยว มีพระธาตุเก่าแก่อยู่ที่บ้านโบอ๋อม ไปพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว
รับเป็นสะพานบุญส่งของบริจาค
ทุกวันนี้ผมจะเป็นสะพานบุญ นักท่องเที่ยวที่มาบริจาคโรงเรียน ตชด.ผมก็จะนำไปให้เพราะตรงนี้เหลือเฟือแล้ว แต่เด็กที่อยู่ที่อ่างเก็บน้ำยากจน ผมก็รับเอาไปให้ ซื้อไอติมไปให้ ไปแจกเด็กยากจน น่าสงสาร
นี่ผมกำลังจะพานักเรียน ครูแดร์ ไปดูงานที่เมืองกาญจน์ พาไปเที่ยวสวนน้ำ เพราะเด็กยากจนด้อยโอกาส เพราะว่า ครูแดร์ ของผม พาไปดูที่ทองผาภูมิ ก็ดูฟรี คือเด็กพวกนี้คือเราเข้าใจ เพราะเราก็เคยเป็นเด็กยากจนมาก่อน พาไปเที่ยวสวนน้ำ ประมาณ 60 คน จาก 4 โรงเรียน
เสาร์อาทิตย์คนแห่เที่ยว
นอกจากสภาพอากาศที่ดี จุดที่คนมาเที่ยว ก็มีไฮไลท์คือ เนินช้างศึก น้ำตกจ๊อกกระดิ่น สวย น้ำมีตลอดปี แล้วเย็น เขาช้างเผือก ปีหนึ่งเปิด 2 ครั้ง ที่ว่าเดินบนสันเขา เที่ยวน้ำตก นั่นแหละ มาเต็มเลย เสาร์ อาทิตย์ จองกันเต็มหมด
“แล้วที่เป็นไฮไลท์อีกอย่างคือ ป้าแหม่ม ที่มีเค้กอร่อยๆ แฮนด์เมด เป็นไฮไลท์ของที่นี่ แล้วก็ธรรมชาติ หน้าฝนสวย มีหมอก อากาศเย็นตลอด เมืองในหุบเขา มาหน้าฝน 18-19 องศา หมอกขาวโพลนทั้งวัน เที่ยง บ่าย
จากที่นี่ เข้าเมืองกาญจน์ 200 กิโลฯ 4 ชั่วโมง เพราะว่าตรงนี้ทางมันโค้งสั้น ขับเร็วไม่ได้ หลุมเยอะด้วย ต้องค่อยๆ ไป แล้วจากนี่ไปทองผาภูมิ 65 กิโลฯ จากทองผาภูมิไปกาญจน์ 145 กิโลฯ” หัวหน้าสถานีปิล็อกแนะ
หยุดยาวที่ผ่านมา แน่นขนัด
เดี๋ยวนี้คนมาเที่ยวปิล็อก หมด ทองผาภูมิ ไม่นอนแล้ว มานอนที่นี่ ใครก็อยากมา ที่หยุด 3 วันที่ผ่านมานี่ จากภาคใต้ เหมารถสองแถวขึ้นมากันเลย รถติดเต็มเลย ผมต้องไปโบกรถเอง ไม่งั้นเอาไม่อยู่ ทั้งๆที่มี อีต่อง เป็นที่เดียวที่คนจะมาเที่ยว รถก็ต้องมาจอด แน่นไปหมด จอดติดกันตรงนี้
ครับ….เอาไว้เป็นข้อมูลนักท่องเที่ยวที่สนใจจะเอาร่างกายไปสัมผัสความหนาวและธรรมชาติล้วนๆในช่วงนี้
เปิดเฟซบุ๊กเข้าไปที่เพจสถานีตำรวจภูธรปิล็อก หรือเฟซบุ๊ก พ.ต.ท.ชยุตม์ พิพัฒน์ทวีกุล แล้วติดต่อกันเอาเองตามสะดวกนะครับ
เฮียเก๋15/12/61